"อ้อ ไพรัช" เซ็งถูกผู้ใหญ่ใน จ.สุรินทร์ สกัดจัดกิจกรรมทวงปราสาทตาควาย ลั่นให้ประชาชนตัดสินใจเอง ไม่ฝากความหวังกับภาครัฐแล้ว เผยทหารในพื้นที่ให้กำลังใจ อยากให้จัดกิจกรรมเต็มที่
วันที่ 7 พ.ย. 2568 จากกรณีที่นายไพรัช คำมณี อินฟูลเอนเซอร์ชื่อดัง เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก อ้อ ไพรัช-คนกรุงเทพเหลา ออกมาประกาศจัดกิจกรรมรวมพลังประชาชนทวงคืนปราสาทตาควาย ที่จังหวัดสุรินทร์นั้น ล่าสุดวันนี้นายไพรัชได้เปิดเผยกับทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 ว่า ความตั้งใจของตนที่เลื่อนไปจัดวันที่ 8 พฤศจิกายน และปรับรูปแบบกิจกรรมเป็นลักษณะของงานบุญ เพราะตนก็เสียดายเงินค่ามัดจำดนตรี จึงโยกมาจากเพื่อหาเงินเข้าวัด เพื่อสร้างกุฏิแทน ซึ่งตนก็เดินทางไปทำเรื่องในการขออนุญาตใช้เสียงซึ่งตามกระบวนการก็เสร็จสิ้น และวางแผนงานพร้อมกับผู้ใหญ่บ้านในชุมชนทั้งหมดแล้ว
แต่ปรากฏว่า ผู้ใหญ่บ้านโทรมาบอกกับตนว่าไม่สามารถจัดกิจกรรมได้แล้ว เนื่องจากถูกกดดันจากผู้ใหญ่บ้านเมือง ซึ่งเป็นใครนั้นตนก็ไม่ทราบเพราะผู้ใหญ่บ้านแจ้งว่าคนสั่งห้ามบอก ตนจึงบอกกลับไปว่า “ไม่เป็นอะไรหากไม่สบายใจก็จะยุติกิจกรรม”
ส่วนที่ตนโพสต์เอาไว้ว่า “กิจกรรมทวงคืนปราสาทตาควาย ทหารในจังหวัดสุรินทร์ไม่ว่าชั้นผู้น้อยชั้นผู้ใหญ่เค้าสนับสนุนให้ประชาชนออกมาแสดงพลังนะครับ“ นั้น ยืนยันว่าทหารในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นทหารชั้นผู้น้อยหรือชั้นผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนจริง แม้กระทั่งที่ตนเดินทางไปที่ กอ.รมน. น้องก็สนับสนุนให้ตนทำกิจกรรม และยังบอกอีกว่าให้ประชาชนมาร่วมแสดงพลังกันให้เยอะๆ ซึ่งทหารทุกคนไม่ได้ห้าม แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย

นายไพรัช บอกว่าหลังจากนี้ก็ขอให้ประชาชนเป็นคนตัดสินเองเพราะตนรู้สึกเหนื่อยมากแล้ว แม้ในตอนนี้จะมีคนเชียร์มากมายให้ตนได้จัดกิจกรรมอีกครั้ง แต่ตนก็รู้สึกพอแล้ว ตอนนี้ไม่มีกำลังใจ เพราะตนอาสามาจัดกิจกรรมในครั้งนี้กลับถูกมองว่าเป็นศัตรู ซึ่งตนเชื่อว่ามีข้าราชการในจังหวัดสุรินทร์เกลียดตนอยู่หลายคน แต่ไม่ทั้งหมดเพราะยังมีตำรวจในเขตอำเภอกาบเชิง โทรมาให้กำลังใจตนอยู่ ซึ่งตนก็ย้ำว่าการจัดกิจกรรมแสดงออกในครั้งนี้ ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อใคร เพราะกิจกรรมในครั้งนี้มันมีขอบเขตของมันในพื้นที่ตรงนี้ไม่ได้ติดชายแดนเหมือนพื้นที่บ้านหนองจาน ที่จะสามารถเข้าไปปะทะกับชาวกัมพูชาได้ เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นเขตชายแดนที่เป็นป่ากั้น และตนจะไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ทหารชั้นผู้น้อยแน่นอน
ซึ่งโอกาสที่จะกลับมาจัดอีกครั้งนั้น นายไพรัช บอกว่าตอนนี้มีเพื่อนๆ ของตนโทรมาบอกว่าถ้ามีโอกาสก็จะร่วมด้วย ซึ่งตนมองว่าให้หมดช่วงฝนตกไปก่อนแล้วกัน ค่อยว่ากันใหม่ ซึ่งในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ตนก็อยากเห็นว่าประชาชนคนไทยจะเดินทางมาร่วมกับตนมากน้อยแค่ไหน ที่เป็นกลุ่มคนรักชาติและอยากได้ประสาทตาควายคืน ตั้งแต่มีการประกาศ ว่าจะมีการจัดกิจกรรมตนได้ประเมินเอาไว้จากข้อความที่ส่งเข้ามาว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมอย่างน้อยกว่า 3,000 คน และคาดว่าน่าจะมากกว่านั้น ตนก็รู้สึกเสียดายเพราะตอนแรกคาดหวังว่าเมื่อมีการจัดกิจกรรมพ่อค้าแม่ขาย ก็จะได้เดินทางเข้ามาขายของได้ด้วย
เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงหน่วยงานรัฐหรือไม่ นายไพรัช บอกว่า “ ผมคงไม่ฝากความหวังอะไรแล้ว แค่จะจัดงานเล็กๆ เขาไม่ให้ผมจัดเลย ผมก็คงไม่ฝากอะไรกับเขาแล้ว ให้ประชาชนตัดสินเอาดีกว่าครับ”
ส่วนเรื่องข่าว ที่จะมีการปล่อยตัวเชลยศึกกลับไปกัมพูชานั้น นายไพรัช มองว่า ไม่รู้ว่าวันไหนจะมีการยิงกันอีก เมื่อปล่อยเชลยศึกไปก็จะกลับมายิงไทยอีก ในเมื่อไทยครอบครองตัวเชลยศึกอยู่ ก็นำไปเจรจาเพื่อขอคืนปราสาทตาควาย ซึ่งถ้าฝั่งกัมพูชาไม่ให้เราใช้เป็นข้อต่อรองว่าจะไม่คืนตัวเชลยให้กับฝั่งกัมพูชาเช่นกัน แล้วเป็นการตอกย้ำว่าฝั่งกัมพูชาจะรักประชาชนหรือทหารแค่ไหน จะดิ้นรนเพื่อเอาทหารของฝั่งเขากลับไปหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าฝั่งกัมพูชาไม่รักใครอยู่แล้ว เพราะฝั่งนั้นรักแต่ฮุนเซนคนเดียว
"เจ้าอาวาสวัดบึงบูรพา" เสียดาย กิจกรรมทวงคืนปราสาทตาควายถูกผู้ใหญ่สั่งยกเลิก เชื่อเป็นกิจกรรมที่ดี เผยทหารด่านหน้าตัดพ้อให้ฟัง ทำอย่างไรจะได้ปราสาทคืน
ด้านพระอธิการบุญเรือง ยโสธโร เจ้าอาวาสวัดบึงบูรพา ซึ่งเป็นสถานที่ใหม่ ที่เตรียมจะจัดงานในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งหลังจากประกาศจากนายไพรัช ว่าจะยกเลิกจัดกิจกรรมดังกล่าว เจ้าอาวาสวัดบึงบูรพา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ทราบว่ากิจกรรมถูกยกเลิกไป ก็รู้สึกเสียดายโอกาสที่จะมีญาติโยมเดินทางมาร่วมทำบุญที่วัด และร่วมบูรณะวัดด้วยตามความตั้งใจของนายไพรัช ที่จะช่วยวัดเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งทางวัดตั้งใจให้จัดงานนี้ตั้งแต่รับการประสานมา แต่เมื่อถูกสั่งให้ยกเลิกก็ไปขัดหน่วยงานราชการไม่ได้ เจ้าอาวาสท่านยังบอกอีกว่า “เสียดายเมื่อโอกาสแล้ว แต่โอกาสก็หายไป“ ซึ่งทางวัดยังหวังว่าอนาคตข้างหน้า จะมีการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งทางวัดก็พร้อมในการสนับสนุนสถานที่เช่นเดิม

พระอธิการบุญเรือง ยังบอกอีกว่า สำหรับกิจกรรมในการทวงคืนประสาทตาควาย นับว่าเป็นกิจกรรมที่ดี และได้เห็นคนไทยร่วมกันรักษาอนุรักษ์ประเพณีไทย และปราสาทตาควาย เพราะเห็นมานาน แม้จะยังไม่เคยมีโอกาสไปที่นั่น แต่ก็ทราบว่าอยู่ในประเทศไทย เจ้าอาวาสบอกว่า เมื่อ 2-3 วันก่อน ได้มีโอกาสคุยกับทหารที่มาจากปราสาทตาควาย ซึ่งทหารก็บ่นว่าทำอย่างไรจะได้ปราสาทตาควายคืน ทางเจ้าอาวาสก็ได้เอาใจช่วย และบอกให้สู้อย่างเดียว ให้ทหารให้นำปราสาทกลับคืนมาให้ได้สนับสนุนอย่าเต็มที่ ส่วนจะเสียปราสาทตาควายไปแล้วหรือไม่นั้น เจ้าอาวาสบอกว่ายังไม่ทราบ














