พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือสารวัตรแจ๊ะ นำกำลังชุดสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาลเข้าจับกุมตัว นายธนภัทร หรือเน อายุ 35 ปี ชาว อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ก่อนหน้านี้ไปก่อเหตุ สวมรอยเป็นแกร๊บและวินรถจักรยานยนต์รับจ้างล่อลวง หญิงสาวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตระเวนขี่รถจักรยานยนต์ย่าน RCA หาเหยื่อนักท่องเที่ยวสาวที่เมา รอเรียกรถรับจ้างเพื่อเดินทางกลับ ก่อนล่อลวงพาไปล่วงละเมิดทางเพศ และมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อมาแล้วเป็น 10 ราย ซึ่งจับกุมตัวได้ระหว่างที่ นายเน ผู้ต้องหา มารอดักเหยื่อในย่าน RCA เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
โดยก่อนจับกุมตัวจากการสืบสวนพบว่าเหยื่อรายล่าสุดที่ นายเน ผู้ต้องหาก่อเหตุเป็นหญิงสาวชาวจีน ที่มาท่องเที่ยวในย่าน RCA เห็นผู้เสียหายอยู่ในอาการเมาสุราจนแทบไม่มีสติ จึงได้เข้าสวมรอยว่าเป็นแกร๊บที่ผู้เสียหายเรียก ก่อนจะรับผู้เสียหายซ้อนท้ายจักรยานยนต์ แล้วพาขับขี่ไปที่ม่านรูดแห่งภายในซอยรางน้ำ เมื่อไปถึงโรงแรมมีการบอกกับคนดูแลว่า “ป๋า….ชั่วคราว” ก่อนจะลงมือข่มขืนผู้เสียหายนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนผู้ต้องหาจะถ่ายคลิปเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือตัวเอง
หลังที่หญิงสาวผู้เสียหายได้สติตื่นขึ้นมาพบว่านอนเปลือยกายอยู่บนเตียงกับชายแปลกหน้า ก่อนจะรวบรวมสติสวมใส่เสื้อผ้าเดินออกมาจากห้องของโรงแรมและไปแจ้งความที่ สน. พญาไท
หลังจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ ก็ได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก็พบว่าตัวของผู้ก่อเหตุได้ลงมือข่มขืนโดยที่ไม่สวมถุงยางอนามัยป้องกัน จนกระทั่งตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดขอศาลอนุมัติหมายจับและสืบสวนพบว่าตัวของ นายเน ผู้ก่อเหตุ จะขี่รถจักรยานยนต์พีซีเอ็กซ์สีแดง ไปดักรออยู่ที่หน้าสถานบันเทิง ย่านอาร์ซีเอ ในช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งถึงตีห้า จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดักรอ และเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
หลังจากตัวของนายธนภัทร ถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ในช่วงบ่ายเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการคุมตัวนายธนภัทร ออกมาเพื่อส่งตัวให้กับ สน.พญาไท ระหว่างที่คุมตัวออกมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายธนภัทร บอกว่า ตัวเองไม่ได้ไปข่มขื่นผู้เสียหาย และวันเกิดเหตุไม่ได้ไปดักรอเหยื่อ แต่ตนเองไปเที่ยวผับ แล้วเจอกับผู้เสียหายที่หน้าผับ ก่อนจะมีการพูดคุย และสมยอมกัน ซึ่งตัวเองก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดผู้เสียหายถึงต้องไปแจ้งความกับตำรวจด้วย
ส่วนที่ผ่านมาที่ตนเองมักจะไปอยู่ด้านหน้าสถานบันเทิง ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการไปดักรอเหยื่อ แต่เป็นเพราะตนเองทำงานขับรถให้กับนักธุรกิจชาวจีน ที่มักจะไปย่าน RCA เป็นประจำ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ตนเองเพิ่งทำเป็นครั้งแรก ส่วนเรื่องที่ถ่ายคลิปเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือ นายธรภัทร ไม่ได้ตอบคำถามนี้
วงจรปิดจับภาพ เวลา 05:56 น. ของวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา จะเห็นว่านายเน พาผู้เสียหาที่เมาจนไม่ได้สติถึงขั้นต้องนั่งพิงหลังซ้อนท้าย แล้วพาเข้าไปในม่านรูดทันที จากนั้นพนักงานก็ได้เข้าไปให้บริการ ซึ่งนายธนภัทร ก็บอกกับพนักงานว่า “ป๋า…ชั่วคราว”
ต่อมา วงจรปิดจับภาพในเวลา 07:52 น. แต่เห็นหญิงสาวชาวจีนผู้เสียหายในชุดสีดำเดินออกมาจากห้องพักของโรงแรมในสภาพโซซัดโซเซ พร้อมกับโทรศัพท์หลังจากนั้น นายเน ผู้ต้องหา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาแต่ผู้เสียหายไม่ยอมขึ้น และเดินหนีก่อนที่ ผู้ต้องต้องหาจะขับรถขี่จักรยานยนต์ออกไปปล่อยให้ผู้เสียหายเดินออก จากโรงแรมไปคนเดียว
พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้อง ต้องบอกเลยว่าผู้ต้องหาปากแข็งมาก ไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าทุกอย่างเป็นการสมยอม แต่ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะพฤติกรรมทุกอย่างดูสวนทางไปหมด เนื่องจากการสืบสวนทราบว่าตัวของผู้ก่อเหตุจะมีพฤติกรรมไปดักรอเหยื่อหน้าสถานบันเทิง โดยเฉพาะพื้นที่ RCA
จากนั้นจะมีวิธีการเฝ้าเหยื่อ และเลือกเหยื่อผู้หญิงทั้งชาวไทย และต่างชาติ เพราะผู้ก่อเหตุสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ก่อนจะสวมรอยเป็นวินมอเตอร์ไซต์ ด้วยการสวมเสื้อวินฯผี แล้วรับผู้เสียหายไปข่มขืน ก่อนจะถ่ายคลิปเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าตอนนี้มีไม่ต่ำกว่า 3 ราย แต่มีผู้เสียหายเพียงแค่หนึ่งรายที่แจ้งความเอาผิด ซึ่งตอนนี้ทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการขยายผลหาผู้เสียหายเพิ่มเติม ซึ่งต้องบอกว่าคดีนี้ผู้ก่อเหตุถือว่าเป็นภัยสังคม