พ่อเด็ก 6 เดือน สารภาพผลักลูกตกเตียงแต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต
วันนี้ ( 3 ธ.ค.67) กรณีเหตุรับแจ้งเหตุ เด็กทารกวัย 6 เดือนเสียชีวิต สภาพร่างกายมีรอยฟกช้ำทั่วลำตัว มีรอยกัดที่ก้นและฝ่าเท้า เหตุเกิดภายในบ้านหลังหนึ่ง ในซอยจตุโชติ 20 เขตสายไหม กรุงเทพฯ เบื้องต้นได้คุมตัวนายเมธี (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี พ่อเด็ก ให้การรับสารภาพว่าพลั้งมือทำลูกตกเตียงไม่ได้ตั้งใจ โดยตำรวจจะคุมตัวไปขอหน้าศาลฝากขังก่อนเที่ยงวันนี้
ต่อมาพ่อของนายเมธี เดินทางเข้าพบลูกชาย พร้อมกับเผยว่า ลูกชายค่อนข้างเครียด และมีบางประเด็นไม่ใช่เรื่องจริงที่ข่าวนำเสนอ เป็นการฟังความข้างเดียว ที่บอกว่าลูกชายทะเลาะกับแฟนอยู่บ่อยครั้งรวมถึงมีการทำร้ายร่างกาย พ่อนายเมธีบอกว่าเรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ ส่วนแฟนสาวคนนี้ตนเองไม่เคยเจอมาก่อน สำหรับหลานชาย 6 เดือน เคยเจอเพียงแค่ครั้งเดียว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย หรืองอแงหรือไม่
พ่อ ยอมรับว่าลูกชาย มีอารมณ์ที่ฉุนเฉียว แต่โกรธง่ายหายเร็ว ถ้าหากไม่ได้เมาสุราก็จะมีอารมณ์ที่ปกติ ส่วนเรื่องจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ตนเองไม่ทราบเรื่องนี้ และไม่มั่นใจว่าลูกชายจะเป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายหลาน 6 เดือน เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนที่รักหมารักแมว และรักเด็ก เพราะลูกชายของตนมีลูกมาแล้วหลายคน ก็ไม่เคยเห็นลูกชายไปตีหรือทำร้ายร่างกายเด็กมาก่อน และตนจะไม่ยื่นประกันตัวลูกชาย เพราะอยากให้ได้รับผลกรรมที่กระทำไว้
ด้าน ผู้กำกับสน. คันนายาวเปิดเผยว่า ผู้ต้องหารับสารภาพยอมรับว่าได้ทำการผลักลูกชายตกลงมาจากเตียง แต่ไม่ได้เจตนาที่จะทำให้ถึงแก่ชีวิต สำหรับประเด็นดรามาว่าทำไมตำรวจถึงไม่เข้าไประงับเหตุ หรือเข้าไปช่วยเหลือเด็กในทันที ผู้กำกับสน. คันนายาวชี้แจงว่า แม่เด็กมาแจ้งความเพียงแค่ว่าถูกทำร้ายร่างกาย แต่ไม่ได้แจ้งว่าลูกถูกทำร้ายร่างกายด้วย หากตำรวจรู้ก็จะบุกเข้าไปช่วยเหลือทันที ซึ่งระหว่างที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ พ่อเด็กก็อยู่กับเด็กภายในบ้าน ตำรวจได้มีการพยายามตะโกนเรียกแล้ว แต่พ่อเด็กไม่ยอมเปิดประตู จึงคาดว่าพ่อเด็กน่าจะอยู่ในอาการมึนเมา และน่าจะหลับอยู่ ประกอบกับนายเมธีเป็นพ่อแท้ ๆ ของเด็กไม่ใช่พ่อเลี้ยง จึงคาดว่าไม่น่าจะทำร้ายลูกในสายเลือดของตัวเอง
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกาย และทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และมีความผิดตามพระราชบัญญัติความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งจากการตรวจร่างกายของผู้ต้องหาไม่พบสารเสพติด และจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลฯ ในวันพรุ่งนี้