บก.ปปป. ลงพื้นที่ตรวจสอบพุทธอุทยาน-มจร.นครสวรรค์ หาหลักฐานเชื่อมโยงคดีทุจริตเงินวัดนครสวรรค์พระอารามหลวง เบื้องต้นเชิญ 2 สีกา ที่ตกเป็นข่าวมาให้ปากคำ แต่ยังไม่ได้ตอบรับ ขณะที่ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนิสิต มจร. เผย อาจารย์น้ำตาลคนที่ตกเป็นข่าว แอบเขียนจดหมายลาออก ก่อนนำมาวางทิ้งไว้ที่โต๊ะทำงาน

วันที่ 22 กนกฎาคม 2568 เวลา 08.30 น. พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ปปป. พร้อมด้วยทีมพนักงานสอบสวน , เจ้าหน้าที่สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เชิญ พระครูสุธีธรรมบัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ลงพื้นที่โครงการก่อสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์ที่สร้างยังไม่เสร็จ และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ เพื่อหาหลักฐานความเชื่อมโยงเกี่ยวกับคดีทุจริตเงินวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง จังหวัดนครสวรรค์ รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ผศ.ดร.สุกัญญาณัฐ อบสิณ รษก.ผอ.สำนักงานวิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ น้ำตาล กับ พระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ หรือ สมีสฤษดิ์




ต่อมา เวลา 09.00 น. คณะทำงานบก.ปปป. , ป.ป.ท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมประชุมในเรื่องปัญหาทางการเงิน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะนำเอกสารต่าง ๆ มอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่พระครูสุธีธรรมบัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง และคณะทำงาน มจล. พาเดินสำรวจพุทธอุทยาน พร้อมอธิบายขั้นตอนก่อสร้าง และสาเหตุที่ล่าช้าให้กับเจ้าหน้าที่ได้รับฟัง


ภายหลังจากที่เดินสำรวจพุทธอุทยานจบลง พ.ต.อ.สุมรภูมิ รอง ผบก.ปปป. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในวันนี้ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า โครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์มีการบริหารจัดการในเรื่องงบประมาณค่าใช้จ่ายในแต่ละปีมีพิรุธ มีรายจ่ายไม่เพียงพอมากถึง 7-8 ล้านบาท ต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละปี ซึ่งทางทีมพนักงานสอบสวนจะขอหลักฐานต่างๆเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน นำไป ตรวจหาข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ เบื้องต้นพบเพียงมีแค่บัญชีเดียว ที่เป็นบัญชีดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายของพุทธอุทยาน นครสวรรค์ ส่วนจะมีบัญชีอื่นอีกหรือไม่นั้นต้องขอขยายผลต่อไป


ส่วนความคืบหน้าในการตรวจเส้นเงินของ ทางวัดนครสวรรค์พระอารามหลวงนั้น ตอนนี้พยายามแบ่งแยกรายรับของทางวัดอยู่จำพวก ปล่อยเช่าอาคารในพื้นที่วัด ปัจจัยถวายของญาติโยม ฌาปนกิจและอื่นๆ ซึ่งในแต่ละส่วนมีเงินเข้าออกเป็นจำนวนมากต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ




ขณะที่บัญชีของทางวัดที่เป็นเงินสำรองตอนนี้มีเหลือเพียงประมาณ 1 ล้านบาท ไม่พอต่อค่าใช้จ่ายของวัดในตอนนี้ เงินดังกล่าวที่เหลือจะต้องตรวจสอบว่าเงินนั้นหายไปไหน ซึ่งตอนนี้บัญชีของวัดทุกบัญชีได้ถูกระงับไปแล้ว เนื่องจากอดีตเจ้าอาวาสได้ลาสิกขาไปยังไม่มีผู้ที่ได้รับมอบอำนาจเข้ามาดูแลอย่างเป็นทางการ


ส่วนความคืบหน้าในการเลือกพยานสำคัญเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่วัดนครสวรรค์พระอารามหลวงนั้น เบื้องต้นได้เชิญให้ 2 สีกาที่ตกเป็นข่าวเข้ามาให้ปากคำ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับว่าจะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนวันไหน




ด้าน นายศศิกิจจ์ อ่ำจุ้ย ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) เผยว่า ทาง มจร.นครสวรรค์ ได้ให้ความร่วมมือต่าง ๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการ โดยเฉพาะเอกสารที่เกี่ยวาายรับรายจ่ายของทางมจร. ซึ่งเอกสารทก็มีพร้อมครบทุกอย่างตามที่ตำรวจต้องการ ส่วนตัวอาจารย์ที่ตกเป็นข่าวอยู่นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับสมีสฤษดิ์หรือไม่ ตนเองไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเนื่องจากเพิ่งมารับตำแหน่งได้เพียงแค่ 2 ปี


ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า ทราบเรื่องการลาออกของ ผศ.ดร.สุกัญญาณัฐ หรือไม่ นายศศิกิจจ์ ตอบว่า เจ้าตัวได้เขียนจดหมายลาออก และนำมาทิ้งไว้ที่โต๊ะทำงาน โดยที่ไม่บอกใครและไม่ได้บอกกับตน เพิ่งจะมาทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ตนจะขอตรวจสอบอีกครั้ง


ทีมข่าวยังได้สอบถามไปอีกว่าการคัดเลือกผู้เข้ามาดำรงตำแหน่งในมจรมีวิธีการคัดเลือกอย่างไร นายศศิกิจจ์ ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า การคัดเลือกบุคคลที่เข้ามาทำงานในมจร.จะต้องผ่านคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาจากผลการสอบเป็นไปตามระเบียบของมจร.เพียงเท่านั้น ซึ่ง มจร.และวัดนครสวรรค์พระอารามหลวง มีหน้าที่ทำงานร่วมกันอยู่แล้ว


ส่วนความสัมพันธ์ส่วนตัวของอาจารย์กับอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวงนั้นไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน