ประชุม JBC สมัยพิเศษเริ่มแล้ว ล่าช้า 1 ชั่วโมง หลังแต่ละฝ่ายหารือนอกรอบ "ทูตประศาสน์" นำทีมไทยเปิดประชุม หวังผลนำไปสู่สันติภาพ ขณะวาระประชุมตามเดิม 2 เรื่อง "กัมพูชาล้ำพื้นที่ไทยหนองจาน หนองหญ้าแก้ว - แจ้ง สร้างรั้วกั้นแดน"
วันนี้ 21 ต.ค. 2568 เมื่อเวลา 12.05 น. การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา หรือ JBC สมัยวิสามัญ ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ที่โรงแรมมณีจันทร์ รีสอร์ต จ. จันทบุรี โดยมี นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เป็นประธานกรรมาธิการฯ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เป็นประธานการประชุม
โดยก่อนการเปิดการประชุม เมื่อผู้นำทั้งสองฝ่าย เข้ามาภายในห้องประชุม หัวหน้าคณะฝ่ายไทย ได้จับมือกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักเลขาธิการแห่งรัฐว่าด้วยกิจการชายแดน ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนฝั่งกัมพูชา
จากนั้น นายประศาสน์ กล่าวเปิดประชุม ช่วงต้นระบุว่า ทางการไทยหวังว่าท่านจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น สำหรับการประชุมสมัยพิเศษนี้ ในการหารือเรื่องการเส้นเขตแดนที่มีความซับซ้อน และจากผลการประชุมครั้งที่แล้ว หวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่สันติภาพ
โดยการประชุมในวันนี้ ถือว่าล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมไป 1 ชั่วโมง จากเดิมกำหนดการเปิดการประชุมในเวลา 11.00น. แต่ขยับเวลามาเป็น 12.05น. เนื่องจาก ก่อนการประชุม ทั้งสองฝ่าย มีการหารือนอกรอบอย่างไม่เป็นทางการ
สำหรับผู้แทนฝ่ายไทย ที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ ประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ , เอกอัครราชทูตณกรุงพนมเปญ , อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก , อธิบดีกรมการปกครอง , เจ้ากรมแผนที่ทหาร , เจ้ากรมอุทกศาสตร์ , ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย , ผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย และผู้แทนจากเหล่าทัพ ร่วมเป็นกรรมาธิการ
ขณะที่ ผู้แทนฝ่ายกัมพูชา ประกอบด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม , รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย , ปลัดกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ , รองผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 5 ผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน/ ผู้ว่าราชการโพธิ์สัตว์ /รองผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงาน ของกัมพูชา รวมกว่า 60 คน ร่วมเป็นกรรมาธิการ
ซึ่งประเด็นหลักที่จะหารือกันนี้ในการประชุม ครั้งนี้ซึ่งถือเป็นวาระพิเศษ ที่จะมีการหารือ กรณีที่ประชาชนชาวกัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทยบริเวณบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว และแจ้งให้กัมพูชาทราบว่าพื้นที่ที่ไทยจะ สร้างรั้วแนวตรงเชื่อม หลักเขตแดนที่สองฝ่ายเห็นตรงกัน เพราะก่อนหน้านี้ อธิบดีกรมสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า จะคุยกันเพียงแค่สองประเด็นนี้เท่านั้น จะไม่คุยเรื่องของการปักปันเขตแดน เพราะนี่ไม่ใช่วาระปกติ