จากกรณีเพจโซเชียลเพจหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์รถบรรทุก 6 ล้อ ขับรถด้วยความเร็วและไล่ปาดชนรถยนต์ของชาวบ้านที่ขับสัญจรผ่านไปมา ขนาดมีตำรวจจราจร สน.บางมด ขับไล่ตามรถบรรทุกคันนี้ก็ยังไม่หยุด รวมทั้งยังโชว์ห้าวขับพุ่งเข้าไปในโชว์รูมรถแห่งหนึ่งชนมอเตอร์ไซค์ของพลเมืองดีต้องช่วยกันขับไล่ตาม

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนนพระราม 2 เริ่มต้นจาก หน้าปั๊ม ปตท.บางมด รถยนต์ที่ก่อเหตุมีนายเกียรติชัย อายุ 31 ปี เป็นผู้ขับขี่ โดยทราบว่านายเกียรติชัยขับรถบรรทุกในช่วงเวลา 17.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาห้ามขับรถดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกเพื่อว่ากล่าวตักเตือนและเสียค่าปรับ แต่เมื่อทางนายเกียรติชัยเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกิดความกลัวจึงรีบซิ่งรถขับหนี และไล่ตามตามคลิปดังกล่าว

คาบเกี่ยวระหว่างพื้นที่ สน.บางมด จนถึง สน.ท่าข้าม ซึ่งจากในคลิปจะเห็นว่า รถบรรทุกคันดังกล่าว ขับมาตั้งแต่บริเวณหน้าบิ๊กซีท่าข้ามลากยาวไปจนถึงบริเวณปากซอย 67 ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้ขับรถสัญจรผ่านไปมา และผู้โดยสารบนรถสองแถว ซึ่งต่างหวาดกลัวอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามสกัดจับตัวนายเกียรติชัยได้ในพื้นที่ สน.เพชรเกษม โดยนายเกียรติชัยได้ขับรถไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่จุด พื้นที่ สน.บางมด สน.ท่าข้าม และหลบหนีเข้าไปในพื้นที่ สน.เพชรเกษม จนกระทั่งรถไปติดหล่ม และนายเกียรติชัยรีบวิ่งหนีเข้าไปในสวน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านตามรวบตัวได้ในที่สุด

ล่าสุดวันนี้ (18 ก.ค. 2567) ทางทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปยัง สน.ท่าข้าม พบว่าเบื้องต้นทางตำรวจ สน.ท่าข้าม สามารถสกัดจับรถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าวได้ ย่านเพชรเกษม โดยพบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวนั้นเสียหลักพุ่งชนโพงหญ้าข้างทาง มีนายเกียรติชัย เป็นผู้ขับขี่และมีผู้โดยสารอยู่ด้วยอีก 2 คน รวมทั้งรถมีทั้งหมด 3 คน โดยทั้ง 3 คนนั้นได้รับบาดเจ็บจากเหตุรถเสียหลักชนข้างทาง จึงดำเนินการนำส่งโรงพยาบาลรักษาตัว ทราบเบื้องต้นว่าคนขับรถได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก ส่วนอีก 2 คนนั้นอยู่ในระหว่างการรักษาตัวของแพทย์ ยังไม่ทราบอาการ

โดย พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ได้ประสานกับทางแพทย์ดำเนินการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์ทั้ง 3 คนแล้ว ทั้งนี้จะดำเนินคดีกับตัวคนขับรถในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และได้รับบาดเจ็บ และข้อหาขับรถชนแล้วหนี ถ้าหากตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดในร่างกายของคนขับรถ ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุรถบรรทุกขับเฉี่ยวชนรถประชาชนแล้วหนีบริเวณหน้าวัดท่าข้าม จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าสกัดจับ แต่ผู้ก่อเหตุก็ขับรถหนีตำรวจเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ระหว่างนั้นก็ได้ชนรถของประชาชนอีกกว่า 20 คันเพื่อหนีการจับกุม ก่อนที่รถบรรทุกจะไปเสียหลักตกเข้าคูหญ้าในพื้นที่ สน.เพชรเกษม ตำรวจจึงควบคุมตัวคนขับรถบรรทุกไว้ได้ ซึ่งในระหว่างการจับกุม ตัวคนขับพูดจารู้เรื่อง ไม่ได้มีอาการมึนเมาหรือกลิ่นสุรา แต่มีอาการเจ็บที่หน้าอก จึงถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพบาบาลใกล้เคียง แพทย์ลงความเห็นให้แอดมิตจึงจัดตำรวจเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาล ทำให้ยังไม่ได้มีการสอบปากคำ ซึ่งเตรียมจะเข้าสอบปากคำคนขับที่โรงพยาบาลภายในวันนี้

สำหรับความเสียหาย มีรถประชาชนได้รับความเสียหาย จำนวน 29 คัน มีผู้บาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 คน และเหตุเกิดคาบเกี่ยวหลายสถานีตำรวจ โดยเบื้องต้นเมื่อคืนนี้มีเจ้าของรถเข้าแจ้งความกับ สน.ท่าข้าม ไว้แล้ว 26 คัน แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์ 1 คัน และรถยนต์ 25 คัน ในจำนวนนี้ 2 คัน ถูกชนในพื้นที่ สน.แสมดำ

ทั้งนี้ มีรถที่รับความเสียหายจอดอยู่ที่ สน.ท่าข้าม จำนวน 2 คัน คือรถสองแถวทั้ง 2 คันและมีรถบรรทุก 6 ล้อคันก่อเหตุจอดอยู่ที่สถานีตำรวจด้วย โดยพบว่าในรถบรรทุก 6 ล้อนั้นมีขวดสุราอยู่ในรถบริเวณฝั่งที่นั่งข้างคนขับ โดยมีปริมาณน้ำสุราอยู่ก้นขวด ในขณะเดียวกันทางตำรวจอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวมีประกันภัยที่จะรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายกับผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียหายหรือไม่

ด้านนายมานะ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตนได้ยินเสียงบีบแตรดังอยู่ตลอดเวลา จากนั้นก็เห็นว่าคนขับได้วิ่งผ่านเข้ามาในโชว์รูมเห็นผ่านไปอย่างรวดเร็วจึงวิ่งตามไปดู เขาได้เฉี่ยวชนรถอีก 4-5 คัน ก่อนจะไปปีนอยู่บนฟุตบาทที่บริเวณทางออกด้านหลังของโชว์รูมรถ จากนั้นจึงได้ติดตามไปดูเห็นว่าได้ชนรถคันอื่นไปตลอดทาง ทั้งนี้รถที่อยู่ภายในโชว์รูมไม่ได้รับความเสียหายแต่มีการเฉี่ยวรถผ่านไป 2-3 คัน เท่าที่ทราบว่ามีการเฉี่ยวชนรถบนถนนเส้นที่อยู่ด้านหน้าโชว์รูมประมาณกว่า 10 คัน โดยมีการขับรถเร็วและแรง

ทั้งนี้มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจขับติดตามไปและมีรถจักรยานยนต์ขี่ตามมาอีก 3-4 คัน แต่ไม่ทราบว่าเขาหนีอะไรมาถึงชนดะไปหมด ทั้งนี้มีรถมูลนิธิได้เข้ามารับคนที่ได้รับบาดเจ็บหลายคนเพราะรถสองแถว 2 คันมีนักเรียนอยู่ แต่ไม่ทราบว่าบาดเจ็บไปกี่คน ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำ ทั้งนี้มองว่าผู้ขับขี่อาจจะเมายาเพราะขับรถในลักษณะนี้ไม่น่าจะรอด เท่าที่ทราบมีผู้นั่งอยู่ในรถคันดังกล่าว 3 คน แต่หลบหนีไปได้ 1 คน จับได้ 2 คน

ทั้งนี้ทางทีมข่าวช่อง 8 พบภาพวงจรปิดเพิ่มเติม วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 เวลา 17.38 น. พบว่ารถบรรทุกของนายเกียรติชัย ผู้ก่อเหตุ ขับผ่านหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ภายในบริเวณถนนท่าข้าม โดยขับด้วยความเร็ว และวิ่งสวนเลนส์ไปอีกฝั่ง อีกทั้งเวลาต่อมา จะเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขี่รถมอเตอร์ไซค์ไล่ตามมาติด ๆ จากนั้นเวลา 17.42 น. จะเห็นรถบรรทุกของนายเกียรติชัย ขับผ่านหน้าบริษัทแห่งหนึ่งตรงข้ามวัดท่าข้าม ก่อนเลี้ยวเข้าซอยอนามัยงามเจริญ 18 ออกถนนพระราม 2 ขาออก

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ตรวจสอบคลิปที่พยานถ่ายไว้ พบว่าตำรวจจราจรที่ไล่ตามรถบรรทุกคันก่อเหตุ เป็นตำรวจ สน.บางมด จึงได้สอบถามไปยัง สน.บางมด ทราบชื่อตำรวจในคลิป คือ ดาบตำรวจกฤตพล ตลับกลาง ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางมด โดยดาบตำรวจกฤตพล เปิดเผยกับทางทีมข่าวช่อง 8 ว่า ประมาณ 17.30 น. ขณะที่ตนเองกำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกจราจรอยู่บริเวณปั๊มน้ำมันก่อนถึงโรงพยาบาลบางมด ถนนพระราม 2 ขาออก พบรถบรรทุกเล็ก 6 ล้อขับในช่วงเวลาห้ามขับ จึงได้เรียกให้จอดแต่รถบรรทุกไม่ยอมจอดและขับหลบหนี ตนเองจึงขี่รถจักรยานยนต์ติดตาม

จากนั้นรถบรรทุกก็เริ่มขับส่ายเพื่อพยายามหลบหนี จนไปชนกับรถแท็กซี่บริเวณข้ามคลองสนามชัย พื้นที่ สน.ท่าข้าม เป็นจุดแรก ตนเองจึงประสานตำรวจ สน.ท่าข้าม ช่วยสกัดจับ แต่รถบรรทุกก็ขับเลี้ยวซ้ายหลบหนีเข้าซอยท่าข้าม ผ่านหน้าวัดท่าข้าม ก่อนวนมาออกถนนพระราม 2 ขาออก และไปชนกับรถประชาชนหลายคันที่จอดชะลอตัวบริเวณทางคู่ขนานถนนพระราม 2 ก่อนถึงพระราม 2 ซอย 69 ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นป้ายรถประจำทางตามที่ปรากฏตามคลิปที่มีการแชร์กันในโซเชียล

จากนั้นรถบรรทุกยังคงขับหนีมุ่งหน้าต่างระดับพระราม 2 และเลี้ยวขวาไปถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งรถบรรทุกคันดังกล่าวก็ขับเฉี่ยวชนรถของประชาชนมาตลอดทาง ตนเองและประชาชนหลายคนก็ช่วยกันติดตาม จนรถบรรทุกเลี้ยวเข้าซอยกาญจนาภิเษก 3 รถเกิดเสียหลักตกหล่มภายในซอย พื้นที่ สน.เพชรเกษม คนขับรถและเด็กรถที่มาด้วยอีก 2 คน ต่างวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าหญ้า แต่ประชาชนและตำรวจช่วยกันล้อมจับไว้ได้

เบื้องต้นให้ข้อมูลว่าคนขับรถไม่ตอบคำถามใด ๆ พยายามจะโบ้ยว่าเด็กรถอีกคนเป็นคนขับ แต่ตนเองเห็นหน้าคนขับรถชัดเจน และเมื่อตนเองไปคุยกับเด็กรถคนหนึ่ง ก็ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เสพยาบ้ากันมา 2 เม็ด คนขับรถก็เสพด้วย ส่วนตำรวจ สน.เพชรเกษม ได้ตรวจค้นรถบรรทุก พบมีดปลายแหลมความยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร จำนวน 3 เล่ม ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายด้วย