"ปอ ปิฎก" เผย "ทักษิณ" คิดมากห่วงบ้านเมือง-ขู่ฟ้องคนโยง "สแกมเมอร์"

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 พ.ย. 68 ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม นายปิฎก สุขสวัสดิ์ หรือ ปอ สามีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนครอบครัวเพียงคนเดียวเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมกับนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ ชินวัตร โดยใช้เวลาเข้าเยี่ยมประมาณ 45 นาที

ต่อมา นายปิฎก ออกมาเปิดเผยว่า สำหรับเรื่องสุขภาพของคุณพ่อโดยรวมยังคงโอเค และคุณพ่อก็บอกว่าอยู่จะครบ 2 เดือนแล้วในวันที่ 9 พ.ย. แต่ด้วยความเป็นคนแอคทีฟ ก็จะมีคิดมากหน่อยในช่วงนี้ เพราะคุณพ่อพอได้ยินข่าวสภาวะบ้านเมืองตอนนี้ก็รู้สึกเป็นห่วง

ด้านนายวิญญัติ กล่าวว่า วันนี้เป็นการพูดคุยของนายปิฎก ซึ่งเป็นตัวแทนครอบครัวได้พูดคุยกับคุณทักษิณราว ๆ ครึ่งชั่วโมง แต่ในส่วนของตนที่ได้พูดคุยกับคุณทักษิณ ตนก็ได้มีการรายงานหลาย ๆ เรื่อง ประกอบกับมีเรื่องของสถานการณ์บ้านเมืองบางส่วนที่บางกรณีมาพาดพิงคุณทักษิณ ตามที่เห็นเป็นข่าว ซึ่งคุณทักษิณได้แจ้งเรียนตามตรงว่าคุณทักษิณไม่เคยเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ หรือพนันออนไลน์ใด ๆ ดังนั้นคนที่แอบอ้างหรือกล่าวหา หรือจัดทำภาพประกอบ เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตนั้น ตนได้มีการติดตามมอนิเตอร์ดูอยู่ และจะพิจารณาดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม หากยังไม่มีหลักฐานอะไรยืนยัน ก็ควรหยุดการกระทำ เพราะมันกระทบต่อชื่อเสียงของคุณทักษิณ ปัจจุบันคุณทักษิณอยู่มาจะ 2 เดือนแล้ว พบว่าสุขภาพโดยรวมยังดีอยู่ เพราะพยายามดูแลตัวเองอย่างดี แต่เท่าที่ดู คุณทักษิณก็มีความเครียด เพราะอยู่ด้านในจะ 2 เดือน คนไม่เคยก็จิตตกได้ และคุณทักษิณก็มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน ห่วงบ้านเมือง ห่วงสถานการณ์บ้านเมืองพอสมควร เพราะช่วงนี้เห็นมีปัญหาเกี่ยวกับอาชญากรรมและปัญหาที่เกิดขึ้น มันก็อยู่ในสิ่งที่คุณทักษิณมีวัตถุประสงค์อยากจะปราบปรามเรื่องพวกสแกมเมอร์มาตลอด แต่พออยู่ด้านในก็ทำอะไรมากไม่ได้ ท่านก็ห่วงประชาชนเหมือนเดิม คุณทักษิณเสียดายโอกาสก็ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างจริงจัง ใครที่มีผลประโยชน์อย่างไรก็อย่าลากคุณทักษิณไปเกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีความสัมพันธ์ระหว่างนายทักษิณ และนายเบน สมิธ มีสิ่งใดที่นายทักษิณ อยากชี้แจงหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็ปรากฏภาพการไปรับประทานอาหารร่วมกัน นายวิญญัติ กล่าวว่า กรณีของนายเบน สมิธ เป็นเพียงความรู้จัก แต่คุณทักษิณไม่เคยร่วมลงทุนอะไรด้วย และก็ขอให้ไปตรวจสอบดูเลยว่านายเบน สมิธ ได้มีการลงทุนทำอะไรในประเทศไทยหรือไม่ ตนเชื่อว่าไม่มี ฉะนั้น ถ้าไม่มีและเขาไม่ได้เกี่ยวข้องจริง ๆ การที่ไปจับแพะชนแกะ หรือพยายามโยงให้เป็นประเด็นหรือกระแสใด ๆ ก็อยากให้หลายท่านได้ทบทวน

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าคุณทักษิณและนายเบน สมิธ คือแค่คนรู้จักกัน มีคนอื่นแนะนำให้รู้จัก มันก็เป็นเรื่องปกติที่ประชาชนทั่วไปเดินทางมาพบและสวัสดี พูดคุยกับคุณทักษิณ เพราะคุณทักษิณเป็นคนอัธยาศัยดี และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคนรู้จักกันทั่วโลก รู้จักแล้วก็ต้องคุย นี่คือสิ่งที่ตนพูดจากการได้สัมผัสรู้จักคุณทักษิณ ย้ำว่าในตอนนี้ตนยังไม่ได้ตัดสินใจฟ้องใคร เพียงแต่ว่ามาอัปเดตให้คุณทักษิณทราบว่ามีใครพาดพิง หรือจัดทำข้อมูลเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ก็ให้หยุดการกระทำ ตนบอกได้เลยว่าคุณทักษิณไม่เกี่ยวข้องและปฏิเสธความเชื่อมโยงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตัวอักษรย่อ หรือพูดเพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นคุณทักษิณ เพราะคนที่ออกมาปูดหรือออกมาแฉ เขาก็บอกอยู่แล้วว่าไม่เกี่ยวกับคุณทักษิณ ฉะนั้น ต้องหยุดการกระทำขุดบ่อล่อปลา

นายวิญญัติ กล่าวว่า กรณีที่คุณทักษิณ อยู่ด้านในจะครบ 2 เดือนแล้วนั้น หากมองเรื่องของโครงการพักการลงโทษ จะมีสิทธิได้รับการพิจารณาเมื่อถึงระยะเวลาสมควรหรือไม่นั้น อันนี้ตนเชื่อว่าทางเรือนจำฯ และกรมราชทัณฑ์ จะมีการพิจารณาตามกฎหมายระเบียบที่มี เพราะถ้าหากมีสิทธิใด ๆ ที่เราเข้าเกณฑ์คุณสมบัติ เราก็จะใช้เต็มที่ แต่เราไม่ไปเรียกร้องอะไรที่นอกเหนือกฎหมายแน่นอน เพราะที่ผ่านมาคุณทักษิณก็ทำตามกฎหมายอยู่แล้ว แค่มีบางมุมที่บางคนไม่เห็นด้วย คุณทักษิณในฐานะเป็นผู้ต้องขังชั้นกลาง ยังไม่ได้รับการปรับเลื่อนชั้นในตอนนี้ ภายภาคหน้าก็มีสิทธิที่จะได้รับการพิจารณา ทั้งการพักโทษ ลดวันต้องโทษ หรือการปรับเลื่อนชั้นตามขั้นตอนของระเบียบกรมราชทัณฑ์ ส่วนกรอบระยะเวลา ตนไม่ทราบจริง ๆ เพราะก็ขึ้นอยู่กับประกาศหรือระเบียบใดที่กรมราชทัณฑ์มี สำหรับผลการถวายฎีกายื่นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายครั้งล่าสุดของคุณทักษิณ ที่ได้ทูลเกล้าฯ ไปนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้รับทราบผลแจ้งฎีกาว่าอย่างไรบ้าง แต่น่าจะอยู่ในกระบวนการนำขึ้นกราบบังคมทูล ตนก็หวังว่าคุณทักษิณ จะได้รับความเมตตา