จากกรณี นายบอยวัย 43 ปี มาร้อง กัน จอมพลัง หลังภรรยาสาวไปมีชู้ กับนายเสือลูกชายมูลนิธิกู้ภัย จับได้คาหนังคาเขา มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันภายในรถ จึงบันดาลโทสะ ทำร้ายร่างกายชายชู้ไปหลายครั้ง แต่ต่อมา ชายชู้ยกพวกมูลนิธิมาล้อมบ้าน ขู่จะแก้แค้น

ล่าสุดวันนี้หลังจากทั้งคู่เดินทางมาออก รายการช่องหนึ่ง ก่อนจะออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน โดยนางสาวแสนงาม (นามสมมติ) ภรรยา ยอมรับว่าตนเองมีส่วนผิด แต่ตนเองได้ไปขอขมาเป็นที่เรียบร้อย ยืนยันว่ายังไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายชู้ อีกทั้งบอกอีกว่าตั้งแต่ หมั้นและแต่งงาน กับสามีคนนี้ตนเองไม่เคยมีชายชู้คนอื่นนอกจากคนล่าสุดเป็นคนแรก ส่วนที่สามีกล่าวหาว่าตนเองเคยคบชู้มาแล้วหลายคน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเป็นแฟนกันยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน หรือ หมั้นและแต่งงาน ที่ผ่านมาสาบานได้เลยว่าดูแลสามีเป็นอย่างดี อยากได้อะไรตนเองก็ให้

ส่วนที่ตนเองตัดสินใจไปมีความสัมพันธ์กับชายชู้คนอื่นทั้งที่ยังไม่ได้มีการจดทะเบียนหย่า นางสาวเอ ยอมรับว่าได้เจอคุยดีด้วยมันก็เลยเกิดอารมณ์ชั่ววูบ อีกทั้งสามีเป็นคนที่ไม่มีความโรแมนติกหรือพูดหวาน เป็นคนชอบพูดแรงๆตรงๆ สวนทางกับชายชู้ที่เขาพูดดีทำดีกับเราทุกอย่าง แต่ตนเองก็ยอมรับว่า สิ่งที่ตนเองทำผิดที่หาทางออกแบบนั้น

ส่วนการทำร้ายร่างกายนางสาวเอบอกว่า ที่ผ่านมาสามีไม่เคยทำร้ายร่างกายตนเองมีเพียงครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ตนเองก็หนีออกจากบ้านไปหลายรอบแล้ว แต่สามีก็พยายามไปขอคืนดีถึงที่บ้าน ถึงประมาณสี่ครั้ง ซึ่งทุกครั้งตนเองก็ใจอ่อนเพราะที่ผ่านมา ถามว่ารักสามีไหมก็รัก จึงตัดสินใจมาอยู่กับเขา

ทั้งนี้ชายชู้คนดังกล่าวก็เพิ่งมาพูดคุยและคบหากันได้ไม่ถึงเดือนซึ่งสามีก็เพิ่งจับได้ในวันนั้น และย้ำว่าตนเองยังไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายชู้แต่อย่างใด

ส่วนวันนี้ตนเองมีความพร้อมที่จะไปจดทะเบียนหย่า และหลังจากนี้ก็ไม่คิดจะไปสานสัมพันธ์กับใครต่อแล้ว รวมถึง ชายชู้คนดังกล่าวด้วยเพราะตัดสัมพันธ์ไปตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องแล้ว จากนี้จะอยู่แค่กับลูก ยอมอยู่คนเดียวไปก่อน ซึ่งถ้าจะมีก็จะหาให้ดีกว่านี้

นอกจากนี้นางสาวเอบอกอีกว่าไม่ขอพูดอะไรดีกว่า อยากให้ดูกันเอง ซึ่งถ้าใครจะคบต่อก็เอาไปเลย จะได้รู้ว่าชีวิตของตนเองเจออะไรมาบ้าง ตนเองยอมอะไรมาบ้าง ส่วนที่บอกว่าตนเองไม่อยากเลิกนั้นไม่เป็นความจริง เพราะตนเองหนีไปหลายรอบแต่สามีก็ยังตามไปขอขมา จะมาบอกว่าหนูไม่อยากเลิกได้อย่างไร 

นางสาวแสนงาม เปิดเผยถึงไทม์ไลน์ย้ำว่า ตัวเองเริ่มคุยกับสามีในช่วงเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งขณะนั้นก็เพิ่งเริ่มคุยศึกษาดูใจกัน และสามีมาจับได้ว่าตัวเองมีมือที่สามเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน และจากนั้นเค้าก็เริ่มเข้ามาอยู่กินกับลูกสาวของเขาเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่บ้านของคุณป้า ก่อนจะมาตกลงกับคุณป้าว่าอยากจะพาตัวเองไปอยู่ที่บ้านด้วย และให้ญาติผู้ใหญ่มาขอหมั้นกับตัวเอง ในวันที่ 8 มกราคมปี 65 และได้จดทะเบียนสมรสในวันที่ 8 มกราคมปี 67 ส่วนเหตุที่ตัวเองมีชายชู้ก็พึ่งมาเกิดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ขณะที่ด้านนายเอ (นามสมมติ) สามี เปิดเผย โต้กลับ ภรรยาว่า สำหรับประเด็นที่ภรรยาพูดมาหลายประเด็นก็ยังมี ประเด็นที่ไม่ใช่ความจริงอยู่ อย่างเช่นเรื่องการดูแลหรือการจดทะเบียนสมรส เพราะระหว่างก่อนตัดสินใจไปจดทะเบียนสมรสตนเองกับภรรยาได้อยู่กินด้วยกันแล้วซึ่งระหว่างนั้นตนเองก็ทราบว่าภรรยาเริ่มมีชายชู้

ส่วนเรื่องที่ภรรยากล่าวหาว่าตนเองไม่ดูแลครอบครัวตนเองขอแก้ต่าง เพราะที่ผ่านมายืนยันว่ามีการโอนเงินให้ใช้มาโดยตลอด ส่วนที่ภรรยาบอกว่าตนเองไม่มีความรักหวานหรือโรแมนติกเลย นายบอยบอกว่าให้ทุกคนไปดูในโซเชียลของตัวเองได้เลย ย้อนไปดูตั้งแต่ปีแรกที่คบหากัน

ส่วนประเด็นที่ภรรยาบอกว่าชายชู้คนนี้เป็นคนแรก นายบอยบอกว่าไม่จริง เพราะที่ผ่านมายังแอบคุยกับชายอื่นแต่ตนเองไม่เคยจับได้ ส่วนสองคนก่อนหน้านี้ภรรยาก็แอบคุยตั้งแต่เราเป็นแฟนกันแล้ว อยู่ด้วยกันแล้ว พูดให้เข้าใจก็คือคบซ้อนรวม 3 คน ส่วนคนล่าสุดก็เป็นคนที่ 4

อีกทั้งนายบอยยืนยันว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนเองลงมือทำร้ายร่างกายภรรยา ส่วนภรรยาบอกว่าเคยขอเลิกกับตนเองหลายครั้งยืนยันว่าภรรยาไม่เคยขอเลิก มีแค่ครั้งเดียวที่ตนเองจับได้ ว่าภรรยามีคนอื่น ซึ่งตอนนั้นเค้าก็บอกว่าหนูผิดไปแล้ว ขอโอกาสกลับมาอยู่ด้วยกันซึ่งตอนนั้นตนเองก็ยอมรับและให้โอกาสกลับมาอยู่ด้วย

โดยหลังจากนี้ นายบอยยืนยันว่าก็จะเลิกขาดไปทันทีไม่มีการสานสัมพันธ์อะไรต่อแล้ว อีกทั้งจะไม่ตามไปคุกคาม และวันนั้นตนเองก็ไม่ได้ตามไปทำร้ายชายชู้อีกด้วย แต่ยอมรับทำร้ายร่างกายในตอนที่เจอเป็นครั้งแรกว่าทั้งสองคนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันภายในรถ ซึ่งหลักฐานมันก็มีความชัดเจน

อย่างไรก็ตามนายบอยบอกอีกว่าหลังจากมีการจดทะเบียนหย่ากับภรรยาแล้วตนเองจะเดินหน้าฟ้องชู้ กับบุคคลที่สาม เพราะทำให้ครอบครัวตนเองแตกแยก ส่วนภรรยาตนเองจะไม่ฟ้องอะไรหลังจากนี้ก็ต่างคนต่างอยู่ ซึ่งตนเองพร้อมที่จะชดใช้หนี้ของภรรยาทั้งหมดหลังจากที่จดทะเบียนหย่าเรียบร้อยแล้ว