ตำรวจ สภ.ยี่สาร สนธิกำลังตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม ตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจทางหลวง กองปราบปราม ไล่ล่าหนุ่มอายุ 32 ปี ก่อเหตุขับปิกอัพแต่งซิ่งเติมน้ำมันแล้วซิ่งหนี ก่อเหตุมาแล้ว 3 จังหวัด พอถูกจับได้ทำทีเป็นลม ตรวจสอบพฤติกรรมพบว่าก่อเหตุหลายจังหวัด
จากกรณี รถปิกอัพแคปสีขาวยี่ห้ออีซูซุดีแมกออลนิว ด้านหน้าติดทะเบียนป้ายแดง ด้านหลังไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กระจกด้านซ้ายติดสติ๊กเอกร์เขียนคำว่า “ห้ามเข้า” สภาพแต่งซิ่งที่เข้ามาเติมน้ำมันภายในปั้มแต่ไม่จ่ายเงิน ก่อนจะเร่งเครื่องหนีจนควันดำ และ มีเด็กปั๊มเกาะท้ายรถไปก่อนจะตกลงบนถนนพระราม 2 ได้รับบาดเจ็บที่แขน 1 ราย คือนายถัด อายุ 25 ปี ถูกพาตัวไปทำแผล เหตุเกิดเมื่อเวลา 8.30 น. วันที่ 16 มิถุนายน 2567 นั้น
ล่าสุด พ.ต.ท.ปัญญาวัฒน์ ตรีทศธรรม สารวัตรสืบสวน สภ .ยี่สาร พร้อมชุดสืบสวน สภ.ยี่สาร สนธิกำลัง พ.ต.ท.นิคม นามรักษ์ สว.สส.ภ.จว.สมุทรสงคราม พร้อมชุดสืบสวน ภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม และตำรวจทางหลวง ได้ประสานข้อมูลจากตำรวจภูธรภาค 7 และ กองปราบปราม จนพบสัญญาณโทรศัพท์ของนายณัฐวุฒิ อายุ 32 ปี ชาวตำบลลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสงคราม เลขที่ มจ.76/2567 ว่าวนเวียนอยู่ในพื้นที่ จึงวางแผนกระจายกำลังติดตามค้นหา กระทั่งพบรถปิกอัพแคปสีขาวยี่ห้ออีซูซุดีแมกออลนิว จอดคลุมผ้าปิดป้ายทะเบียน กระจกด้านซ้ายติดสติ๊กเกอร์เขียนคำว่า “ห้ามเข้า” สภาพแต่งซิ่ง ซึ่งใช้ในการก่อเหตุ เมื่อเปิดผ้าออกพบว่าเปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นป้ายขาว จอดอยู่หน้าห้องเช่าแห่งนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบพบแกลลอนน้ำมัน และ น้ำมันเครื่อง ต่อมาทราบว่านายณัฐวุฒิ ได้เข้าไปซ่อนตัวในห้องเช่าที่อยู่ติดกัน เจ้าหน้าที่พยายามเกลี่ยกล่อมอยู่นาน แต่นายณัฐวุฒิ ก็ไม่ยอมมอบตัว กระทั่งนายณัฐวุฒิ ทุบกระจกห้องน้ำกระโดดลงร่องน้ำ และวิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้านทะลุเข้าป่ารก เจ้าหน้าที่ชุดสือบสวน สภ.ยี่สาร วิ่งไล่กวดติดตามจนตามจับตัวได้ในป่าละเมาะในหมู่บ้านสภาพเหนื่อยหอบทั้งตำรวจ และ นายณัฐวุฒิ ที่เนื้อตัวเปื้อนโคลน และ ทำท่าจะเป็นลม เจ้าหน้าที่จึงให้นั่งพักผ่อน ก่อนจะพาตัวมาชี้ของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งนายณัฐวุฒิ ยังคงนิ่งเงียบโดยไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จึงนำตัวไปสอบสวน สภ.ยี่สาร เบื้องต้นรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง และ ก่อเหตุลักษณะเดียวกัน มาแล้วหลายพื้นที่ทั้งใน จ.ราชบุรี จ.สมุทรสาคร และ จ.สมุทรสงคราม ประกอบด้วย วันที่ 6 มิ.ย.67 ก่อเหตุพื้นที่ สภ.บ้านแพ้ว วันที่ 9 มิ.ย. 67 ก่อเหตุพื้นที่ สภ. บางโทรัด วันที่ 9 มิ.ย. 67 ก่อเหตุพื้นที่ สภ. ปากท่อ วันที่ 13 มิ.ย.67 ก่อเหตุพื้นที่ สภ. ปากท่อ วันที่ 14 มิ.ย.67 ก่อเหตุพื้นที่ สภ. ปากท่อ วันที่ 16 มิ.ย. 2567 ก่อเหตุ สภ.ยี่สาร
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม และทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น” ส่วน สภ.บางโทรัด สภ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และ สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จะอายัดตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นางสาวถัด ชาวลาว อายุ 25 ปี เด็กปั๊มที่กระโดดเกาะท้ายรถ คนร้าย ที่มาเติมน้ำมัน เกือบ 5000 บาทแล้วซิ่งหนี เล่าเหตุการณ์ระทึกว่าขณะเกิดเหตุ คนร้ายทำทีเป็นขอ ใบเสร็จและ สแกนจ่าย ขณะที่ตนกำลัง หยิบส่งใบเสร็จให้คนร้ายก็ ขับ ออกไปอย่างรวดเร็วตอนนั้นตนจบไตรมาส เสียดายเงินก็เสียดาย ตั้ง 4000 บาท กลัวตายก็กลัวตาย ทำอะไรไม่ถูก จึงตัดสินใจ กระโดดเกาะรถ ไปถึงถนนพระราม 2 ไม่ไหวจึงปล่อยตัว ลงกระแทกพื้นทำให้ ข้อมือซ้ายซ้น แขนด้านซ้ายฟกช้ำและมีบาดแผลที่ขา
ด้าน พ.ต.ท.ปัญญาวัฒน์ ตรีทศธรรม สารวัตรสืบสวน สภ.ยี่สาร กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุจริงประสานข้อมูลกับ ตำรวจหลายพื้นที่ และ พบว่าก่อนหน้านี้ คนร้ายลักษณะเดียวกันเคยก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม แต่ เหตุการณ์นั้น คนร้ายหนีไม่ทันถูกตำรวจทางหลวงสกัดจับ จึงขอชดใช้เงินจำนวน 4000 บาทเจ้าหน้าที่ สภ. เมืองสมุทรสงคราม จึงบันทึกภาพถ่ายและประวัติไว้ หลังทราบจึงประสานข้อมูล แนะนำภาพถ่ายมาให้เด็กปั๊มตรวจสอบ จนทราบว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกัน จึงขออนุมัติออกหมายจับ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าวนเวียนอยู่ในพื้นที่ จนเป็นทำให้ติดตามตัวจับคนร้ายได้ตามคลิปข่าวดังกล่าว
ความคืบหน้าล่าสุด ขณะนี้ตำรวจควบคุมตัวคนร้ายไว้ที่ สภ.ยี่สาร ตามอำนาจ ควบคุมตัว 48 ชั่วโมง และในวันพรุ่งนี้จะขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรสงครามฝากครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม สภ.ในพื้นที่ใกล้เคียงคือ สภ.ปากท่อ สภ.บางโทรัด และ สภ.บ้านแพ้วได้มาอายัดตัวเพื่อนำต่อไปดำเนินคดีกฎหมายต่อไป