พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพ จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือจ่าโต๋ อายุ 34 ปี นายสิบลาดตระเวนปืนใหญ่ 106 พัน.6 เสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 68 บริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เนิน 333
วันที่ 29 ก.ค. 2568 เวลา 15.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเจริญธรรมาราม ตำบลบ้านซ่ง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร โดยมี พล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผบ.มทบ.210 ป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พร้อมครอบครัว และข้าราชการประชาชน
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า Suttipong pongwan ออกมาโพสต์ข้อความสดุดีทหารแนวหน้าที่ต้องพลีชีพจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างไทย-เขมรบริเวณชายแดน โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า "แด่เพื่อนโต๋ มีทหารกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งจัดมาจากหน่วยทหารปืนใหญ่ พวกเขาจะถูกส่งไปอยู่ด้านหน้าสุด จุดสูงที่สุด หรือที่ๆตรวจการณ์สนามรบได้ดีที่สุดเพื่อค้นหาเป้าหมาย ร้องขอและปรับการยิงปืนใหญ่เพื่อทำลายเป้าหมาย และคนกลุ่มนี้ก็จะกลายเป็นเป้าหมายที่ข้าศึกจะต้องทำลายให้ได้เป็นลำดับแรกๆเช่นกัน เราเรียกทหารกลุ่มนี้ว่าผู้ตรวจการณ์หน้าหรือ ผตน.
โต๋ เป็นหัวหน้าชุดผตน.ประจำเขาสัตตะโสม ซึ่งเป็นจุดสูงข่มที่สุดสำคัญที่สุดอีกจุดหนึ่ง ส่วนตัวผู้เขียนเป็นหัวหน้าชุดผตน.อยู่เขาอีกลูกฝั่งขวาถัดจากโต๋ สำหรับพวกเราถ้าใครตรวจเจอสิ่งผิดปกติเราจะแจ้งเตือนระวังภัยซึ่งกันและกันเสมอมา
วันที่ 24 กรกฎาคมวันแรกของการปะทะด้วยความรู้ความสามารถและความกล้าหาญของโต๋ เขาค้นหาเป้าหมาย ทำลายเป้าหมายที่เป็นภัยคุกคามให้กับทหารนับร้อยนับพันชีวิตฝ่ายเราที่อยู่ทั้งเขาสัตตะโสม ช่องตาเฒ่า และผามออีแดง รวมถึงป้องกันไม่ให้รถถังเข้ามาในพื้นที่ๆผู้เขียนอยู่อีกด้วย การปะทะเกิดขึ้นทั้งวันและคืนจนฝ่ายตรงข้ามต้องสูญเสียอย่างหนัก
วันที่ 25 กรกฎาคม เริ่มมีการปะทะตั้งแต่เวลาตี3 ฝ่ายตรงข้ามเริ่มโหมสรรพกำลังทุกอย่างที่มีโจมตีพวกเรา รถถัง ปืนใหญ่ จรวด ยิงถล่มพวกเราจนแผ่นดินสั่นสะเทือนไปหมด แต่โต๋ก็ยังคงทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งเหมือนเดิมคือตรวจพบร้องขอเเละทำลาย อีกทั้งเขายังแจ้งเตือนผู้เขียนมาว่ามีรถถังกำลังเข้าไปทางนั้นนะเตรียมยิงได้เลย เช้าวันนั้นมีรถถังฝ่ายตรงข้ามอย่างน้อย 15 คันไม่รวมปืนใหญ่และจรวดระดมยิงอยู่ตรงหน้าโต๋ อีก3คันอยู่ข้างหน้าผู้เขียนพวกเราร้องขอปืนใหญ่เพื่อทำลายแต่ด้วยจำนวนที่เยอะเกินไปมันไม่ทันการ มีกระสุน1นัดออกจากปากกระบอกปืนใหญ่รถถังฝ่ายตรงข้ามยิงไปโดนบังเกอร์ที่โต๋ตรวจการณ์อยู่ ไม่นานหลังจากนั้นมีวิทยุเรียกมาแล้วแจ้งข่าวว่าผตน.สัตตะโสมโดนยิง หลายๆคนที่ได้ยินเสียงวิทยุนั้นรวมถึงน้องๆในชุดเราต่างขวัญเสีย เราได้แต่ภาวนาขออย่าให้มีใครเป็นอะไร แต่คำขอของพวกเราก็ไม่เป็นจริง ผู้เขียนรีบปลุกใจน้องในชุดว่าไม่เป็นไร เราต้องสู้กันต่อขณะที่ตัวเองต้องหลบออกมาทำใจอยู่ลำพังเพราะสงสารเพื่อน สุดท้ายได้แต่กัดฟันพูดกับตัวเองว่ากูและพี่น้องจะแก้แค้นให้มึงเอง
อีกไม่นานผู้คนจะลืมเรื่องราวของโต๋ แต่สำหรับทุกคนที่ร่วมกันสู้ที่นี่ล้วนรับรู้ถึงวีรกรรมอันกล้าหาญเสียสละนั้นและไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน
ขอบคุณที่อยู่กันมาตั้งแต่เรียนและเคียงบ่าเคียงไหล่กันในสนามรบถึง12ปี เพื่อนโต๋ทำหน้าที่ทหารอย่างสมเกียรติและเป็นสุดยอดผตน.จนวินาทีสุดท้ายสมฉายาราชาแห่งสนามรบอย่างแท้จริง แม้ตัวจะจากไปแล้วก็ยังคงมีคนเห็นโต๋ตรวจการณ์อยู่ที่บังเกอร์นั้นอยู่อย่างเช่นที่เคยทำมา
29 กรกฎาคม 2568 พิธีพระราชทานเพลิงศพ จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา
วีรบุรุษแห่งเขาสัตตะโสม"