บิ๊กเต่า นำทีมส่งของกลางรถหรู 4 คัน คืนวัดไร่ขิง พร้อมส่งอีก 6 คันฝากจอดไว้ที่วัด ลั่นห้ามใช้ อนุญาตแค่สตาร์ทอุ่นเครื่องเท่านั้น เผยขณะนี้ยึดทรัพย์ได้ขณะนี้กว่า 150 ล้านบาท พร้อมเร่งขยายผลยึดเพิ่ม

วันที่ 26 มิถุนายน 2568 มีรายงานบรรยากาศการส่งของกลางคืนวัดไรขิง นั่นคือรถตู้หรู 4 คัน รถโบราณ รถกระบะรวม 10 คัน คือทรัพย์สินที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ตรวจยึดมา จากการจับกุมนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง คดีทุจริตยักยอกเงินวัดไร่ขิง และฟอกเงิน






ซึ่งในวันนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือ บิ๊กเต่า รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เดินทางมาเพื่อมอบทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาได้ดังกล่าว มอบคืนให้กับวัดเพื่อเก็บรักษาระหว่างรอคดีสิ้นสุดให้กับรักษาการเจ้าอาวาสวัดคนใหม่ โดยจากการตรวจสอบพบว่ารถทั้ง 10 คันนั้นมี 4 คันซึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เพราะกลุ่มผู้ต้องหาได้นำเงินที่ได้จากวัดไร่ขิงไปซื้อ ส่วนอีก 6 คัน ซึ่งเป็นรถโบราณนั้น พบเป็นการซื้ออย่างถูกต้องแต่ก็อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบระหว่างรอให้คดีสิ้นสุด โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทรัพย์สินจากกลุ่มเครือข่ายผู้ต้องหาทั้งหมดมาได้ประมาณ 150 ล้านบาท






พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า หลังจากได้ทำการสืบสวนเส้นทางการเงิน พบว่า อดีตเจ้าอาวาสวัดได้โอนเงินผ่านบัญชีของตัวเองไปยังกลุ่มผู้ต้องหา และทางกลุ่มผู้ต้องหาได้นำเงินดังกล่าวไปใช้ซื้อที่ดินในจังหวัดต่าง ๆ เช่น สุโขทัย กำแพงเพชร มุกดาหาร เพื่อสร้างสถานปฎิบัติธรรมและร้านกาแฟ รวมถึงมีการนำเงินไปซื้อรถตู้หรูทั้ง 4 คันด้วย โดยสาเหตุที่ต้องดำเนินการเร่งคืนทรัพย์สิน ซึ่งเป็นรถตู้หรู 4 คันนั้นก็เพื่อฝากวัดให้เก็บรักษาไว้ เนื่องจากคดียังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และทรัพย์สินทั้งหมดที่นำมาฝากไว้นั้นเป็นสิ่งที่กลุ่มผู้ต้องหาไม่สามารถชี้แจงที่มาได้ ขณะที่ผู้ต้องหาบางคนยอมรับสารภาพว่ามีการนำเงินวัดไปซื้อจริง




ด้านพระราชวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เปิดเผยว่า การดูแลรักษาของกลางหลังจากนี้จะมีการจัดระบบการดูแลโดยเจ้าหน้าที่ของวัด ซึ่งขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการทั้งฝ่ายสงฆ์และฝ่ายฆราวาส ส่วนการเรียกศรัทธาของวัดหลังจากก่อนหน้านี้มีคดีความนั้น เบื้องต้นเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อวัดไร่ขิงจึงเชื่อว่าจะไม่กระทบกับความศรัทธาของประชาชน


สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบนั้นทาง ปปง. ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนผ่านธุรกรรมทางการเงิน จนพบการกระทำความผิด ทำให้สามารถดำเนินการนำทรัพย์สินมาคืนให้กับวัดได้ ส่วนการตรวจสอบทรัพย์สินที่เหลือ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 90 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ยังต้องมีการตรวจสอบเส้นเงินเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าจะมีทรัพย์สินที่ต้องตรวจยึดเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง