การก่อสร้างประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำหนองสองห้อง ตั้งอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง จังหวัดหนองคาย เป็นโครงการที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง ของลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่างทั้งสองจังหวัด พื้นที่รับน้ำ 2,260 ตารางกิโลเมตร ที่นายสุนทร คำศรีเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 5 ได้ลงพื้นที่มาติดตามวางแผนการทำงานอย่างละเอียด

นายสุนทร คำศรีเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 5 เปิดเผยถึงการทำงานโครงการนี้ว่า มีองค์ประกอบหลักอยู่ 7 องค์ประกอบ คือ 1 ก่อสร้างประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำบ้านแดนเมือง ซึ่งประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำแห่งนี้เป็นหัวงานหลักในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จำนวน 10 เครื่อง อัตราการสูบน้ำสูงสุด 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่จะช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม กรณีน้ำท่วมจะสามารถสูบน้ำออกจากตัวเมืองสู่ลำน้ำโขง ส่วนกรณีภัยแล้งก็จะสามารถสูบน้ำเข้ามาในลำน้ำห้วยหลวงได้

องค์ประกอบที่ 2 คือการปรับปรุงพนังกั้นน้ำตามลำน้ำสาขาฝั่งขวาของลำน้ำห้วยหลวง องค์ประกอบที่ 3 คือการพัฒนาพนังกั้นน้ำฝั่งซ้ายฝั่งขวาเพิ่มเติม ฝั่งซ้าย 43 กิโลเมตร ฝั่งขวา 43 กิโลเมตร องค์ประกอบที่ 4 คือประตูน้ำตามลำน้ำสาขา และประตูน้ำตามแม่น้ำสายหลักในลุ่มน้ำห้วยหลวง 3 แห่งคือ ประตูระบายน้ำดงสะพัง ประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำหนองสองห้อง และประตูระบายน้ำพร้อมสถานีสูบน้ำบ้านดอนกลอย

องค์ประกอบที่ 5 คือการพัฒนาโครงข่ายระบบชลประทาน หรือโครงการพัฒนาพื้นที่ชลประทานเพิ่มอีกทั้งหมด 13 โครงข่าย เพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทาน องค์ประกอบที่ 6 คือโครงการแก้มลิง การพัฒนาแก้มลิงอีก 20 แห่ง สามารถเก็บกักน้ำในลุ่มน้ำห้วยหลวงได้อีกประมาณ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร และองค์ประกอบที่ 7 คือการจัดทำระบบบริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ

“ซึ่งหากโครงการนี้ดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว และดำเนินการสำเร็จ สิ่งหนึ่งที่เราคาดหวังและคาดการว่าจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนคือ สามารถที่จะบรรเทาปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งในพื้นที่ 2 จังหวัด คือจังหวัดอุดรธานี 6 อำเภอ จังหวัดหนองคาย 1 อำเภอ หนองคายคืออำเภอโพนพิสัย รวมแล้ว 7 อำเภอ 2 จังหวัด ที่เราคาดว่าจะบรรเทาปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้ และเพิ่มพื้นที่ชลประทานใหม่อีก 300,000 ไร่เศษ อันนี้คือสิ่งที่เราคาดหวัง”

“เมื่อมีน้ำแล้วเราจะปลูกพืชที่มีมูลค่าสูงหรือเป็นพืชทางเศรษฐกิจ สำหรับพื้นที่แห่งนี้ส่วนใหญ่ปลูกข้าวรองลงมาจะเป็นการส่งเสริมเรื่องของอ้อย มันสำปะหลัง แล้วนอกจากนั้นในอนาคตสิ่งหนึ่งที่เกษตรกรเริ่มที่จะพัฒนาคือเรื่องของการของปลูกพืชขายเมล็ดพันธุ์ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า”  ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 5 กล่าว