"เดียร์ลาย - ตูน ปชน.3" ผู้ต้องหาค้าบุหรี่ไฟฟ้ายิงตำรวจชุดล่อซื้อบาดเจ็บ เข้ามอบตัว อ้างคิดว่าเป็นคู่อริและถูกยิงใส่ก่อน ด้าน ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ

วันที่ 30 มิ.ย. 2568 เวลา 14.50 น. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1. , พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผู้กำกับการ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมายัง สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ 2 นาย โดย พล.ต.ท.สุรพล เปิดเผยว่า ล่าสุด คนร้ายทั้งสองคนได้ติดต่อขอเข้ามอบตัว เนื่องจากหนึ่งในคนร้ายมีอาการบาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ทราบที่อยู่ หนีไม่รอด ส่วนรายละเอียดในเชิงลึกยังต้องขอสอบถามทีมสืบสวนสอบสวนก่อน

ต่อมา เวลา 15.05 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภปากคลองรังสิต และตำรวจภูธรภาค 1 ได้คุมตัวนายนภนต์ธรณ์ หรือ ตูน ปชน.3 อายุ 36 ปี และนายสรศักดิ์ หรือเดียร์ อายุ 39 ปี มาที่ห้องสืบสวนเพื่อสอบปากคำ โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ทีมข่าวได้เข้าไปสอบถามนายตูน กับนายเดียร์ ถึงสาเหตุที่ยิงต่อสู้ตำรวจ นายตูนอ้างว่า ตนไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะก่อนหน้านี้ตนถูกคู่อริดักทำร้ายร่างกายมาก่อน จึงคิดว่าเป็นคู่อริที่เข้ามาจะทำร้าย แต่ยืนยันว่าไม่มีเรื่องยาเสพติดหรือคดีอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง มีแค่เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเท่านั้น

ส่วนนายเดียร์ เผยว่า สาเหตุที่ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะตนไม่ทราบว่าเป็นตำรวจ และทางนั้นก็เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาก่อน ตนจึงยิงตอบโต้ไป

ขณะที่ แม่ของนายตูน ได้เดินทางมายัง สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อมาติดตามคดีและด้วยความเป็นห่วงลูกชาย หลังจากทราบว่าลูกชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมา แต่ถูกจับในข้อหาใดนั้นยังไม่ทราบ เพราะลูกยังไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆ ให้ฟัง

ต่อมา พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร เปิดเผยว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สภ.ปากคลองรังสิต ได้สืบสวนหาข่าวจนได้ข้อมูลติดต่อซื้อขายกับพรรคพวกของนายตูน ก่อนที่นายตูน และเดียร์ลาย จะทำหน้าที่มาส่งมอบบุหรี่ไฟฟ้า โดยนายตูนอ้างว่าเป็นคนขับรถ แต่ระหว่างส่งของ ตำรวจได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดการฉุดกระชากกันตั้งแต่ในรถ ซึ่งนายเดียร์มีอาวุธปืนเตรียมไว้ที่เก๊ะหน้ารถอยู่แล้วในลักษณะพร้อมยิง นายเดียร์จึงได้ยิงเปิดใส่เจ้าหน้าที่ก่อน ก่อนที่จะเกิดการต่อสู้กัน โดยนายเดียร์ถูกกระสุนยิงสวนเข้าที่หลัง ซึ่งจากการตรวจรถยนต์ของกลาง ก็พบรอยกระสุน 20 กว่านัด ส่วนใหญ่ยิงออกมาจากด้านในรถ

หลังก่อเหตุผู้ต้องหาพยายามขับรถหลบหนีขึ้นทางด่วน แต่เพราะยางรถถูกเจ้าหน้าที่ยิงแบน ทำให้รถไปต่อไม่ได้ ผู้ต้องหาจึงขับรถลงจากทางด่วนและนำไปจอดทิ้งไว้ที่อู่ซ่อมรถย่านสรงประภา ดอนเมือง ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป โดยได้ตระเวนไปตามบ้านญาติพี่น้อง พรรคพวก และทำแผลที่ถูกยิงเอง จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่าคนที่ถูกตนเองยิงเป็นตำรวจ จึงคิดว่าไปไม่รอดแน่ เพราะถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก จึงได้ติดต่อคนใกล้ชิดให้ช่วยประสานพามอบตัว

ส่วนที่ตำรวจแสดงตัวแล้ว แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นตำรวจนั้น เจ้าตัวอ้างว่าส่วนหนึ่งมาจากความหวาดระแวงเรื่องราวในอดีตหลายเรื่อง ที่มีศัตรูรอบตัว กลัวคู่อริอาจจะหลอกล่อให้มาส่งบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อมาทำร้าย แต่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ และอยู่ระหว่างรอสอบปากคำตำรวจที่ถูกยิง ว่าสรุปแล้วนายเดียร์ลายเป็นคนยิง และนายตูนเป็นคนขับตามคำกล่าวอ้างจริงหรือไม่ รวมถึงตำรวจจะขยายผลไปยังเรื่องผิดกฎหมายอื่นๆ ด้วย เพราะผู้ต้องหาเคยมีประวัติก่อคดีอาชญากรรมใหญ่ๆ หลายคดี ทั้งคดียาเสพติดและคดีอาวุธปืน

ส่วนอาวุธปืน เบื้องต้นก็ไม่ใช่อาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีการยิงในระยะที่หวังผลได้ เข้าข่ายความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และพยายามฆ่าผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติตามหน้าที่ ส่วนข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน และคดีบุหรี่ไฟฟ้า จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมภายหลัง ส่วนเจ้าหน้าที่ 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ปลอดภัยทั้งคู่ โดยยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล