หนุ่มร้องสายไหมต้องรอด ถูกสาวในแอปหาคู่หลอกเงินไปเกือบล้าน ขอเจอตัว ฝ่ายหญิงอ้างต้องมีอะไรด้วยถึงจะให้เจอตัวจริง อึ้ง! เจอสาวไม่ตรงปก

วันที่ 16 ต.ค. 2568 นาย โจ๊ก (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอด กรณีถูกหญิงสาวที่รู้จักในแอปพลิเคชันหาคู่หลอก โดยเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2567 ตนเองเล่นแอปหาคู่ จากนั้นเห็นผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาน่ารัก ชื่อน้องพลอย อายุประมาณ 30 ปี โปรไฟล์เป็นนักธุรกิจโรงงานทอผ้า คนจึงตัดสินใจทักไปพูดคุย และได้ขอแอดไลน์ และพูดคุยกันเรื่อยมา น้องพลอยก็แนะนำตัวและบอกว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจ ทำโรงงานทอผ้าอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนตนเองเป็นพนักงานโรงงานอยู่ที่จังหวัดมหาสารคาม

หลังจากที่พูดคุยกัน น้องพลอยมักจะส่งรูปถ่ายของตัวเองมาให้ดูว่าทำอะไรอยู่ ซึ่งตนเองก็หลงเชื่อ หลังจากคุยกันได้เพียง 10 วัน น้องพลอยขอยืมเงิน 1,000 บาท ซึ่งด้วยความชอบตนเองก็โอนให้ไป

จากนั้นตนเองพยายามขอ video call เพื่อพูดคุยกับน้องพลอย ซึ่งน้องพลอยก็รับสายแต่ไม่ให้เห็นหน้าของตัวเอง บอกว่าอาย และไม่สะดวกให้เห็นหน้า ซึ่งตนเองวิดีโอคอลเกือบทุกวัน แต่น้องพลอยก็ไม่ยอมให้เห็นหน้า มีเพียงส่งรูปมาให้ดู รวมถึงรูปที่ทำงาน ตนเองรู้สึกเอะใจว่าจะเป็นตัวจริงหรือไม่ จึงบอกให้น้องพลอยส่งรูปมาให้ดูเพราะอยากเก็บไว้ในเครื่องโทรศัพท์ของตัวเอง น้องพลอยจึงส่งรูปตัวเองมาประมาณ 50 รูป ทำให้ตนเองเชื่อว่าน่าจะเป็นตัวจริง

หลังจากพี่พูดคุยเรื่อยๆ น้องพลอยอ้างว่า จะนำเงินมาลงทุนทำเสื้อส่งโรงงานล็อตใหญ่ ต้องใช้เงินจำนวนมาก น้องพลอยจึงหยิบยืมเงินทุนของตนเองประมาณ 4,000-5,000 บาท ซึ่งตนเองก็โอนเงินไปให้หลายครั้ง เนื่องจากเชื่อว่าโรงงานต้องมีทุนเพื่อผลิตเสื้อผ้าและส่งออกเป็นจำนวนมาก หากวันไหนที่ตนเองหาเงินให้ไม่ได้ น้องพลอยก็จะบอกว่าโรงงานของตัวเองถึงขั้นวิกฤต หากไม่มีเงินทุนมาหมุนเวียนก็อาจต้องปิดโรงงาน ให้ตนเองพยายามหาเงินมาให้ หากไม่มีก็ให้ตนเองไปหยิบยืมเงินผู้อื่นมา และหากไม่มีน้องพลอยก็อาจจะฆ่าตัวตาย ทำให้ตนเองจำเป็นต้องไปกู้เงินจากเพื่อนในโรงงานที่ตนเองทำงานอยู่ มาจำนวน 100,000-200,000 บาท และยังนำรถยนต์ vios ของตัวเองไปจำนำจำนวน 60,000 บาท และช่วงนั้นเป็นช่วงสิ้นปี เงินโบนัสจากทางโรงงานของตนเองออกพอดี จึงนำเงินให้น้องพลอยอีก 57,000 บาท

ต่อมาเดือนมิถุนายน 2568 ตนเองตกงาน รวมถึงมีหนี้สินที่ไปหยิบยืมเงินมา และส่งค่ารถที่นำไปจำนำ ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปหาน้องพลอย แต่น้องพลอยบอกว่าได้กลับบ้านมาอยู่ที่ จังหวัดศรีสะเกษ ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปหา และไปเปิดรีสอร์ทรอ

แต่พอไปถึงน้องพลอยไม่ยอมออกมา ทำให้ตนเองรู้สึกสงสัยและพิรุธ จึงพยายามบอกกับน้องพลอยว่า ขอให้ออกมาหา น้องพลอยอ้างว่าเงินที่หยิบยืมไปต้องรอให้ญาติผู้ใหญ่นำเงินมาคืนให้ แต่ตนเองต้องตกใจเมื่อน้องพลอยยื่นข้อเสนอว่า หากจะให้น้องพลอยออกมา ต้องยอมมีอะไรกับเธอด้วย เธอถึงจะออกมา ตนจึงจำยอม

จากนั้นน้องพลอยขี่รถจักรยานยนต์มา ทำให้ตนเองตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนั้นทั้งตกใจทั้งโกรธ ภาพในหัวเป็นคนในรูป แต่ตัวจริงไม่เหมือนกัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากตนเองต้องการเงินคืนจากน้องพลอย จึงทำใจต้องยอมมีอะไรด้วย เนื่องจากน้องพลอยบอกว่าพรุ่งนี้จะพาไปหาญาติผู้ใหญ่และนำเงินมาคืน

วันรุ่งขึ้นน้องพลอยพาไปที่บ้านผู้ใหญ่ ไปพบพ่อและแม่ แต่ก็ไม่มีการพูดคุยเรื่องเงิน โดยน้องพลอยอ้างว่า เงินอยู่ที่ผู้ใหญ่อีกท่านหนึ่งที่เป็นข้าราชการ ทำให้ตนรู้สึกว่าถูกหลอกอีกครั้งตนจึงตัดสินใจออกมาจากบ้านของน้องพลอย และมาร้องที่เพจสายไหมต้องรอด