"ทักษิณ" โชว์วิสัยทัศน์แข็งกร้าว "เราไม่ควรปราณีกับศัตรู" ประกาศสงครามยาเสพติดกับว้าแดง เผย 1-2 เดือน รมว.ตปท. เดินสายพบเพื่อนบ้าน ผนึกกำลังต้านว้าแดงต้องเลิกผลิต ขออาสานายกฯ ไปเดินเล่นต่างจังหวัด เสาะหาบ้านพ่อค้ายา แล้วจะกลับมาฟ้อง มท.1 ให้ไปสืบทรัพย์
วันที่ 27 พ.ค. 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เริ่มปาฐกถา ในหัวข้อ “ยาเสพติดอาชญากรรมข้ามชาติ มุมมอง และความท้าทาย ในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ว่า ยาเสพติดเป็นภัยคุกคามปัจจุบันและอนาคต คือ ทำลายลูกหลานเรา เยาวชนเรากำลังถูกทำลาย ไม่มีอะไรเกินมือ และสมองเรา วันนี้ต่างคนต่างทำงานไปเรื่อยๆ ไม่สำเร็จขาดการบูรณาการ ที่มีทิศทางที่ชัดเจน ตนดีใจที่ได้รับเชิญ ความจริงอึดอัดอยากพูดเรื่องนี้มานาน ชาวบ้านบอกเศรษฐกิจวันนี้รอได้แต่ยาเสพติดรอไม่ไหวแล้ว เดือดร้อนไปหมดแล้ว นอนผวากันหมด เมื่อตอนตนป่วย ดูทีวีเห็นเด็กที่ไล่ฆ่าปู่ย่าตายายพ่อแม่ ตอนนั้นเกิดเรื่องที่มหาวิทยาลัยเกษตรฯ ตนได้สั่งให้ลุยเรื่องนี้ ตนจึงอยากใช้ประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง ซึ่งคงไม่พูดเรื่องความหลัง แต่เป็นสิ่งที่จะต้องมาปรับกับปัจจุบัน
สมัยก่อนพ่อค้ารายใหญ่อยู่ในประเทศไทย การผลิตอยู่ต่างประเทศครึ่งหนึ่งไทยครึ่งหนึ่ง แต่วันนี้การผลิตแทบจะ 100% อยู่ที่ว้าแดง รู้จุดแล้วแปลว่าเฉยไม่ได้ พ่อค้ารายใหญ่หลบหนีไปอยู่ข้างบ้านหมด แต่ก็ยังมีเครือข่ายในประเทศไทย เจ้าหน้าที่แกล้งไม่รู้เรื่องหรือไม่อยากรู้เรื่อง วันนี้การแก้ปัญหาต้องประยุกต์จากของเก่ากลับมาเป็นเรื่องใหม่ ทุกหน่วยงานต้องมีใจ เพราะอันตรายเหล่านี้กำลังมาถึงลูกหลานเรา
ตัวยาที่ผลิตใช้ทำยาเสพติดคือคาเฟอีน แม้จะมีหลายอย่าง ตลาดยาเสพติดใหญ่ที่สุดในเพื่อนบ้านคือประเทศไทย เพราะมีตังค์ที่สุด ตอนนี้มีหน่วยงานที่จัดการยาเสพติด 29 หน่วย ไม่รู้ว่ามากไปเพราะความหอมหวานของงบประมาณหรือไม่ ยาเสพติดเข้าประเทศไทยตรงๆ มาทางเรือ ด้วยคอนเทนเนอร์ ศุลกากรวันนี้มีตู้เข้ามา 6 ล้านตู้ เครื่องเอ็กซเรย์มีไม่พอ เอ็กซเรย์ไม่หมด เปิดตู้บ้าง ไม่เปิดตู้บ้าง ตั้งใจไม่เปิดตู้ก็มี ไม่รู้ คาเฟอีนลงเรือที่เขมรมาที่แหลมฉบัง วันนี้ที่เราแย่สู้ประเทศอื่นไม่ได้ ถอยลงเพราะระบบราชการเราถูกวางไว้ต่างคนต่างทำ ขาดเจ้าภาพและวัดเคพีไอ วันนี้ต้องกลับมาเข้ามาสู่ยุคการบริหารแบบการบริหารองค์กร ที่ผ่านมาเราไม่ได้บริหาร แต่เราทำธุรกรรม คือทำให้เสร็จไปวันๆ ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มีเป้าหมาย
แหล่งผลิตอยู่ในว้าแดง เขตติดต่อสามเหลี่ยมทองคำ รัฐฉาน วันนี้ตนมีความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านค่อนข้างดี เพราะเป็นคนแก่ที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงพยายามไล่ตามความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านให้เกิดประโยชน์ แต่บังเอิญไปไหนไม่ค่อยได้ ดังนั้นถึงเวลาที่เราจะต้องขอความร่วมมืออย่างจริงจังกับประเทศเพื่อนบ้าน แหล่งผลิตถ้าเมียนมาบอกว่าจัดการไม่ได้เพราะเป็นชนกลุ่มน้อย เราคงต้องขอจัดการเองมั้ง เพราะมันเป็นศัตรูของเรา มันอยู่ในพื้นที่ไหน ถ้าเขาจัดการไม่ได้ เราต้องขออนุญาต วิธีจัดการของเราก็มีวิธีที่สากลรับได้ และต้องจัดการเรื่องแหล่งผลิต คิดว่าอีกไม่กี่เดือน 1-2 เดือนนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะต้องไปพบปะกับเพื่อนบ้านทั้งหมด เพื่อผนึกกำลังกันให้ว้าแดงเลิกผลิตยาเสพติด ถ้าคุณยังผลิต คุณคือศัตรูของประเทศไทย เราไม่ควรมีความปราณีกับศัตรู นี่เป็นสิ่งที่ตนคิดว่ารัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนต้องเกิดขึ้น
การลำเลียงผ่านชายแดนไทยไปทางลาวผ่านแม่น้ำโขง การจับเป็นปลายทาง แต่เราต้องดักจับทุกรูปแบบ ที่สำคัญ มันต้องจบที่หมู่บ้านและชุมชน ต้องสีขาวให้ได้ ดังนั้น ความร่วมมือของส่วนราชการสำคัญมาก สมัยก่อนตนให้เอ็กซเรย์ทุกตารางนิ้วของประเทศไทย สำคัญที่สุด ตำรวจและปกครองจะต้องเป็นปาท่องโก๋ ต้องไปด้วยกัน จับมือกัน ต้องรักกัน ต่างคนต่างทำไม่ได้ ผู้การ กับผู้ว่า นายอำเภอกับผู้กำกับ ปลัดอำเภอกับสารวัตร ทำให้เราสามารถซอยย่อยลงไป เอ็กซเรย์จัดการได้หมด สำคัญที่สุดอย่าให้พ่อค้ายาที่ทุกคนรู้หมดอยู่ในชุมชนเหล่านั้น อย่าให้มันอยู่ในหมู่บ้าน ให้ไปอยู่ที่อื่น ต้องจับกุมไปอยู่ในเรือนจำ เป็นภารกิจที่สำคัญ ตนจึงขออนุญาตนายกรัฐมนตรีว่าตนว่างๆ แก่แล้ว ไม่มีอะไร จะไปต่างจังหวัด ไปดูแต่ละชุมชนว่าหมู่บ้านไหน มีเรื่องยาเสพติดตนจะได้มารายงานรัฐมนตรีมหาดไทย ว่าขณะนี้พ่อค้ายาอยู่สบายมากเลย ทรัพย์ก็ไม่โดนยึด ขอให้รัฐมนตรีไปสืบทรัพย์หน่อยได้หรือไม่ ตนว่าจะเป็นคนขี้ฟ้องหน่อย เดินไปเล่นๆ และฟ้องไปเรื่อยๆ