มงฟ้ามาแล้ว!! "โอปอล-สุชาตา" พลิกประวัติศาสตร์ไทยคว้ามงกุฎมิสเวิลด์ครั้งที่ 72
ยิ่งใหญ่สมการรอคอยกับการประกวดมิสเวิลด์ครั้งที่ 72 รอบตัดสินที่จัดขึ้นค่ำคืนวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดยสาวงามจากประเทศไทย “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มงแรกแห่งประวัติศาสตร์มาให้คนไทยได้สำเร็จ ถือว่าเป็น 72 ปีที่รอคอยทำให้คนไทยได้สมหวังแล้ว!!
โดยการประกวดในปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการเปิดตัวด้วยพาเหรดสาวงามในชุดประจำชาติจากนั้นสาวงามทั้งหมดจะเดินโชว์โฉมด้วยชุดราตรีอันเจิดจรัสแบบทีละคนเรียงตามทวีปแล้วจึงประกาศรายชื่อสาวงามที่เข้ารอบ 40 คนสุดท้ายจากนางงาม 108 ประเทศ โดยแบ่งเป็น 4 ทวีป ทวีปละ 10 คน ดังนี้ อเมริกา&แคริบเบียน แอฟริกา ยุโรป และ เอเชีย&โอเชียเนีย ซึ่งสาวงามบางส่วนที่ชนะในรอบเก็บคะแนนหรือ Fast Track ต่างจะผ่านเข้ารอบ 40 คนนี้แบบอัตโนมัติ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีสาวงามจากประเทศไทย “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” ที่คว้าอันดับ 1 การแข่งขันมัลติมีเดียชาเลนจ์เอเชีย&โอเชียเนีย ผ่านเข้ารอบเป็นที่เรียบร้อย
จากนั้นมาลุ้นกันต่อกับรอบ 20 คนสุดท้าย ซึ่งแต่ละประเทศที่ทะลุผ่านเข้ารอบนี้มานั้นล้วนเป็นสายแข็งของปีนี้ทั้งนั้นอย่างทวีปอเมริกา ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล เปอร์โตริโก อเมริกา มาร์ตินีกเป็น แอฟริกาได้แก่ แคเมอรูน เอธิโอเปีย นามิเบีย ไนจีเรีย และ ตูนิเซีย ต่อมายุโรปได้แก่ ไอซ์แลนด์ อิตาลี โปแลนด์ ยูเครน และ เวลล์ สุดท้ายเป็นทวีปเอเชียได้แก่ ออสเตรเลีย อินเดีย เลบานอน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย เรียกว่าทำกองเชียใจหายใจคว่ำมากๆ จากนั้นประกาศรอบ 8 คนสุดท้ายต่อเลย ได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และ ประเทศไทย จากนั้นจะเป็นรอบสุดหินที่สาวงามทั้ง 8 คนจะต้องมาวัดกันที่คำถามที่ว่า คุณคิดว่าคุณควรได้เป็นมิสเวิลด์ ตัวแทนจากเอเชียและโอเชียเนียหรือไม่?
ซึ่งคำตอบของโอปอลคือ “สำหรับคำถามนี้ โอปอลมองว่ามันเหมือนกับการดูแลสวนดอกไม้ค่ะ ใคร ๆ ก็สามารถรดน้ำต้นไม้ได้ แต่ถ้าจะทำให้สวนงดงามและยั่งยืนจริง ๆ ต้องมีใครสักคนที่อยู่ดูแลมันอย่างต่อเนื่อง และสิ่งนี้ก็เหมือนกับบทบาทของ Miss Asia & Oceania ไม่ใช่แค่การแนะนำตัวเองพร้อมตำแหน่งที่ได้รับ แต่คือการทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่า โอปอลอยู่ตรงนี้เพื่อพวกเขา ยืนหยัดเคียงข้างพวกเขาจริง ๆ ผ่านโครงการ Beauty with a Purpose โอปอลได้เรียนรู้ว่า การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าคือการมอบชีวิตและความฝันกลับคืนให้กับผู้ที่เคยสูญเสียมันไป และนั่นคือเหตุผลที่โอปอลยืนอยู่ตรงนี้ในวันนี้ เพื่อเป็นแสงแห่งความหวัง เป็นพลังแห่งความเข้มแข็ง และเพื่อทิ้งไว้ซึ่งร่องรอยของความหมายจนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต”
สำหรับผลผู้ชนะ 4 คนสุดท้ายของแต่ละทวีปได้แก่ มาร์ตินีก ผู้ชนะจากอเมริกา และแคริบเบียน เอธิโอเปีย ผู้ชนะจากทวีป แอฟริกา โปแลนด์ ผู้ชนะจากทวีป ยุโรป และที่ทำคนไทยทั้งประเทศเกือบหยุดหายใจก็คือทวีปสุดท้ายเอเชีย ซึ่ง “โอปอล” จากประเทศไทยสามารถผ่านด่านหินมาได้สำเร็จ
จากนั้นทั้ง 4 คนต้องมาวัดกันที่คำถามสุดท้ายซึ่งโอปอลได้คำถามที่ว่า “การเดินทางครั้งนี้สอนคุณอย่างไรเกี่ยวกับความจริง และความรับผิดชอบส่วนบุคคลในการกำหนดเรื่องราวที่ถูกเล่าขาน?”
โดยโอปอลตอบว่า “ขอบคุณมากสำหรับคำถามนี้ค่ะ และการได้มายืนอยู่ตรงนี้ ถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของโอปอลเลยค่ะสิ่งหนึ่งที่โอปอลได้เรียนรู้จากการอยู่บนเวที Miss World คือ ความรับผิดชอบต่อการที่ความจริงจะถูกถ่ายทอดออกไปอย่างไร และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่โอปอล รวมถึงผู้เข้าประกวดทุกคน รวมถึงทุกคนในห้องนี้สามารถทำได้ ก็คือ การเป็นบุคคลต้นแบบที่คนรอบตัวสามารถยึดถือเป็นแบบอย่างได้โอปอลเชื่อมาเสมอว่า ไม่ว่าเราจะเป็นใคร จะอายุเท่าไหร่ หรือจะมีบทบาทหรือหน้าที่ใดในชีวิต ยังไงก็ต้องมีใครสักคนหนึ่งที่มองขึ้นมาหาเรา อาจเป็นเด็กเล็ก คนรอบตัว หรือแม้แต่พ่อแม่ของเราเองและวิธีที่ดีที่สุดในการนำทางคนเหล่านั้น ก็คือ การเป็นผู้นำผ่านความอ่อนโยนและการกระทำของเราเองเพราะการกระทำของเรานั้น เสียงดังกว่าคำพูดเสมอ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถมอบให้กับคนรอบข้าง และกับโลกใบนี้ขอบคุณมากค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดี และอย่าลืมว่า จงมั่นคง และใช้การกระทำเป็นเสียงที่ดังกว่าคำพูด”
และนี่คือคำตอบที่พิชิตใจกรรมการ และทำให้ “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” คว้ามงกุฎมิสเวิลด์ครั้งที่ 72 สร้างประวัติศาสตร์มงฟ้ามงแรกให้คนไทยได้สำเร็จ
สำหรับตัวแทนสาวไทย “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” ถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบในการประกวดครั้งนี้อย่างที่สุดแล้ว กับตำแหน่งชนะเลิศมิสเวิลด์ครั้งที่ 72 รวมถึงการชนะเลิศ Miss World Multi-Media ทวีปเอเชีย-โอเชียเนีย และอันดับ 2 Miss World Head2Head Challenge ทวีปเอเชีย-โอเชียเนีย พร้อมคะแนนโหวตจากมหาชนทั่วโลกกว่า 2 ล้านโหวตบนแอปพลิเคชัน มิสเวิลด์ ฯลฯ และเต็มที่ในทุกกิจกรรม ที่สำคัญที่สุด “โอปอล” ยังได้นำโครงการ “Opal for Her” ที่รณรงค์การตระหนักรู้และรับมือกับมะเร็งเต้านมให้คนทั่วโลกได้รับรู้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เต็มไปด้วยคุณภาพของโอปอล ที่สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยเป็นอย่างยิ่ง