สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 9 (อุดรธานี) แจงตัวอย่างน้ำโขงช่วง จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม ปนสารหนูเกินมาตรฐานเล็กน้อย ลุยสอบหาต้นตอ ยันไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำประปาเพราะมีกระบวนการบำบัดและผลิตตามขั้นตอน

วันที่ 17 พ.ย. 2568 หลังจากประชาชนลุ่มแม่น้ำโขงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีกระแสกังวลน้ำในแม่น้ำโขงตรวจพบสารปนเปื้อน โดยเฉพาะสารหนู ที่เกินค่ามาตรฐาน บางส่วนมีการโพสต์ในโลกโซเชียล ในข้อกังวลถึงผลกระทบต่อการใช้น้ำ เพื่อการอุปโภค บริโภค ในพื้นที่ หรือแม้แต่การทวงถามถึงการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อกระตุ้นการรับรู้ และป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า นางกุลญดา ทอนมณี ผู้อำนวยการ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 9 (อุดรธานี) ได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า เราได้ติดตามตรวจคุณภาพในแม่น้ำโขง เขตพื้นที่รับผิดชอบมาโดยตลอด ในเรื่องการตรวจหาสารหนู เราเริ่มเก็บตัวอย่างเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2564 ครั้งนั้นเราตรวจไม่พบ จากนั้นก็เริ่มดำเนินการตรวจหาสารหนูมาตั้งแต่งบประมาณปี 2565 จนถึงปัจจุบัน

เริ่มแรกกำหนดเก็บตัวอย่าง 4 จุด คือ 1.สถานีแก่งคุดคู้ ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย 2.สถานีหลังครัวคูณเก้า ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย 3.สถานีหลังวัดโพธาราม ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ 4.สถานีดอนหมากกระทัน ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม กระทั่งมีการเพิ่มจุดเฝ้าระวังเพิ่มเติมอีก 1 จุด คือ สถานี บ.คกงิ้ว ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย เริ่มเก็บตัวอย่างวันที่ 8 ก.ค.2568 ซึ่งทั้งหมดจะเก็บตัวอย่าง 4 ครั้งต่อปี

นางกุลญดา เปิดเผยอีกว่า ผลการติดตามตรวจสอบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 - มิถุนายน 2568 พบว่าปริมาณโลหะหนัก สารหนู (As) ทั้ง 4 สถานี ตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ.2537) กำหนดให้มีค่าไม่เกิน 0.010 มิลลิกรัม/ลิตร วันที่ 7 - 8 กรกฎาคม 2568 ในพื้นที่ จ.เลย และ จ.หนองคาย พบปริมาณสารหนู มีค่าอยู่ในช่วง 0.012 - 0.013 มิลลิกรัม/ลิตร วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย พบปริมาณสารหนู มีค่าอยู่ในช่วง 0.015 มิลลิกรัม/ลิตร ช่วงวันที่ 6 - 13 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ เลย หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม พบปริมาณสารหนู มีค่าอยู่ในช่วง 0.013 - 0.019 มิลลิกรัม/ลิตร

และช่วงวันที่ 8 - 10 กันยายน 2568 ในพื้นที่ ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย และ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังเพิ่มเติม พบปริมาณสารหนู มีค่า 0.011 มิลลิกรัม/ลิตร ค่าที่มันสูงขึ้นคาดว่าเกิดจากกระแสน้ำที่สูงพัดเชี่ยวแรง ทำให้ตะกอนมันฟุ้งขึ้นมา แต่พอน้ำลดลง ไหลเชี่ยวลดลง ก็พบว่าปัญหามีปริมาณลดลง หรือแม้แต่บางจุดก็ไม่พบเลย หลังจากเราได้ผลตรวจวัด ทุกครั้งที่ตรวจพบ เราก็แจ้งไปยังจังหวัดนั้นๆ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบแล้ว รวมทั้งประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของเราด้วย

ผอ.สนง.สิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 9 ชี้แจงย้ำว่า น้ำที่มีค่าเกินมาตรฐาน ถ้าหากจะนำมาอุปโภคบริโภค ก็มีการบำบัดให้ได้ค่ามาตรฐาน อย่างเช่น การประปาเขาก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ได้ร่วมกันจัดประชุมอบรมเชิงปฏิบัติการณ์มาแล้ว เพื่อที่จะได้แจกจ่ายให้ประชาชนเป็นไปตามมาตรฐาน ต่อคำถามที่ว่าสารหนูมาได้อย่างไร ทางกรมควบคุมมลพิษ ได้มีความห่วงใย และเร่งดำเนินการนโยบายมาโดยตลอด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้มีการประชุมออนไลน์ และจะประชุมติดตามความคืบหน้าในวันอังคารนี้ สั่งการให้ตรวจในพื้นที่ สคพ.9 อย่างละเอียด ต่อเนื่องไปถึง สคพ.12 อุบลฯ ซึ่ง สคพ.12 ตั้งแต่ จ.มุกดาหาร ลงไปยังตรวจไม่พบสารหนู

ส่วนในแผนระยะยาว เราจะตรวจสอบคุณภาพน้ำต่อไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะดูว่าสารหนูเราพบในฤดูไหนบ้าง มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้สารหนูมันเกิดขึ้น มันเพิ่มขึ้นในแหล่งน้ำ จนทำให้เราตรวจพบ และจะสืบค้นหาว่าสารหนูมันมีสาเหตุหรือแหล่งกำเนิดมาจากอะไร ตอนนี้เราก็ยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจน แต่ว่าจากข้อมูลธรณีวิทยาในพื้นที่ จ.เลย มีสารหนูในดิน ในธรรมชาติ หรือแหล่งแร่ในพื้นที่อยู่แล้ว ก็อาจจะทำให้ปนเปื้อนออกมาได้ หรือแม้แต่อาจจะเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ หรือมลพิษข้ามแดน เราต้องสืบค้น ศึกษา และวิจัยต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามแหล่งข่าวใน สนง.การประปาส่วนภูมิภาค จ.อุดรธานี พบว่ามีการสูบน้ำจากแม่น้ำโขง จากสถานีสูบน้ำดิบวัดราษฎ์จำนง บ.ท่าดอกคำ ต.เมืองหมี อ.เมือง จ.หนองคาย ระยะทาง 8 กม. มาที่สถานีผลิตน้ำประปา ต.ปะโค อ.เมือง จ.หนองคาย เพื่อสูบส่งไปบริการในพื้นที่ อ.เมือง จ.หนองคาย และตามเส้นทาง ถ.มิตรภาพ มาถึง อ.เมือง จ.อุดรธานี และมีการนำมากระจายบริการในเขตเมือง อ.อุดรธานี บางส่วนวันละ 20000 ลบ.ม.ต่อวัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 จากรายงานพบว่ามีการประสานรายงานคุณภาพน้ำอยู่ตลอด และมีการบำบัดก่อนการผลิตตามขั้นตอน ไม่ส่งผลต่อคุณภาพน้ำประปาในพื้นที่