ผอ.ปภ. เผยความคืบหน้าการปฏิบัติการค้นหาและรื้อถอนซากอาคาร สตง. ล่าสุดพบร่างผู้สูญหายเพิ่ม 5 รายบริเวณโซน D พร้อมเร่งเปิดโซน B และ C คาดเจอผู้ติดค้างใกล้โถงบันไดต่อเนื่องภายในสัปดาห์นี้ ยืนยันพายุเมื่อคืนไม่กระทบต่อโครงสร้างที่เหลืออยู่

วันที่ 1 พ.ค. 2568 นายสุริยชัย ระวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (ผอ.ปภ.) ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายและรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือน




โดยนายสุริยชัย กล่าวว่า มีแผ่นคอนกรีตสภาพที่สมบูรณ์ถล่มลงไปซ้อนกันอยู่ห้าชั้น โดยทรุดตัวลงไปในชั้นใต้ดินและแผ่นที่ห้าอยู่ระดับเดียวกับพื้นดินชั้นหนึ่ง ส่วนในการเข้าถึงพื้นที่ชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ได้เริ่มเจาะเปิดช่องในโซน B และโซน C เพื่อลงไปยังบริเวณบันได โดยขณะนี้สามารถเจาะทะลุลงไปถึงช่องบันไดได้แล้ว ซึ่งอยู่ห่างจากขอบอาคารประมาณ 15 เมตร ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา ระหว่างเวลา 22.00 - 23.00 น. เจ้าหน้าที่ได้พบบร่างผู้สูญหาย 1 ราย และต่อมาในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. พบเพิ่มอีก 1 ราย


ก่อนที่เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันนี้จะพบร่างผู้สูญหายอีก 3 ราย รวมทั้งหมดเป็น 5 ราย ซึ่งพบในบริเวณโซน D ทั้งหมด โดยจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะพบผู้ประสบภัยจำนวนมาก เนื่องจากเป็นทิศทางหลบหนีในขณะที่เกิดการถล่ม สำหรับพื้นที่ใต้ดินซึ่งมีระดับลึกประมาณ 3 เมตรจากชั้นพื้นดิน ขณะนี้สามารถขุดลึกลงไปได้แล้วประมาณ 1.5 เมตร


อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติงานยังคงประสบอุปสรรคในฝั่งโซน A เนื่องจากมีคานขนาดใหญ่ที่หักจากเสาและตกลงมาทับซ้อนกันหลายชั้น จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรหนักในการตัดและยกออก ซึ่งเมื่อวานนี้สามารถดำเนินการได้เพียงเสาเดียว ส่วนในส่วนของโซน C และโซน D การปฏิบัติงานมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะโซน C ซึ่งยังเหลือระยะทางประมาณ 10 เมตร ก่อนจะถึงพื้นที่ที่คาดว่าจะมีผู้สูญหายติดค้างอยู่ โดยพื้นที่บริเวณนี้เป็นทางเชื่อมระหว่างอาคาร และคาดว่าจะเป็นจุดที่มีผู้ประสบภัยอยู่ใกล้โถงบันไดฝั่งลิฟต์ทั้งสองฝั่ง แม้วันนี้จะตรงกับวันแรงงาน แต่เครื่องจักรภาคเอกชนยังคงเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ บางเครื่องจักรยังคงมีปัญหาและต้องรอการซ่อมแซม แต่สามารถสับเปลี่ยนกำลังทำงานได้อย่างต่อเนื่อง




"เมื่อคืนที่ผ่านมายังมีพายุฝนพัดเข้ามาในพื้นที่ แต่อาคารจอดรถที่ไม่ถล่มแต่ยังคงอยู่ในสภาพดี ไม่ได้รับผลกระทบจากพายุ และไม่มีอาการสั่นไหวตามที่มีข่าวลือแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าการสั่นสะเทือนหลักในพื้นที่เกิดจากการใช้เครื่องจักรในการเจาะและรื้อถอน ซึ่งรุนแรงกว่าฝนที่ตกลงมา สำหรับแผนการทำงานในวันนี้ เจ้าหน้าที่จะเน้นการนำเศษวัสดุออกจากโซน B และ C เพื่อเปิดทางเข้าสู่โถงบันไดใกล้บริเวณลิฟต์ โดยเชื่อว่าจะพบผู้ประสบภัยตกค้างอยู่ในบริเวณดังกล่าวอีกจำนวนหนึ่ง หากมองจากถนน เข้าไปยังตัวอาคาร โดยฝั่งขวาของอาคาร เป็นโซนบันไดในโซน B ขณะที่ฝั่งซ้ายอยู่ในโซน A


คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้ จะสามารถดำเนินการค้นหาและรื้อถอนซากอาคารได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ตัวอาคารมีขนาดประมาณ 40×40 เมตร และสามารถเปิดพื้นที่รื้อถอนได้เฉลี่ยวันละ 10 เมตร ซึ่งหมายความว่าจะใช้เวลาปฏิบัติงาน เฉลี่ยต่อพื้นที่ราวหนึ่งสัปดาห์จึงจะแล้วเสร็จ" นายสุริยชัย กล่าว