ย้าย "ลุงพล" ขังเรือนจำนครพนม "ป้าแต๋น" บอกเอาหัวใจมาฝากสามี 1 ดวง ยันสู้ถึงฎีกา
กรณีศาลจังหวัดมุกดาหาร นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 โดยพิพากษา นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล (จำเลยที่ 1) 3 ข้อหาคือ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเล็งเห็นผล จำคุก 15 ปี พรากเด็กอายุยังไม่เกิน15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา จำคุก 10 ปี และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น จำคุก 1 ปี รวมจำคุกทั้งหมด 26 ปี ซึ่งศาลฎีกามีคำสั่งพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง ลงโทษให้จำคุก 26 ปี ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว หากให้ปล่อยตัว อาจหลบหนีได้ โดยลุงพลถูกคุมขังที่เรือนจำมุกดาหาร 2 วัน ทางเรือนจำจะนำตัว มาขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากอัตราโทษจำคุกสูงกว่า ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 ที่เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม บ.กุดข้าวปุ้น ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถคุมขังเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร นำตัว นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล จำเลยที่ 1เดินทางมาถึงเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม
โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มารอรับ 9-10 นาย ที่บริเวณปากประตูทางเข้าเรือนจำชั้นนอก โดยเจ้าหน้าที่ถอยรถคุมขังลุงพลเข้าไปใช้เวลา 4-5 นาที คาดว่าจะเข้าไปสู่แดนแรกรับ ก่อนตรวจร่างกายและตรวจโรคตามขั้นตอนต่อไป
ในเวลาไล่เลี่ยกันพบรถตู้สีขาว วิ่งไล่หลังรถคุมขังพบ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ภรรยาลุงพล จำเลยที่ 2 ที่ศาลพิพากษายกฟ้อง พร้อมพวกรวม 5 คน เดินทางไปที่ศาลาเยี่ยมญาติ เพื่อยื่นเรื่องขออนุญาตเยี่ยมลุงพล
ป้าแต๋น กล่าวว่า วันนี้เอาหัวใจ 1 ดวงมาฝากลุงพล คนเราไม่มีหัวใจหลายดวง ป้าแต๋นย้อนถามนักข่าวด้วยว่า นักข่าวมีหลายดวงเหรอค่ะ และมาให้กำลังใจสามี
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสู้ถึงฎีกาหรือไม่ ป้าแต๋น กล่าวว่า “ก็ต้องสู้สิค่ะ เมื่อคืนนอนหลับสบายดี แต่ไม่ได้ฝันอะไร ยังไม่ได้พูดคุยกับลุงพล ตั้งแต่อยู่ที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหารเลย ส่วนกับข้าวในวันนี้ยังไม่ได้เอาอะไรมาฝากลุงพล”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายนายไชย์พล มาคุมขังที่เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม เนื่องจากที่เรือนจำแห่งนั้น สามารถคุมขังนักโทษชาย-หญิง ที่ต้องโทษในคดีต่างๆ ไม่เกิน 20 ปี ส่วนเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม สามารถคุมขังนักโทษได้สูงสุด 25 ปี ในระหว่างที่ลุงพลถูกจองจำ และต่อสู้ในศาลชั้นฎีกาต่อไป