ชาวเขมรทนอดอยากไม่ไหว มุดรั้วกลับไทย โวยรัฐบาลกัมพูชา ไม่เหมือนที่โวไว้ ไม่มีงานทำ อยู่แบบอดๆอยากๆ

11 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน  พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา สั่งการให้ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ. ชค.ทพ.12 และ ร.อ.อาคม มงคลนำ ผบ.ร้อย ทพ.1201 นำกำลังพล ร้อย ทพ.1201 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว บูรณาการกำลังร่วมกัน เป็นชุดปฏิบัติการร่วมกองกำลังบูรพา ออกปฏิบัติการลาดตระเวน เข้มป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้า ออกเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณชายแดน ท้ายหมู่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ. อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง และล่อแหลม ต่อการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ตามนโยบายคุมเข้มชายแดนไทย-กัมพูชา ของ แม่ทัพภาคที่1 และ ผบ.กกล.บูรพา

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สกัดจับชายชาวกัมพูชา ทราบชื่อภายหลัง ชื่อนายที อายุ 30 ปี ขณะกำลังมุดรั้วลวดหนามชายแดน ซึ่งเป็นรั้วลวดหนามหีบเพลง 3 ชั้น จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ลอบเข้ามาในประเทศไทยบริเวณทิศเหนือตลาดโรงเกลือ พื้นที่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ ตรวจสอบไม่มีหนังสือเดินทาง หรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย แต่อย่างใด จากการซักถามนายที เรีย อ้างว่าเดิมทำงานรับจ้างทั่วไป อยู่ในตลาดโรงเกลือ ฝั่งไทย โดยใช้หนังสือเดินทางท้องถิ่นกัมพูชา (บอเดอร์พาสกัมพูชา) ผ่านเข้า ออก ด่าน ตม.อรัญประเทศฯจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา และไทยได้กำหนดมาตรการปรับเปลี่ยนลดเวลาเปิด ปิด ด่านฯอีกทั้งรัฐบาลกัมพูชาได้เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทยเดินทางกลับกัมพูชาโดยรัฐบาลกัมพูชาได้จัดเตรียมงานไว้รองรับ จึงทำให้ตนตัดสินใจทิ้งงานรับจ้างในตลาดโรงเกลือ เดินทางกลับภูมิลำเนาในกัมพูชา

“แต่ทุกอย่างไม่เหมือนกับที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศไว้ ตนมาอยู่บ้านเกือบเดือนงานก็ไม่มีทำไปสมัครที่ไหนก็ไม่มีงานทำเงินก็ไม่มีเหลือต้องอยู่อย่างอดๆอยากๆ จนทนไม่ไหวจึงตัดสินใจลักลอบข้ามแดนเพื่อกลับเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ อีกครั้งแต่ก็มาถูกทหารพรานไทยจับกุมได้ คุมตัวส่ง สภ.คลองลึกฯดำเนินคดี” นายที กล่าว

 

ด้าน พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เผยว่าในรอบ 7 วันที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.ถึงปัจจุบัน ตำรวจ สภ.คลองลึกฯได้ร่วมกับ ชค.ทพ.12 และ ฉก.อรัญประเทศ  กกล.บูรพา ระดมกำลังร่วมกันออกกวาดล้างเข้มตามแนวชายแดนในพื้นที่ อ.อรัญประเทศฯสามารถจับกุมผู้ต้องหาลักลอบข้ามแดน โดยผิดกฎหมายได้จำนวนทั้งสิ้น 61 ราย เป็นคนไทย 44 ราย และ ชาวกัมพูชา 17 ราย มีทั้งข้อหาลักลอบเข้า-ออกประเทศโดยไม่ผ่านช่องทางที่กฎหมายกำหนด-ถูกหลอกลวงไปทำงานเว็บพนันผิดกฎหมาย-เปิดบัญชีให้ขบวนการอาชญากรรม-มีหมายจับคดีฉ้อโกง ฟอกเงิน และเทคโนโลยี-คดีเยาวชนและการเงินผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังพบมีหมายจับจำนวน 6 ราย และกลุ่มที่มีพฤติการณ์สุ่มเสี่ยงอีกจำนวนหนึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลและส่งต่อคดีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึกฯได้ฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อความชักชวนทำงานออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กหรือกลุ่มแชตที่ไม่รู้แหล่งที่มา เพราะมีเยาวชนหลายรายถูกลวงข้ามแดนไปทำงานผิดกฎหมายในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆงานสบายเงินดีไม่มีอยู่จริง