จากกรณีเกิดเหตุบั้งไฟขนาด 5 นิ้ว (บั้งไฟแสน) แตก ในงานประเพณีบุญบั้งไฟ บวงสรวงพระธาตุอุปมุง หมู่ที่ 3 ตำบล โพธิ์ศรีสว่าง อำเภอโพนทอง โดยบั้งไฟได้แตกกลางบั้งขณะทำการจุดบริเวณฐานบั้งไฟและตกลงพื้นและพุ่งเข้าใส่ประชาชน ในบริเวณงาน หน่วยกู้ชีพและหน่วยกู้ภัย ในพื้นที่ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลโพนทอง เบื้องมีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมจำนวน 37 ราย อาการสาหัส 6 ราย

ต่อมาผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาที่ฐานจุดบั้งไฟ ตั้งอยู่ในบริเวณลานวัดพระธาตุอุปมุง โดยที่ฐานจุดบั้งไฟยังพบร่องรอยของการเผาไหม้ และเศษชิ้นส่วนของบั้งไฟ ที่ทำมาจากท่อพีวีซีที่แตก ส่วนฐานที่เกิดเหตุเป็นฐานที่ 1 ยังมีหางบั้งไฟติดอยู่ที่ฐาน

ด้านนายนิพนธ์ ภักดีแก้ว รองนายก บอกว่าจริงๆ แล้ว การจัดงานครั้งนี้ มีการทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทประกันภัย รายหนึ่ง ในวงเงิน 1 ล้านบาท หลังจากนี้ ก็ต้องรอทางบริษัทประกันภัยเข้ามาช่วยเหลือตามข้อตกลง ขณะที่ทาง อบต.ก็จะได้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเข้าไปสมทบในการช่วยเหลือและดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ

ขณะเดียวกันนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับด.ช.ปัญจพล อายุ 12 ปี คนเจ็บอาการเล็กน้อย เล่าว่า ช่วงบ่ายตนเองและเพื่อนได้ชักชวนกันไปดูเขาจุดบั้งไฟ หลังจากนั้นช่วงประมาณ 4 โมงเย็นตนเองจึงได้ชวนเพื่อนไปซื้อไก่ย่างมากินเนื่องจากว่าหิวข้าว โดยร้านไก่ย่างอยู่ที่บริเวณการจัดงาน ทันทีที่ตนเองหันหลังให้กับฐานจุดบั้งไฟ เพื่อซื้อไก่ย่าง ตนได้ยินเสียงบั้งไฟแตก กว่าจะเห็นบั้งไฟพุ่งไปทางทุ่งนาซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่คนยืนดู

หลังจากนั้นตนเองก็เห็นบั้งไฟพุ่งกลับมาที่กลุ่มคนดูอย่างรวดเร็ว โดยบั้งไฟได้ พุ่งมาตามพื้นดินอย่างรวดเร็ว ก่อนที่บั้งไฟจะผ่านขาตนเองไป ซึ่งในตอนนั้นตนเองรู้สึกร้อนที่บริเวณหลังเท้าก่อนจะเห็นไฟได้ลุกไหม้รองเท้าแตะด้านขวา ตนจึงได้รีบถอดรองเท้าออก พบว่าที่บริเวณหลังเท้าด้านขวาถูกไฟลวกเป็นแผลพุพอง โชคดีบั้งไฟไม่ชนขา ไม่เช่นนั้น เชื่อว่า ขาหักแน่นอน

จากนั้นตนเองได้หันไปที่กลุ่มคนดูพบว่าควันไฟเต็มไปหมด มองไม่ค่อยเห็นคนที่อยู่บริเวณนั้น ขณะเดียวกันตนได้ยินเสียงคนร้องเอะอะโวยวายเสียงดังดัง ก่อนจะพบว่าคนเจ็บนอนอยู่กับพื้นเป็นจำนวนมาก

ส่วนอาการล่าสุดของตนเองตอนนี้ ยังรู้สึกแสบร้อนที่เท้า และต้องเดินทางไปทำแผลทุกวัน

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายพิเชษฐ์ สุระขัน อายุ 44 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังอยู่ที่ห้องไอซียู

โดยทีมข่าวได้พบกับ นายด่อน อายุ 70 ปีพ่อตานายพิเชษฐ์ เล่าว่า เมื่อวานนี้ลูกเขยได้ชวนลูกชาย อายุ 12 ปี ไปดูการจุดบั้งไฟตั้งแต่บ่าย ส่วนตนเองอยู่ที่บ้าน หลังจากนั้น ก็มีชาวบ้านมาบอกว่าบั้งไฟแตก และลูกเขยของตนเองถูกบั้งไฟแตกใส่เป็นคนสุดท้ายอาการสาหัส จากนั้นตนเองจึงได้รีบขี่รถจักรยานยนต์ไปดูลูกเขย แต่ปรากฏว่าลูกเขยถูกนำส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด

ตนจึงได้เดินทางไปดูอาการลูกเขยที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งในตอนนั้นลูกเขยก็ยังมีสติยังพูดคุยได้แต่พบว่าแขนซ้ายหักสองท่อนและตามร่างกายถูกไฟลวกผิวหนังถลอก ม้ามและตับ ไตฉีก

นายด่อน บอกว่า อาการของลูกเขยตนเองค่อนข้างสาหัสเพราะบั้งไฟมาตกอยู่ที่ลูกเขยของตนเองเป็นคนสุดท้าย โดยชาวบ้านบอกว่าบั้งไฟพุ่งมามาชนที่แขนเพราะตอนนั้นลูกเขยนั่งอยู่บนเก้าอี้ หลังจากนั้นบั้งไฟก็แตกทำให้ไฟลวกตามร่างกาย และแรงระเบิดบั้งไฟทำให้ม้าม ตับ ไต ฉีก อาการสาหัส ส่วนลูกชายที่นั่งอยู่ข้างข้างโดนสะเก็ดไฟลวกที่บริเวณขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

สำหรับลูกเขยของตนเองปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบการดูบั้งไฟ แต่วันนั้นเห็นว่าเป็นงานบวงสรวงและอยู่ใกล้หมู่บ้านจึงได้ชวนลูกชายไปดู ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นกับลูกเขย เพราะเพิ่งจะไปดูเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ตนเองยังทราบมาว่าก่อนที่บั้งไฟลูกสุดท้ายจะแตก ก่อนหน้านี้ก็มีบั้งไฟตกใส่โบสถ์มาแล้วหนึ่งลูก และตกลงใกล้กับฐานอีกหนึ่งลูกแต่ลูกนั้นไม่ได้ระเบิด ซึ่งตนเชื่อว่าที่บั้งไฟระเบิดน่าจะเกิดจากการทำพิธีบวงสรวงผิดหรือไม่ถูกต้องตามประเพณี จึงทำให้เหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น