ยาย 79 ปี เหยื่อระเบิดร้านน้ำชา "ยี่งอ" เสียชีวิตแล้ว ญาติเผยระเบิดพรากฝัน "ไปฮัจย์" ในบั้นปลายชีวิต หลานสาววอนยุติความรุนแรง ชี้ชาวบ้านไม่รู้เรื่องต้องรับเคราะห์แทน
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2568 มีรายงานว่า นางสาวรอเมาะ อายุ 79 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณร้านน้ำชาในชุมชน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบแล้วที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ หลังต่อสู้กับอาการบาดเจ็บสาหัสจากแรงระเบิดเพียง 2 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านของผู้เสียชีวิต เต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ โดยมีบรรดาญาติมิตรทั้งใกล้ชิดและจากพื้นที่อื่นเดินทางมาร่วมไว้อาลัยและให้กำลังใจกับครอบครัว ทางญาติได้นำร่างของคุณยายรอเมาะไปฝังตามพิธีทางศาสนาอิสลาม ณ กูโบร์จืองา บ้านบูเก๊ะปาลัส ม.4 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส
เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.50 น. ของวันที่ 16 ตุลาคม 2568 โดยคนร้ายได้ลอบวางระเบิดบริเวณหน้าร้านน้ำชาในชุมชน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บรวม 10-14 ราย ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายราย ซึ่งคุณยายรอเมาะเป็นหนึ่งในนั้น โดยมีรายงานว่าคุณยายต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างหนัก เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิดเข้าจุดสำคัญ ทั้งการตัดขาและการผ่าตัดช่องท้อง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ด้าน นางลัดดาวรรณ หลานสาวของผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดต่อผู้สื่อข่าว โดยระบุว่าเหตุการณ์ความรุนแรงเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนที่มีทั้งคนแก่และเด็ก
"สิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับชาวบ้าน เพราะชาวบ้านไม่ได้ผิดอะไร สิ่งที่ทำมันเกิดในหมู่บ้านด้วย แล้วมีคนแก่อยู่หลายคน แล้วหน้าบ้านที่มีระเบิดก็มีคนแก่ อายุก็ 80 กว่า บ้านข้าง ๆ ก็มีเด็ก ๆ ซึ่งตรงนี้มีคนเยอะ ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว คือเหตุการณ์มันจะมีมาเรื่อย ๆ ไม่ตรงนี้ก็ตรงนั้น แล้วคนที่ผ่านไปผ่านมาเขาก็โดนไปด้วย โดยที่เขาไม่รู้อะไรเลย" นางลัดดาวรรณกล่าว
พร้อมกันนี้ หลานสาวยังได้เปิดเผยความฝันสุดท้ายของคุณยายรอเมาะที่ต้องพังทลายลงจากเหตุการณ์นี้ว่า "ความคาดหวังของเขาในการ ไปฮัจย์ ครั้งนี้ เขาเดิน เดินทุกเย็นเลย ซื้อรองเท้าให้ เตรียมพร้อม เตรียมพร้อมให้เขา แล้วสุดท้าย สิ่งที่เราหวังมันก็พัง"
นางลัดดาวรรณ ได้กล่าววิงวอนขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ความรุนแรงจะพรากชีวิตคนบริสุทธิ์ไป "ต้องการอะไรชีวิตคนแก่ แล้วก็ชีวิตประชาชนที่ผ่านไปผ่านมาโดยที่เขาไม่รู้เรื่องอะไร เขาต้องมารับเคราะห์ ถ้าไปเกิดกับพ่อแม่พี่น้องเขาบ้าง จะรู้สึกยังไง เขาจะยอมรับได้ไหม" เธอกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำตา