ตำรวจพหลโยธินนำตัว "เสือปุ่น-เสือบอล" 2 ใน 7 คน แก๊งปล้นเงินคริปโต 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถห้างดัง ย่านลาดพร้าว ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 คนอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
วันที่ 19 ก.ค. 2568 เวลา 10.30 น. พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ควบคุมตัวนายวรวัฒน์ หรือ "เสือปุ่น ปชน.3" และนายบอล หรือ "เสือบอล" เพื่อไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา หลังถูกตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ควบคุมตัวได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเมื่อวานนี้ ตามหมายจับศาลอาญา ในคดีร่วมกับพวก 7 คน ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า ย่านลาดพร้าว เอาเงินผู้เสียหายไปเป็นจำนวนกว่า 3,400,000 บาท เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา และระหว่างนำตัวขึ้นรถคุมขังผู้ต้องหาทั้งสองปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ขณะเดียวกันแม่ของเสือปุ่น ได้เดินทางมาเยี่ยมและเฝ้าดูลูกของตัวเองถูกคุมตัวขึ้นรถคุมขัง
โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี ในความผิด "ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด" พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวกลัวว่าจะหลบหนี ส่วนความคืบหน้าทางคดีขณะนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวและดำเนินคดีผู้ต้องหาไปแล้วทั้งหมด 6 คน ยังคงเหลือนายรุ่งนิรันดร์ หรือโบ้ อายุ 32 ปี หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการที่ถูกออกหมายจับอยู่ระหว่างหลบนี้ ตำรวจยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
สำหรับคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสองเมื่อคืนนี้ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหายังให้การวกวนไปมา จับใจความได้เพียงแค่ ทั้งสองคนผลัดกันขับรถ เปลี่ยนที่พักไปมาเพื่อให้ยากต่อการตามจับกุม ยอมรับว่ามีการแบ่งเงินกัน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องของสัดส่วน รวมทั้งเรื่องของการวางแผนในการก่อเหตุ
ส่วนการบุกจับเมื่อวานนี้ ชุดสืบสวนเฝ้าติดตามจนทราบเบาะแส และวางแผนเข้าตรวจค้น ได้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยของกลางเป็นอาวุธปืนสั้นขนาด จุด 365 , เครื่องกระสุนปืน 29 นัด , วัตถุคล้ายระเบิดMK2 , เงินสด 3 พันบาท , รถเก๋งซึ่งใช้ทะเบียนปลอม , กระเป๋าหรู 2 ใบ ซึ่งของกลางทั้งหมดจะถูกส่งให้กับตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ นำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีเพิ่มเติมในเรื่องของการครอบครองอาวุธปืน และวัตถุระเบิด รวมถึงความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง