น้ำในแม่น้ำยมล้นตลิ่งในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจกระสอบทรายกั้นริมแม่น้ำเกิดพังทลาย กระแสน้ำไหลทะลักเข้าท่วมภายในวัดและโรงเรียน
วันที่ 26 ก.ค. 2568 มีรายงานว่าว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมล้นตลิ่งในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจฝั่งตะวันตกได้รับผลกระทบหนัก จากน้ำยมล้นตลิ่ง โดยเฉพาะที่บริเวณวัดคูหาสุวรรณ กระสอบทราย ที่วางกั้นริมแม่น้ำยม เกิดพังทลาย ลงมาทำให้กระแสน้ำไหลทะลักเข้าท่วมภายในวัดและโรงเรียนวัดคูหาสุวรรณ กระแสน้ำที่ไหลแรงได้ไหลเข้าท่วมบริเวณวัดเป็นวงกว้าง ถูกน้ำท่วมสูง 30 ซม. ทางเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ต้องนำบิ๊กแบ็ก มาวางปิดทางน้ำแต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากกระแสน้ำแรง
ขณะที่นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์ ภาวะแม่น้ำยมล้นตลิ่งในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีในครั้งนี้ พร้อมกล่าวว่า ทางจังหวัดสุโขทัย ได้เตรียมสรรพกำลัง เครื่องมือเครื่องจักร พร้อมที่จะลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนจาก สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในภาวะแม่น้ำยมล้นตลิ่ง และ ปริมาณน้ำที่ ไหลมาจากทางตอนเหนือของจังหวัดแพร่มีปริมาณมาก ไหลบ่าลงสู่แม่น้ำยมที่ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ด่านแรกของการรับน้ำในแม่น้ำยม และ ไหลผ่านเมืองสุโขทัย ในปริมาณเกินกว่า 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เกิดภาวะแม่น้ำยมล้นตลิ่ง ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี
ส่วนทางด้านฝั่งตะวันตกของเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี โดยเฉพาะจุดแตกบริเวณด้านหน้าของวัดคูหาสุวรรณ ก่อนหน้านี้มีการกั้นกระสอบทรายกันไว้แล้ว แต่ ต้านทาน พลังน้ำที่เอ่อล้นและแรงไม่อยู่ เกิดพังทลาย ทำให้ เกิดภาวะ น้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ เขตเศรษฐกิจฝั่งตะวันตกของจังหวัด สุโขทัย
อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี มีความพยายามที่จะนำบิ๊กแบ็กขนาดใหญ่ มากั้นล้อมและป้องกันภาวะเอ่อล้นไหลเข้าท่วมในครั้งนี้ พร้อมกันนั้น ตนเองได้รับแจ้งจากชลประทานจังหวัดสุโขทัย ว่าในช่วง 3-4 ชั่วโมงนี้ จะลดปริมาณน้ำในแม่น้ำยม โดยใช้วิธีการหน่วงระบายน้ำที่ ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก เพื่อลดกระแสน้ำที่จะไหลบ่ามาตลอดแนวลำน้ำยมทางตอนล่าง ของอำเภอสวรรคโลก อำเภอศรีสำโรง และ อำเภอเมืองสุโขทัย ที่ได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้ คาดว่า ช่วงบ่ายๆ วันนี้ น่าจะเห็นผลชัดเจน ในการหยุดยั้งภาวะแม่น้ำยมล้นตลิ่ง
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ขอแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนตลอดแนว 2 ฝั่งแม่น้ำยม ให้ติดตามข่าวสารทางราชการอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมขนย้ายสัตว์เลี้ยง และข้าวของ ขึ้นอยู่ในที่สูง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมทั้ง ได้สั่งการไปยังท้องถิ่น ในทุกอำเภอ ที่แม่น้ำยมไหลผ่าน ให้เฝ้าระวัง เตรียมการรับสถานการณ์ในครั้งนี้ อย่างเต็มกำลังความสามารถ