ผบ.เหล่าทัพ เห็นชอบ ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา จนกว่ากัมพูชา จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อไทย เดินหน้าสร้างรั้ว ยึดหลักป้องกันตนเอง
วันนี้ (19 ก.ย.68) ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก, พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ, พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ และพลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมการประชุม โดยก่อนเริ่มการประชุม ทุกคนได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ทหารหาญ 15 นาย และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ 14 ราย ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้หารือประเด็นสำคัญ 3 ประเด็น โดยภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น ที่ประชุมมีมติว่า 1. การปิดจุดผ่านแดนถาวร และจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ประชุมเห็นชอบให้คงสภาพปัจจุบันในการปิดด่าน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หรือกัมพูชาไม่เป็นภัยคุกคามต่อไทยอีกต่อไป
2. เห็นว่าปัจจุบันกัมพูชายังถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ จึงจัดทำรั้วชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งมีข้อสรุปสำหรับการสร้างรั้วชายแดน เห็นควรสร้างในพื้นที่เส้นเขตแดนที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้แล้ว สำหรับในพื้นที่ที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ จะใช้มาตรการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้มีการสร้างเส้นทางยุทธวิธีตลอดแนว
3. แนวทางดำเนินการต่อการละเมิดอธิปไตยของไทย โดยมีข้อสรุปดังนี้ คือ การดำเนินการตามกฎการใช้กำลังสากล (ROE — Rules of Engagement) เมื่อการกระทำเข้าข่ายการกระทำที่เป็นปรปักษ์ (Hostile Act) หรือเจตนาที่เป็นปรปักษ์ (Hostile Intent) โดยเฉพาะหากเป็นการสอดแนม หรือเตรียมโจมตี ซึ่งตามกฎการใช้กำลัง สามารถใช้เป็นเหตุเริ่มการป้องกันตนเองได้ โดยได้วางมาตรการทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ทั้งนี้ ได้นำเสนอแนวทางการปฏิบัติไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพในครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งสุดท้าย ก่อนที่ผู้บัญชาการเกือบทุกเหล่าทัพ จะเกษียณอายุราชการ ยกเว้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พี่จะเกษียณอายุราชการในปี 2559 และผู้บัญชาการทหารบก ที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2570