จับตานโยบายเกษตรฯ พรรคกล้าธรรม จะ "กล้าทำเพื่อเกษตรกรแค่ไหน" การกลับมาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“อีเสี้ยม ขยี้เกษตร” เข้าเวรจับประเด็นข่าว เห็นรายชื่อ ครม.อนุทิน1 โดยว่าที่รัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ คือ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ โดยข้อมูลจากเว็ปไซต์พรรคกล้าธรรมได้มีการวางแนวนโยบายเกษตร คือ ขับเคลื่อนภาคเกษตรโดยตลาดนำ–นวัตกรรมเสริม ดำเนินนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”
พร้อมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ให้เกษตรกรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นนโยบายของเดิม ร้อยเอกธรรมนัส สมัยเป็นรัฐมนตรีเดิม หากมองภาพรวมของนโยบายด้านการเกษตรของพรรคกล้าธรรม สามารถสรุปได้ดังนี้
เน้นการเพิ่มมูลค่าและรายได้: พรรคมีแนวคิดในการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรด้วยการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรให้เป็นผลิตภัณฑ์ชีวภาพอินทรีย์ ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าจากผลผลิตเดิม
ใช้เทคโนโลยีช่วยเกษตรกร: มีการเสนอการใช้แอปพลิเคชันเพื่อช่วยบริหารจัดการการผลิตและวางแผนการเกษตร ซึ่งเป็นแนวคิดที่ทันสมัยและมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพ
ให้ความสำคัญกับน้ำ : การตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ชลประทานทั้งบนดินและใต้ดิน เป็นนโยบายหลักที่มุ่งแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพาะปลูก
โดยสรุปแล้ว นโยบายของพรรคกล้าธรรมเน้นที่การพัฒนาการเกษตรแบบครบวงจร ตั้งแต่การเพิ่มแหล่งน้ำ การใช้เทคโนโลยี ไปจนถึงการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และการนำผลผลิตไปสู่ตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
เรื่องที่ "อีเสี้ยม ขยี้เกษตร" จับตาเป็นพิเศษกับนโยบายภาคการเกษตร โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่และผลกระทบของพี่น้องเกษตรกรในกรณีของภาษีทรัมป์
วันนั้น ร้อยเอก ธรรมนัส ในฐานะของประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ได้ยืนยันชัดเจน ว่า ไม่ยอมให้เกษตรกรไทยเสียเปรียบ เกษตรกรไทยต้องกระทบน้อยที่สุด ต้องมีมาตรการรองรับที่พร้อมใช้ และต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย วันนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ในฐานะว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะจริงจังจริงใจกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน
“อีเสี้ยม ขยี้เกษตร” ก็จะจับตารอชมผลงานว่าที่รัฐมนตรีเกษตรฯ คนใหม่ ว่าจะมีโนยบายอะไรดีๆ ใหม่ๆ ให้พี่น้องเกษตรกรหรือไม่ หรือแค่ “เหล้าเก่า ในขวดใหม่” “อีเสี้ยม ขยี้เกษตร” ก็คงจิกๆ กัดๆ ไปตามเคย อะไรดีก็รอชม อะไรที่ไม่ถูกต้องก็จะมาเขียนให้ได้อ่านกัน
ปิดท้ายข่าวเช่นเคย ด้วยเสียงซุบซิบให้จับตาอังคารที่ 23 กันยายนนี้ คาคว่า ครม.อนุทิน1 จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายใหญ่บิ๊กข้าราชการในหลายกระทรวง ในส่วนของกระทรวงเกษตร ว่าที่อธิบดีป้ายแดง กรมพัฒนาที่ดิน คงหนีไม่พ้น (ดวงผู้หญิงมาแรง เกินต้าน) และในส่วนอีกหนึ่งกรมคือ กรมประมง ก็คงไม่พ้น (ผู้หญิงอีก คนนี้สายตรงจากพะเยา) แต่ตราบใดที่ยังไม่เสนอชื่อเข้า ครม.ก็อาจมีมวยพลิกได้ “อีเสี้ยม ขยี้เกษตร” ...ฝากให้คิด