ชาวสวนทุเรียนลับแล จ.อุตรดิตถ์ ร้องทุเรียนเพิ่งตัดขายล็อตแรกของฤดูกาลปี 68 แต่ถูกสวมสิทธิ์ GAP ส่งผลให้ล้งส่งออกไม่ได้ วอนหน่วยงานเร่งตรวจสอบก่อนผลผลิตจำนวนมากออกสู่ตลาดเดือนมิถุนายนนี้

วันที่ 26 พ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เกษตรกรปลูกทุเรียนหมอนทอง อ.ลับแล และ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กว่า 20 ราย ตัดทุเรียนหมอนทองส่งขายให้กับผู้ประกอบการ (ล้ง) ที่เช่าพื้นที่ตลาดกลางผลไม้ตำบลนานกกก อ.ลับแล หรือเฮียหลง บริษัท ทุเรียนในตำนาน (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมแนบเอกสารรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร หรือเอกสารรับรอง GAP ที่ออกโดยกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ล้งใช้ประกอบการส่งออก ซึ่งหากเกษตรกรมี เอกสารรับรอง GAP ส่งผลให้ขายทุเรียนได้ในราคาสูง เนื่องจากมีใบรับรองเพื่อการส่งออกได้เป็นพืชปลอดภัยได้มาตรฐาน หลังล้งรับซื้อและตรวจสอบเอกสารดังกล่าว พบว่า เอกสารรับรอง GAP ที่เกษตรกรถือครองอยู่ ถูกนำไปใช้แล้ว ในขณะที่ชาวสวนเจ้าของตัวจริงยืนยัน ในฤดูกาลปี 68 ยังไม่ได้ตัดหรือนำผลผลิตไปขายให้ล้งใดๆ มาก่อน หลังล้งตรวจสอบสิทธิ์จากเกษตรกรที่ตัดทุเรียนส่งขายให้ พบว่ากว่า 20 ราย 227 ไร่ ที่ GAP ถูกนำไปใช้

บรรยากาศที่ล้ง เฮียหลง บริษัท ทุเรียนในตำนาน(ประเทศไทย) จำกัด ตลาดผลไม้ตำบลนานกกก ตั้งแต่เช้าเกษตรกรชาวสวนทั้ง อ.ลับแล และ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ที่มีเอกสารรับรอง GAP ต่างหอบเอกสารเพื่อขอให้ล้งช่วยตรวจสอบสิทธิ์ว่ายังคงใช้ได้หรือถูกสวมสิทธิ์ไปแล้ว แต่ทางผู้ประกอบการไม่สามารถตรวจสอบให้ได้ เนื่องจากได้ชะลอการรับซื้อเพื่อการส่งออก และการเช็กระบบจะทำได้กรณีเกษตรกรขายทุเรียนให้ผู้ประกอบการ ในขณะที่ล้งรับซื้อทุเรียนเฮียหลง บรรยากาศค่อนข้าเงียบ ไม่พบคนงานออกมารอรับซื้อผลผลิตเหมือนเช่นทุกๆวัน ส่วนผลผลิตที่ล้งรับซื้อก่อนหน้าได้ส่งให้กับพวกพ้องขายในประเทศไปแล้ว ซึ่งต้องยอมขาดทุนบ้าง

ด้านนางเสงี่ยม ก้อนแก้ว เกษตรกรชาวสวนทุเรียน หมู่ 5 ต.นานกกก กล่าวว่า ตนจัดเตรียมเอกสารทั้งฉบับภาษาไทยและอังกฤษ ได้สิทธิ์จำนวน 3 ไร่ หรือ 15 ตัน ได้รับเมื่อเดือนกรกฎาคม 67 ยังไม่ได้ใช้แม่แต่ครั้งเดียว ตั้งใจจะใช้ฤดูกาลปี 68 เมื่อตรวจสิทธิ์ ระบบแจ้งว่า “ปริมาณในระบบไม่เพียงพอกับปริมาณที่ขอ” หมายถึง เอกสารถูกนำไปใช้แล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ขายทุเรียน และชาวสวนทุเรียน อ.ลับแล ต่างเริ่มวิตกกังวล ว่าหากตัดทุเรียนหมอนทองในฤดูกาลนี้ GAP จะใช้ได้หรือไม่ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา ก่อนที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาดเดือนมิถุนายนนี้เป็นจำนวนมาก

ด้านนายเฉลา นวนสีใส ประธานคณะกรรมการตลาดกลางผลไม้นานกกก บอกว่า หลังมีเรื่อง GAP ของเกษตรกรชาวสวนทุเรียนโดยสวมสิทธิ์ การซื้อขายเงียบเหงา เกษตรกรที่ถูกสวมสิทธิ์กว่า 20 ราย ไม่สามารถนำทุเรียนขายเพื่อการส่งออกได้ กำลังเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลทุเรียนลับแล โดยเฉพาะหมอนทองที่ออกสู่ตลาดมากเดือนมิถุนายน GAP ใช้ไม่ได้ส่งผลต่อราคาทุเรียนตกต่ำ เป็นอาชีพและรายได้หลักของเกษตรกรปลูกทุเรียน การดูแลรักษา ลงทุน 1 ปี หวังขายเพื่อส่งออกได้ ราคาก็จะสูง GAP มีปัญหาจนถึงปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาชี้แจงอธิบาย

นายพาณิชย์ อินรงค์ หรือเฮียหลง เจ้าของบริษัท ทุเรียนในตำนาน(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตนเช่าพื้นที่ตลาดกลางผลไม้ตำบลนานกกก เปิดล้งรับซื้อทุเรียนจังหวัดอุตรดิตถ์ และเริ่มรับซื้อทุเรียนหมอนทองจากชาวสวนอำเภอลับแลล็อตแรก ประมาณกว่า 100 ตัน หลังคัดทุเรียน 60 ตันใส่ตู้คอนเทนเดอร์ 3 คันเพื่อส่งออก ได้ตรวจเช็กหนังสือรับรอง GAP ของชาวสวนที่แนบให้กับผู้ประกอบการหลังซื้อขาย ปรากฏว่า GAP ของชาวสวนถูกนำไปใช้เต็มระบบแล้ว ตามเอกสารที่พบแจ้งว่า "ปริมาณในระบบไม่เพียงพอกับปริมาณที่ขอ" เบื้องต้นจากที่ตรวจสอบพบชาวสวนทุเรียนลับแลที่นำผลผลิตมาขายที่ล้ง 27 คน พื้นที่กว่า 227 ไร่ รวมน้ำหนักทุเรียนกว่า 1,135,000 กก. ถูกสวมสิทธิ์ GAP ในส่วนของผู้ประกอบการ เมื่อไม่สามารถระบุแหล่งที่มาของสินค้าได้ ก็ไม่สามารถส่งออกได้

เบื้องต้น ต้องขอความช่วยเหลือไปยังเครือข่ายพ่อค้าแม่ค้าห้องเย็นที่รู้จักกัน ช่วยรับซื้อไปจำหน่ายในประเทศ แม้ราคาที่ขายจะขาดทุนแต่ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เบื้องต้นทางล้งชะลอการรับซื้อเพื่อการส่งออก จนกว่าทุกอย่างจะชัดเจน แต่ยังรับซื้อที่จำหน่ายในประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอุตรดิตถ์ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขต 2 กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า มีชาวสวนทุเรียนจำนวนหนึ่งได้เดินทางติดต่อเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ เรื่องการสวมสิทธิ์ GAP และขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการช่วยตรวจสอบข้อมูลว่า GAP ที่ถือครองอยู่ ยังสามารถใช้ได้ปกติหรือไม่ โดยมีนายอานนท์ มลิพันธ์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอุตรดิตถ์ ชี้แจงต่อเกษตรกรถึงความจำเป็นที่ไม่สามารถเช็คสิทธิ์ให้ได้ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบ แก้ไข พร้อมทั้งไม่สามารถให้ข้อมูลหรือรายละเอียดต่อสื่อมวลชนใดๆ ได้