ตม.สระแก้ว เปิดด่านบ้านคลองลึกกรณีพิเศษ อนุโลมให้ชาวไทย-กัมพูชา ที่ตกค้างเดินทางกลับประเทศ เมื่อวานวันสุดท้าย

เมื่อวาน (31 ส.ค.) บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว ให้บริการพิเศษสำหรับชาวไทย-กัมพูชาเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ เป็นวันสุดท้าย

ก่อนหน้านี้ กระแสข่าวออกมาระบุว่า ทุกวัน พุธ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 13.00-16.00 น. เป็นต้นไป ด่านแห่งนี้ จะเปิดให้คนไทยและคนกัมพูชา เดินทางกลับประเทศ ดีเดย์วันแรกเมื่อวานนี้ ( 31 ส.ค.) เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง ส่วนจุดผ่านแดนอื่นๆ ยังคงปิดตามปกติ

ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า เป็นการเปิดช่องให้นักเสี่ยงโชคชาวไทย และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้ง นักธุรกิจสีเทาแฝงตัวเดินทางเข้าออกปอยเปตได้อย่างสะดวก ไม่ว่า ตม.สระแก้วจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม เนื่องจากทุกอย่างล้วนตั้งอยู่ติดพรมแดนไทย การเดินทางสะดวกสบาย ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมหรือพิสูจน์ได้แน่ชัดคนที่เดินทางเป็นคนกลับภูมิลำเนา, เล่นพนัน” หรือไปทำงานให้แก๊งคอลเซนเตอร์ ยังอาจเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่กระทำการทุจริตได้

ในเรื่องนี้ ฝ่ายความมั่นคงทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดว่า มาตรการที่ออกมามีเจตนาช่วยเหลือประชาชนโดยแท้จริง หรือมีวาระซ่อนแร้นให้ฮุนเซน มีเงินทุนทำสงครามกับประเทศไทยต่อไป

 

ตม.สระแก้ว ขอโทษสังคม ยันทุกด่านปิดเช่นเดิม

ล่าสุด เพจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ได้โพสต์ชี้แจงระบุชัด การเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ วานนี้ เป็นการอนุโลม ให้คนไทยที่ยังตกค้างอยู่ในกัมพูชา และคนกัมพูชาที่ตกค้างในไทยได้เดินทางกลับประเทศ เป็นวันสุดท้าย (31 ส.ค. 68) โดยทุกคนจะต้องมีเอกสารการเดินทางที่ถูกต้องเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่นตามที่เป็นกระแสข่าวออกมา พร้อมยืนยันว่า ทุกจุดผ่านแดนฯ ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ยังคงปิดเช่นเดิม

พร้อมกันนี้ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ยังขอโทษประชาชนที่มีส่วนทำให้เกิดความสับสนและความเข้าใจผิดในครั้งนี้

 

ตั้ง ศบ.ทก. ใหม่ หลังคำสั่งเดิมสิ้นสภาพตามนายกฯ

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ขึ้นใหม่ แทนคำสั่งเดิมที่สิ้นสภาพไปพร้อมนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การบริหารจัดการสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีเอกภาพ.

โครงสร้าง ศบ.ทก. ยังมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้อำนวยการศูนย์ ,เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ มีผบ.เหล่าทัพทุกเหล่าทัพ

ส่วนอำนาจหน้าที่ยังคงติดตาม ตรวจสอบ วิเคราะห์ กลั่นกรอง และประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชาอย่างใกล้ชิด ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการที่จำเป็นเพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป

การดำเนินงานทั้งหมดต้องยึดหลักการแก้ไขความตึงเครียดด้วยสันติวิธี บนพื้นฐานของความเท่าเทียม เคารพเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน โดยปราศจากการแทรกแซงจากประเทศที่สามหรือองค์กรระหว่างประเทศ

เมื่อสถานการณ์ชายแดนเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้อำนวยการศูนย์ต้องรายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อยกเลิกคำสั่งดังกล่าว