ชุดเฉพาะกิจ กกล.บูรพาพร้อมทีมงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดนบุกช่วย 11 ชีวิต ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนคนไทยถูกขังไว้ชายแดน ก่อนส่งข้ามแดนพื้นที่ ต.ฟากห้วย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
วันที่ 14 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังทีมงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน หรือ IMF ภาคตะวันออก นำโดยคุณเบิร์ด ได้รับแจ้งร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากผู้ปกครองเยาวชน 2 คน จากพื้นที่ จ.นครปฐม และ จ.นครราชสีมา หลังบุตรหลานถูกหลอกให้มาทำงานจากสื่อโซเชียล ซึ่งอ้างว่า มีรายได้ดี มีเงินค่าคอมฯ โดยมีรายได้หลัก 20,000 บาทขึ้นไป เบื้องต้น จะมีสวัสดิการทุกอย่างให้ เช่น มีโน๊ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ฟรี บางเคสบอกว่า สามารถนำอุปกรณ์ต่าง ๆ กลับไปทำงานที่บ้านได้ จึงมีคนหลงเชื่อออกเดินทางเพื่อจะไปทำงานโดยให้เดินทางมาที่ จ.สระแก้ว แล้วพักอยู่ที่ห้องพักย่าน บขส.อรัญฯ ก่อนถูกนำตัวไปไว้ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ฟากห้วย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งแต่เช้าวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่ให้ออกจากห้องไปไหน หากจะกินข้าวก็มีคนจัดหามาให้จนถึงช่วงค่ำ เยาวชนดังกล่าวก็ยังถูกขังไว้
ทั้งนี้ ปฏิบัติการช่วยเหลือเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 13 ต.ค.โดยทีมงานช่วยเหลือคนไทยฯ ได้ประสาน พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ และ ผบ.ฉก.12 กองกำลังบูรพา เพื่อเข้าช่วยเหลือกลุ่มเยาวชนดังกล่าว โดยปฏิบัติการลับฯ เจ้าหน้าที่ ฉก.ร.2พัน.1 ซึ่งได้รับคำสั่งจาก พ.อ.ชัยณรงค์ฯ ได้บุกเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง โดยมีพี่ชายของเหยื่อเข้าไปเรียก ซึ่งจากเดิมบ้านหลังนี้ มีคนคอยดูแลหลายคนไม่ให้เหยื่อเหล่านี้ออกไปไหนลักษณะเหมือนถูกขังไว้ในบ้าน
ขณะเดียวกัน ญาติผู้เสียหาย ซึ่งติดต่อขอความช่วยเหลือตามหาญาติ ที่คาดว่า จะมีการนำพาลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย และตกเป็นเหยื่อของแก๊งกระบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยญาติได้ทำการพูดคุยติดต่อกับผู้เสียหายว่า มีคนไทยที่ถูกนำตัวไปรวมไว้ด้วย เพื่อรอการข้ามแดนไปฝั่งกัมพูชาอีกประมาณ 10 คน และส่งพิกัดมาว่าอยู่บริเวณ พิกัด TA 262 132 ซึ่งจากการตรวจสอบ เป็นบ้านเลขที่ 45 หมู่ 3 ต.ฟากห้วย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมี นายเศกสันต์ สุยกระโทก เป็นเจ้าของบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะบุกเข้าช่วยเหลือ และเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในบ้าน พบคนไทย จำนวน 11 คน หนึ่งในนั้นมีผู้เสียหายที่ญาติตามหา จึงได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่ และประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ปลัดอำเภออรัญประเทศ และกำนันตำบลฟากห้วย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน โดยทั้งหมดถูกนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.อรัญประเทศ ได้นำตัวไปตรวจสอบและขยายผล
ล่าสุด เวลา 00.30 น.พ.ต.อ.ชูชาติ คงเมือง ผกก.สภ.อรัญประเทศ ได้ส่งตัวทั้ง 11 ราย ไปพักไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน หลังสอบสวนเสร็จทุกราย เพื่อนัดเข้ามารายงานตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองตามขั้นตอนในช่วงเวลา 09.00 น. ที่ สภ.อรัญประเทศ โดยคุณเบิร์ด ได้แจ้งเตือนว่า กรณีนี้เป็นการหลอกว่า จะมีคอมฯ มีมือถือให้สำหรับทำงาน สามารถนำกลับไปทำที่บ้านได้ แต่เมื่อเดินทางมาจริง ๆ ถูกนำไปขังไว้ในบ้านโดยไม่ให้ออกไปไหน เพื่อรอพาข้ามแดนไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า ดังนั้น ต้องเตือนบุตรหลานให้ระวังและอย่าหลงเชื่อการชักชวนจากกลุ่มหางานและสื่อโซเชียล ซึ่งระหว่างเข้าไปจับกุมพบ ยาไอซ์ที่สูบแล้วพร้อมอุปกรณ์ น้ำกระท่อม ซึ่งตรวจแล้ว 1 ราย มีสารเสพติด แบ่งเป็น หญิง 3 คน ชาย 8 คน ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย 2 ราย ราชบุรี 1 ราย เชียงใหม่ 2 ราย สุรินทร์ 1 ราย สระบุรี อยุธยา นครปฐมและ นครราชสีมา นครปฐม
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับเหยื่อรายหนึ่ง ซึ่งทำงานเป็นไรเดอร์ ในกรุงเทพฯ ให้ข้อมูลว่า ไปดูข้อมูลหางานในกลุ่มหางานผ่านโซเชียลฯ บอกว่า รายได้เดือนละ 19,000 บาท ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จะต้องมีความถนัดด้านไหน จึงตัดสินใจเดินทางมาโดยนั่งรถมาลงที่ บขส.อรัญฯ ให้พักในโรงแรมบริเวณนั้น 1 คืน รวมกับอีกหลาย ๆ คน ต่อจากนั้นตอนเช้าวันที่ 13 ต.ค.ก็มารับไปไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว และไม่ให้ออกไปไหนเลย หากจะกินข้าวก็มีคนจัดหามาให้จนช่วงค่ำ ก็มีทหารบุกเข้าไปช่วย หากไม่มีคนบุกเข้าไปคงจะถูกส่งข้ามเรือไปฝั่งกัมพูชาแน่นอน