คดีที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนเป็นผู้ก่อเหตุซึ่งจะมีเห็นตามข่าวอยู่บ่อยครั้ง ครั้งนี้ก็เกิดขึ้นในพื้นที่เขตบางนาซอยอุดมสุข 26 แยก 4 เป็นเหตุการณ์เด็กวัยรุ่นทะเลาะกันและแทงกันจนเสียชีวิต

เหตุกเกิดที่ ซ.อุดมสุข 26 แยก 4 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุหน้าบ้านพบร่างนายกิตติศักดิ์ หรือ ไพรส์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง นอนงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนขายาวสีดำ มีบาดแผลที่หลังศีรษะจากการถูกของแข็งทุบ ใกล้กันพบก้อนหินหนักประมาณ 3 กิโลกรัม 

ถัดไปอีกประมาณ50 เมตร หน้าปากซอยหมู่บ้าน พบร่างนายนพนัย หรือ ปั้นอายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.2 นอนหงายจมกองเลือดในชุด เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงนักเรียนขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่สีข้างด้านซ้ายรวม 5 แผล เสียชีวิต

นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกรายทราบชื่อนายพายุ หรือ เป็ก อายุ16 ปี นร.ชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกัน มีบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงที่สีข้างด้านขวา 1 แผล พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลขณะนี้อาการปลอดภัย

ทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณซอยอุดมสุข 26 แยกสี่เขตบางนา พบกับนายสมชาติ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่าช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณสี่ทุ่มกว่าตนเองอยู่ในบ้านกับครอบครัวก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายคล้ายคนมีเรื่องกันจึงมองผ่านหน้าต่างก็เห็นลักษณะเป็นวัยรุ่น จากนั้นจึงคอยสังเกตจากในบ้านและพบว่าเหตุการณ์ลุกลามมากขึ้นโดยมีการต่อยกันตัวต่อตัวก่อนจากนั้นก็มีการล้มลงและใช้อาวุธมีดจ้วงแทงหลายครั้งตนจึงออกไปห้ามและบอกว่าหยุด และโทรแจ้งตำรวจตอนนั้นกลุ่มวัยรุ่นยังไม่ฟังจึงตะโกนเสียงดัง กลุ่มวัยรุ่นจึงวิ่งหนีออกไปก็พบผู้บาดเจ็บคือนายเป๊กนอนร้องขอความช่วยเหลือโดยสภาพบาดแผลถูกแทงที่ท้องหลายจุดจนไส้ไหลออกมาซึ่งแม้ล้างคราบเลือดไปแล้วก็ยังหลงเหลือคราบเลือด เลอะติดถนนอยู่ ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นที่ทะเลาะกันนั้นก็เป็นวัยรุ่นที่อยู่ในซอยและเคยรู้จักกันมาก่อน

ขณะเดียวกัน ห่างไปจากจุดที่พบพบนายเป๊กถูกแทงห่างไปประมาณ 50 เมตรก็พบร่างชายนอนหมดสติ และมีแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะตอนนั้นยังพบว่ามีชีวิตอยู่แต่ระหว่าง รอรถกู้ชีพก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนสาเหตุการก่อเหตุนั้นไม่รู้เรื่องอะไรแต่ได้ยินว่าทั้งสองฝ่ายมีปัญหากันมาก่อนและท้าทายกันไปมาจนเกิดการทะเลาะวิวาทและมีการใช้อาวุธจึงทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต

ช่วงเย็นเวลา 16:00 น. เจ้าหน้าที่นำร่างของนายนพนัย หรือ กำปั้นอายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.2 มาบำเพ็ญกุศลที่วัดบางนานอก โดยมีกลุ่มเพื่อนและครอบครัวมารอรถน้ำศพทันทีที่รถ โรงพยาบาลมาถึงเพื่อนต่างน้ำตาซึมบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ โดยกลุ่มเพื่อนของนายกำปั้นหรือปั้นต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าไม่ควรเกิดขึ้นกับเพื่อนเพราะ นายกำปั้นเป็นคนดี ไม่เคยเกเรแต่มีปัญหาเฉพาะกับกลุ่มหลอนบางนาเท่านั้น

เมื่อเจ้าหน้าที่ยกร่างนายกำปั้นลงมาเพื่อทำพิธีรดน้ำศพครอบครัวโดยเฉพาะคุณย่า ร้องไห้เสียใจ อย่างมากที่ต้องเสียหลานรักไป 

ทีมข่าวได้พูดคุยดกับนายมานพ พ่อของนายกำปั้นเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองพึ่งพาลูกกลับมาจากซื้อเสื้อที่ตลาดรถไฟแล้วลูกก็ออกไปหาเพื่อน แล้วก็ไปส่งแฟนของตี๋หรือนายกิตติศักดิ์ ที่ เกิดเหตุและเจอคู่กรณี แล้วก็ เห็นเพื่อนโดนเอาหินทุบหัวจากนั้นก็ถูกคู่อริใช้มีดแทงจนเสียเลือดจำนวนมากตอนนั้นตนเองเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุแล้วลูกก็เรียกว่าพ่อ สามครั้ง แต่ก็ไม่ทัน ได้ไปโรงพยาบาลก็มาเสียชีวิตก่อน

ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ก่อเหตุอ้างว่าที่ต้องแทงเพราะเป็นการป้องกันตัวเพราะกลุ่มลูกชายตนเองมากันหลายคนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงลูกชายตนเองไปพร้อมเพื่อนสองคนไปส่งแฟนเพื่อนและการที่อ้างว่าป้องกันตัวก็ฟังไม่ขึ้น

จากนี้ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุดซึ่งโดยส่วนตัวอยากให้มีการแก้ไขบทลงโทษเกี่ยวกับเยาวชนเพราะตอนนี้เยาวชนก่อเหตุรุนแรงมากขึ้นอยากให้เอาผิดถึงขั้นผู้ปกครองที่ดูแลเพราะ การกระทำไม่ใช่เยาวชนแล้ว

ทีมข่าวสอบถามเด็กชายปู๋ ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า มูลเหตุเรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากการที่นายเป๊กแก๊งหลอนบางนา ทักมาหา คนชื่อไพรส์ ตอนนั้นนายไพรส์อละนายปั้นกำลังจะมาส่งแฟน ชื่อนา จังหวะนั้นเจอแก๊งหลอนบางนาพอดี แล้วแก๊งหลอนบางนาก็ขี่รถไล่ชน แล้วเอาหินทุบหลังและคอและหน้าอก คนชื่อไพรส์ จังหวะที่ออกไปเรียกคนมาช่วย ไม่รู้ว่าเป็นนายปั้นโดนแทง เสียเลือดมากจนเสียชีวิต

ซึ่งเหตุผลที่นายเพชร คนก่อเหตุอ้างว่าที่แทงไปเพราะป้องกันตัวเนื่องจากกลุ่มตนเองจะทำร้าย นายปู๋บอกว่า บอกว่าฟังไม่ขึ้นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นกลุ่มตนเองไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนแก๊งหลอนบางนา เป็นคนเริ่ม ซึ่งยอมรับว่า ทั้งสองกลุ่มตีกัน แต่ไม่ควรมีอาวุธ และไม่ควรมีใครต้องตาย 

นายปู๋ยังฝากบอกถึงแก๊งหลอนบางนาที่ถูกตำรวจจับกุมขอให้ชดใช้กรรมอยู่ในคุกไม่ต้องออกมา