ทอมวัย 52 แค้นฝังใจบุกพังร้านอดีตคนรักกลางเมืองพัทยา ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวและลูกค้าที่พากันแตกตื่น แม้ความสัมพันธ์จะจบไปนานกว่า 4 ปี แต่ความเจ็บปวดในใจก็ยังไม่จาง อ้างเคยจับได้ว่าแฟนเก่าแอบคบชู้ ทั้งยังตะโกนลั่นกลางตลาด "มึงเคยเป็นเมียกู!"
เหตุการณ์เกิดขึ้นคืนวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุทอมลักษณะคล้ายเมาสุรา ก่อเหตุโวยวายและทำลายข้าวของภายในตลาดแห่งหนึ่ง กลางเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังสายตรวจเข้าระงับเหตุทันที
เมื่อไปถึง พบทอมทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ณัชชา อายุ 52 ปี ยืนโวยวายพร้อมด่าทอใส่ น.ส.สุรอนงค์ อายุ 51 ปี แฟนเก่าที่เลิกรากันไปนานกว่า 4 ปี แต่ยังคงเป็นเหมือนฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน โดยในวันเกิดเหตุ น.ส.ณัชชา อยู่ในอาการมึนเมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะบุกเข้ามาในร้านและขว้างขวดเบียร์แตกกระจายต่อหน้าลูกค้าจำนวนมาก เศษแก้วกระเด็นใส่ขาลูกค้ารายหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย สร้างความโกลาหลทั้งร้าน
น.ส.สุรอนงค์ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า “เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ทุกครั้งที่เขาเข้าพัทยา เขาต้องมาป่วนร้าน ทั้งที่ต่างคนต่างมีแฟนใหม่แล้ว แต่เขายังตามรังควานไม่เลิก ดิฉันเคยลงบันทึกประจำวันไว้หลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยหยุด”
ผู้สื่อข่าวยังได้รับคลิปจากเหตุการณ์จริง เผยให้เห็นภาพทอมคนดังกล่าวปัดถุงเท้าและสินค้าภายในร้านกระจัดกระจาย จากนั้นมีลูกค้าที่ถูกเศษแก้วของขวดเบียร์ที่สาวทอมปาลงพื้นกระเด็นใส่ จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย พูดขึ้นมาว่า “พี่ควรให้เกียรติหนู หนูไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และไม่ยอมขอโทษเลย หนูไปแจ้งความได้นะแบบนี้” จากนั้นสาวทอมตะโกนกลางตลาดด้วยถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความอัดอั้นอ้างว่า “มึงเคยเป็นเมียกู! แล้วไอ้เด็กคนนี้ กูทำกับข้าวให้มันแดx แต่สุดท้ายมึงคบชู้กัน!”
อีกฝั่งหนึ่ง น.ส.สุรอนงค์ ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาว่า “ฉันยอมรับว่าผิดศีลข้อสาม แต่มันก็ผ่านมาแล้ว คุณก็มีแฟนใหม่แล้ว จะตามมาวุ่นวายอะไรอีก” ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียดอยู่พักใหญ่ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้เวลานานในการเจรจาเกลี้ยกล่อม และสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างหวุดหวิด
เบื้องต้นผู้เสียหายเตรียมเข้าแจ้งความ สภ.เมืองพัทยา เพื่อเอาผิดพร้อมวอนเจ้าหน้าที่ดำเนินการจริงจัง เพราะหวั่นเหตุการณ์ซ้ำซากจะกลับมาอีกครั้งในไม่ช้า