รัฐมนตรี 2 อ. เจอโจทย์ใหญ่ ไม่มีเวลาโชว์หวาน เพราะงานกำลังเข้า โค้งสุดท้ายที่จะพิสูจน์ผลงาน "กล้าธรรม-กล้าทำ" หรือ "เก้าอี้ดนตรี"

ไม่แปลก ที่รัฐมนตรีเกษตรคนใหม่ชื่อ "อรรถกร ศิริลัทธยากร"
ไม่แปลกที่รัฐมนตรีช่วยคนเก่าคนเดิม เพิ่มเติมคือเปลี่ยนสีเสื้อจาก "เพื่อไทย" เป็น "กล้าธรรม" และเป็นน้องในไส้ผู้มากบารมี "ธรรมนัส พรหมเผ่า" อย่าง รมช.อัครา พรหมเผ่า

รัฐมนตรีหนุ่ม "อรรถกร" แม้จะเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยมาก่อนในสีเสื้อพรรคพลังประชารัฐ แต่เมื่อตามผู้กองธรรมนัส มาอยู่ "กล้าธรรม" ต้องสลับให้พ่อ "อิทธิ ศิริลัทธยากร" มาเป็นรัฐมนตรีช่วยแทน แต่ในภาพของความเป็นจริงที่คนเกษตรเองชินตา คือ เดินตามรอยพ่ออิทธิ เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เป็นรัฐมนตรีเงา นักข่าวแวดวงเกษตรเองจึงรู้กันมาตลอด เมื่อมีการปรับ ครม.เมื่อไหร่ "เบนซ์-อรรถกร" นี่แหละ จะเป็นคนขับเคลื่อนกระทรวงเกษตรฯ

ไม่มีเวลาฮันนี่มูน และทุกก้าวย่างโจทย์ใหญ่ให้ดำเนินการ



คำถามที่ถั่งโถมไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในวันนี้ วันที่พืชเศรษฐกิจราคาร่วงทุกตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งทุเรียน ราชาผลไม้ของไทย จากค่าเฉลี่ยส่งจีน กิโลกรัม 120-150 บาท ทุกวันนี้แนวรับคือ 95-110 บาท "มังคุด" เองก็เช่นกัน เกรดมันส่งนอก ราคาเพียง 8-15 บาท ตกไซส์ราคา 5 บาท เกษตรกรจะอยู่อย่างไร

ในขณะที่มองไปที่พืชไร่อย่างมันสำปะหลัง ราคาตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี แต่ที่เพิ่มขึ้นคือ การนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน

ไม่ต้องพูดถึงข้าวนะ เพราะทุกวันนี้ราคาเพียง 5 บาท/กิโลกรัม หรือตันละ 5,000 เท่านั้น และมีแววว่าจะลงไปมากกว่านั้นเพราะอินเดียส่งออกข้าวอย่างเต็มรูปแบบ

เมื่อสินค้าเกษตรราคาดำดิ่งทุกตัว แม้คำตอบไม่ได้อยู่ที่กระทรวงเกษตรฯ อย่างเดียว แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เกษตรไม่อาจปฏิเสธได้เลย เพราะต้นน้้ำหรือเกษตรกรนั้นเป็นหน้าที่โดยตรง

อรรถกร-อัครา รัฐมนตรี 2 อ. ไม่ใช่เด็กใหม่ เมื่อเริ่มงาน ต้องขับเคลื่อนทันที
จะแก้ปัญหาพืชผลเกษตรราคาตกต่ำอย่างไร ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว
รัฐจะสนับสนุนหรือสร้างแต้มต่อให้เกษตรกรแบบไหน การนำเข้าสินค้าเกษตรที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับเกษตรกรจะแก้ตรงนี้อย่างไร นี่ไม่นับรวมปัญหาสินค้าเกษตรเถื่อน

เวลารัฐบาลที่เหลืออยู่ไม่ต้องเลิศหรู ไม่ต้องติดแกลม แค่ประคองเกษตรกรให้อยู่รอดปลอดภัยก็แทบกระอักเลือดแล้ว ส่วนนโยบาย "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" ไม่อยากจะวิพากษ์ วันนี้เกษตรพื้นฐานยังแทบเอาตัวไม่รอด แล้วจะต่อยอดอย่างยั่งยืนได้อย่างไร?

ทุกอย่างมีแต่โจทย์ มีแต่คำถาม มีแต่ความสงสัยที่มีต่อรัฐบาล ว่ายังรักเกษตรกรเหมือนเดิมหรือไม่ ว่ากันตามตรงถ้าช่วยเกษตรกรได้ คะแนนเลือกตั้งครั้งหน้า "กล้าธรรม" จะมาเป็นกอบเป็นกำ ถ้าดึงความเชื่อมั่นเกษตรกรไม่ได้ มีโอกาสซึมยาวและเริ่มตายไปจากหัวใจเกษตรกร เหมือนเพื่อไทยเป็นอยู่ในเวลานี้

เกือบลืม....ฝากรัฐมนตรีจับตาดูการขับเคลื่อน ส.ป.ก.ให้ดีๆ จากยุคสมัยที่วิ่งก่อนข่าว ให้ข่าววิ่งตาม เริ่มเข้าสู่วิ่งตามข่าว และจะเป็นการวิ่งตามข่าวลบ นโยบาย "โฉนดเพื่อการเกษตร" ที่เคยเป็นโบว์แดง ถ้าไม่วิ่งสู้ฟัด กระแสตีกลับจะเหนื่อยมากกว่านี้