รมว.กต. เผยเร่งเจรจา JBC ไทย-กัมพูชา เร็วๆ นี้ หาข้อยุติแบ่งเส้นแดน ยันทั้ง 2 ฝ่าย ยึดสันติ เชื่อสถานการณ์ไม่รุนแรงบานปลาย ด้าน "โฆษก กต." ยันโพสต์ "ฮุน เซน" ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม "เจบีซี" แน่ รอฝั่งกัมพูชาในฐานะเจ้าภาพแจ้งเวลา-สถานที่ บอกทีมไทยแลนด์ทั้งทีม มุ่งหาข้อยุติอย่างสันติ

วันนี้ 1 มิ.ย. 68 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ประเทศ ได้ออกแถลงข่าว เรื่องสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ว่า จากกรณีเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ขอยืนยันว่าการดำเนินการของฝั่งไทยจะดำเนินการตามกฏหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายไทยอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งจากการพูดคุย กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ก็เห็นตรงกันว่าจะดำเนินการหาข้อยุติเพื่อไม่ให้สถานการณ์เกิดการบานปลายและกระทบกระเทือนกับความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ และทั้งสองเห็นตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์ยุติความตึงเครียดโดยเร็ว

 

ส่วนแนวทางการแก้ปัญหา จะใช้กลไก 3 ระดับ คือการประชุม JBC หรือคณะกรรมาธิการเขตร่วมแดน ซึ่งเป็นกลไกเจรจาเรื่องการกำหนดเขตแดน รวมถึง GBC หรือคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ที่ได้ประชุมผ่านไปแล้ว และการสร้างความร่วมมือ RBC หรือ ความร่วมมือการรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดนซึ่งเป็นกลไกเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยในตอนนี้ยืนยันว่าฝ่ายไทยมีความพร้อมในการเจรจารอเพียงการกำหนดวันจากฝั่งของกัมพูชาซึ่งยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายอยากมีการเจรจา มองว่าจะไม่มีการประทะรุนแรงเกิดขึ้นบริเวณชายแดน

 

สำหรับปัจจุบันในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา สถานการณ์ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยังคงเปิดจุดผ่านแดนตามปกติ

 

ขณะที่นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงเพิ่มเติมว่า กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจ ยืนยันว่าไทยดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและตามกฏหมายภายในของไทย ทั้งนี้การดำเนินการของไทยเป็นไปเพื่อป้องกันอธิปไตยและเป็นไปเพื่อการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสมและได้สัดส่วนของสถานการณ์ ที่สอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศและแนวปฏิบัติสากลที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้สถานการณ์ยังคงมีความสงบตามแนวชายแดนไทย กัมพูชาและด่านทุกด่านเปิดตามปกติ

 

“ท่านรัฐมนตรีได้มีการติดต่อสื่อสารกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา 2 ครั้ง และล่าสุดนี้ทำให้เห็นว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีเจตนารมณ์ทางการเมืองที่แน่วแน่ ที่จะแก้ไขด้วยกลไกที่ 2 ฝ่ายมีอยู่แล้ว เราหวังว่าจะมีการประชุมเจบีซี ซึ่งเป็นกลไกทางเทคนิคและกฎหมายที่ตั้งขึ้นมา มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความชัดเจนของการแก้ไขปัญหาเขตแดนในระยะกลางถึงระยะยาว เพื่อให้มีการสำรวจและทำหลักเขตแดนที่ชัดเจน โดยอาจจะแนะนำมาตรการชั่วคราวในระหว่างรอสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญ ที่อาจช่วยลดการเผเชิญหน้าระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่าย เราพยายามจัดให้มีการประชุมในโอกาสแรกอย่างเร็ว อาจจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า และไม่น่าจะเกินปลายเดือน มิ.ย.นี้” นายนิกรเดช กล่าว

 

จากนั้นเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม โดยนายนิกรเดช ย้ำว่าการประชุมเจบีซีที่จะจัดขึ้น ตอนนี้ไม่มีปัญหา ฝ่ายไทยมีความพร้อมในการเจรจาแล้วตามที่มีการประชุมกันไป ประเด็นคือผู้ที่เป็นเจ้าภาพการประชุมคือฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกำลังเจรจาเรื่องวันที่อยู่ ทั้ง 2 ฝ่ายอยากให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด

 

เมื่อถามถึงโพสต์ของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่ระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ตามหลักแล้วมีผลทางกฎหมายหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า ผลทางกฎหมายไม่มี ท่านโพสต์ได้ เพียงแต่เราดูในฝั่งเรา อยากให้ข้อมูลที่ออกมาทางสื่อสะท้อนความเป็นจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

 

ส่วนหากเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น จะมีการรับมืออย่างไรบ้าง นายนิกรเดช กล่าวว่า เรื่องนี้เกินกระทรวงการต่างประเทศ แต่จะมีทั้งทางทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้เกิดเหตุปะทะกันรุนแรง ตนคิดว่าอย่าเพิ่งไปถึงตรงนั้น ตอนนี้เรากำลังอยู่ในทางลงที่ดี ทางลงที่สันติระหว่างกัน ตนเชื่อว่าเราพร้อมเจรจาระหว่างกัน

 

เมื่อถามว่าจุดยืนของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เป็นพลเรือน และกองทัพที่อยู่ในฝ่ายปฏิบัติสอดคล้องกันหรือไม่ในเรื่องการยืนยันเจรจารักษาสันติภาพ นายนิกรเดช ระบุว่า สอดคล้องกัน เพราะฝ่ายทหาร ไม่ได้ประสงค์ที่จะมีความรุนแรงใดๆ เราทีมไทยแลนด์ทั้งทีม เรามุ่งหาข้อยุติอย่างสันติวิธี