คณะ IOT ลั่นไม่ได้มากล่าวหา แต่มาดูข้อเท็จจริง ร่วมประชุมรับฟังข้อเท็จจริงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ก่อนลงพื้นที่ "ช่องบก"
วันนี้ (4 ต.ค. 68) คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team : IOT) จำนวน 3 ประเทศ ประกอบด้วย บรูไน มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวม 4 นาย นำโดยพลจัตวาซัมซุล ริซัล บิน มูซา (Pol. Col. Samsul Rizal Bin Musa) ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว IOT ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยมี พลตรี สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้บรรยายสรุปสถานการณ์ ก่อนการลงพื้นที่ “ช่องบก” ในช่วงบ่าย
ต่อมาพลจัตวา ซัมซุล ริซัล บิน มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว IOT ของไทย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้ข้อมูลอัพเดตจากกองทัพภาคที่ 2 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็เป็นข้อมูลที่ครอบคลุมและครบถ้วน หลังจากนี้ในช่วงบ่ายวันนี้ และในวันพรุ่งนี้ จะลงพื้นที่ไปดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่อ หลังจากนั้นจะให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ พร้อมย้ำว่าทางคณะ IOT ยังตั้งตารอคอยผลการประชุม RBC และ GBC จากกองทัพภาคที่ 1 และ 2 อยู่
ขณะที่นักข่าวถามต่อว่า แล้วการลงพื้นที่ช่องบก หวังว่าจะได้ประโยชน์อะไรบ้างนั้น
ขณะเดียวกัน พลจัตวา ซัมซุล ได้ตอบคำถามในประเด็นการลงพื้นที่ช่องบก หวังว่าจะได้ประโยชน์อะไรบ้างว่า ขอไปดูสถานที่จริงก่อน แล้วเดี๋ยวจะกลับมาตอบคําถามอีกครั้ง เพราะว่าถ้าให้คําตอบไปเลย โดยที่ยังไม่ได้ไปดู อาจจะตอบได้ไม่ตรงคําถาม ดังนั้นพรุ่งนี้ จะให้สัมภาษณ์อย่างครบถ้วนแน่นอนทันที
ส่วนเรื่องสถานการณ์ภาพรวมของทั้ง 2 ประเทศ ไทย-กัมพูชา เป็นอย่างไรนั้น พลจัตวา ซัมซุล บอกว่า สถานการณ์จริง ๆ ก็รู้ว่าสถานการณ์มันก็มีความเป็นพลวัตพอสมควร และทิ้งท้ายว่า ทางคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวประเทศไทย ทําหน้าที่ในการสังเกตการณ์ถึงข้อเท็จจริง แล้วนําข้อเท็จจริงที่ได้มารายงานขึ้นไปให้หน่วยเหนือได้ทราบ จากนั้นทางหน่วยเหนือจะพูดคุยกัน และจะมาจบลงที่การพูดคุยทวิภาคีระหว่างทั้ง 2 ประเทศ พร้อมเน้นย้ำว่าทางคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวทั้ง 2 ประเทศ ทั้งไทยและกัมพูชา เราไม่ได้มาเพื่อกล่าวหาว่าฝ่ายใดผิด แต่เรามาเพื่อสังเกตการณ์ และมาเพื่อดูถึงข้อเท็จจริง