บัญชีที่หมอบีเปิดรับบริจาคให้วัดพระบาทน้ำพุมีเงินโอนเข้าหลักร้อยล้านบาท มติวัด สั่งให้ดำเนินคดี ขณะที่หลวงพ่ออลงกต ยัน ที่ดิน กว้านซื้อเพื่อสาธารณชน วัดเป็นผู้ครอบครอง ไม่ใช่นอมินีตามที่เป็นกระแสข่าว

วันที่ 7 ส.ค. พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมด้วยนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความประจำวัด ไวยาวัจกรณ์ และตัวแทนเถรสมาคมพระสงฆ์จังหวัดลพบุรี ร่วมประชุมหารือที่ห้องประชุมภายในวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี เพื่อพิจารณาประเด็นการเปิดรับบริจาคผ่านบัญชี “ใจฟ้าอาทรประชานาถ” ซึ่งมีหมอบี เป็นผู้ดำเนินการ และกำลังถูกตั้งข้อสงสัยจากสังคมว่าอาจยักยอกเงินวัดไปใช้ในทางที่ไม่โปร่งใส

หลังการประชุมร่วมกับคณะกรรมการวัด เป็นเวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง  หลวงพ่ออลงกต เปิดเผยว่า เมื่อราว 10 ปีก่อน หมอบีได้เข้ามาแสดงตนเป็นจิตอาสาทำกิจกรรมในวัดอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่าหมอบีไม่เคยมีตำแหน่งทางการบริหารใด ๆ ภายในวัด แต่มีบทบาทในการจัดกิจกรรมธรรมะต่าง ๆ รวมถึงนิมนต์หลวงพ่อไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเผยแผ่ธรรมะ และมีญาติโยมร่วมทำบุญกับกิจกรรมเหล่านั้น โดยหมอบีจะเป็นผู้รวบรวมเงินและนำมาถวายภายหลัง

ในปี 2562 หมอบีได้ขออนุญาตหลวงพ่อเปิดบัญชี “ใจฟ้าอาทรประชานารถ” โดยใช้ชื่อนี้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมของวัด โดยปีแรกมีเงินบริจาคเพียง 4-5 ล้านบาทเท่านั้น แต่ต่อมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามกระแสความนิยมของหมอบีในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ มีผู้ศรัทธาร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก รวมแล้วๆกว่าร้อยล้านบาท เช่น กิจกรรมไถ่ชีวิตโคกระบือที่ได้รับเงินบริจาคนับสิบล้านบาท หมอบีเป็นผู้โอนเงินไปยังโรงฆ่าสัตว์โดยตรง และจัดกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

หลวงพ่อ ระบุว่า พบหมอบีเฉลี่ยเพียงสัปดาห์ละสองครั้ง และแทบไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก ทำให้บางคนเข้าใจผิดว่าหมอบีเป็นคนของวัด ทั้งที่ความจริงแล้วหมอบีจัดกิจกรรมหลายที่ ไม่ได้จำกัดเฉพาะที่วัดพระบาทน้ำพุเพียงแห่งเดียว

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ร้องเรียนว่าการบริจาคผ่านบัญชีใจฟ้าอาจไม่โปร่งใส โดยมีหลักฐานว่าหมอบีอาจถวายเงินกับวัดไม่ครบถ้วน หลวงพ่อเผยว่าได้สอบถามกับหมอบีโดยตรง และสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ามีประเด็นให้ตั้งข้อสงสัยหลายประการ ทั้งเรื่องทรัพย์สินของหมอบีที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต และบ้านพักหลังใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยไม่มีความชัดเจนว่าใช้เงินจากแหล่งใด จึงขอให้หมอบีออกมาชี้แจงต่อสังคม

หลวงพ่อยืนยันว่า เงินที่ได้รับบริจาคทั้งหมดถูกนำมาใช้ตามวัตถุประสงค์ เช่น การก่อสร้างโรงเรียน รวมถึงกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์อื่น ๆ ซึ่งมียอดเงินรวมจากบัญชีใจฟ้านับตั้งแต่ปี 2562 สูงถึงหลักร้อยล้านบาท

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงศูนย์ปฏิบัติธรรมที่หมอบีเคยเสนอว่าจะจัดตั้ง แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม มีเพียงข่าวลือเรื่องบ้านพักขนาดใหญ่ ก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่านำเงินมาจากไหน ไหนจะรถหรูอีกหลายคัน หลวงพ่อไม่เคยไปเหยียบเลยสักครั้ง จึงขอให้หมอบีเปิดเผยแหล่งที่มาของทรัพย์สิน และเตรียมนัดหมายให้หมอบีออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนในเร็ว ๆ นี้ โดยขีดเส้นตายว่าภายใน 7 วัน ต้องทราบผล

ซึ่งหลังเกิดเรื่อง คนสนิทหมอบีได้มาพบตน 2 ครั้ง โดยคนสนิทหมอบีนำหลักฐานที่มาของเงินมาให้หลวงพ่อดู แต่ตนก็บอกไปว่า ให้รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อน 

สำหรับกรณีที่ มีการกล่าวอ้างว่าทางวัด มีการกว้านซื้อที่ดินจำนวนมาก หลวงพ่อยืนยันว่ามีการซื้อจริงในหลาย ๆ พื้นที่ ซึ่งในการซื้อแต่ละครั้ง ได้มีการพิจารณาแล้วว่าจะนำไปสร้างประโยชน์แก่สาธารณะชนตามนโยบายของวัด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงเรียน สร้างศูนย์พักพิงให้กับผู้ป่วย โดยการซื้อจะใช้บัญชีของวัดและมูลนิธิของวัด ซึ่งผู้ครอบครองก็จะเป็นวัดพระบาทน้ำพุไม่ได้เป็นชื่อบุคคลตามที่เป็นกระแสข่าว

หลวงพ่ออลงกตยอมรับว่ากระแสศรัทธาที่มีต่อวัดพระบาทน้ำพุกำลังสั่นคลอนจากข่าวที่เกิดขึ้น และขอวิงวอนให้ญาติโยมยังคงศรัทธาในเจตนาและภารกิจของวัด พร้อมเรียกร้องให้หมอบีออกมาแถลงไขข้อสงสัยของสังคมอย่างตรงไปตรงมา เพื่อความโปร่งใสและความสบายใจของผู้มีจิตศรัทธาทั้งประเทศ

ด้านนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ เผยว่า ที่ประชุมมีมติออกมา คือ มีคำสั่งห้ามหมอบียุ่งเกี่ยวกับกิจการของวัดทุกอย่าง ที่ใช้ชื่อวัด หรือโครงการของวัด โดยจะประกาศอย่างเป็นทางการ รวมทั้งกรณีการปิดบัญชีบริจาคของหมอบีที่ขณะนี้ หากยังไม่ปิดบัญชีเราก็จะหาวิธีในการป้องกันและดำเนินการ

มีมติต้องดำเนินคดี แต่ตอนนี้เรายังพิจารณาว่าจะดำเนินคดีในข้อหาอะไร เพราะมันยังไม่เห็นพยานหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งยังมีบุคคลที่จะส่งมอบแทนหลักฐานเข้ามาให้เพิ่มเติม วันนี้จึงมีมติว่าให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน 

สำหรับโครงการอย่างร้านกาแฟก็ขอให้ยุติก่อน และจะเข้าไปพิจารณาว่าหมอบีมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรในกิจการ