เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 1 มิ.ย.67 ร.ต.อ.สมชาย ไร่ห้วย รองสารวัตรสอบสวน ทำหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.หนองม่วงไข่ อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพคนตายปริศนาที่บริเวณชลประทานฝั่งขวา เขตรอยต่อ ต.ทุ่งแค้ว อ.หนองม่วงไข่ ติดกับเขตบ้านต้นหนุน ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่ ขอให้ตรวจสอบด้วย จึงรีบนำชุดสืบสวน สภ.หนองม่วงไข่ พร้อมหน่วยกู้ภัยพรานพิทักษ์จุดหนองม่วงไข่ ออกตรวจสอบเหตุตามที่ได้รับแจ้ง

 

ที่เกิดเหตุพบพบผู้เสียชีวิตสภาพขึ้นอืดมีถุงกระสอบป่าน คลุมร่างตั้งแต่ศีรษะมาถึงกลางลำตัว คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4 วัน ซุกพงหญ้าข้างทาง จึงให้กู้ภัยนำร่างออกมาพบว่าผู้ตาย สวมเสื้อสีดำ กางเกง 3 ส่วน สีน้ำเงิน ต่อมาทราบชื่อภายหลังคือ นายโชคชนะ หรือ ดุล อายุ 58 ปี บ้านย่านยาว ม.3 ต.น้ำรัด อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ซึ่งเป็นบุคคลที่ญาติแจ้งหายเมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 ที่ผ่านมา

 

จากการสอบถามผู้พบศพเป็นชาวบ้านที่มีสวนสักอยู่ใกล้ๆ ทราบว่า วันนี้ตัดหญ้าสวน เอาสุนัขมาด้วย เมื่อมาถึงได้กลิ่นเหม็นเน่า และสุนัขก็วิ่งมาเห่าเสียงดัง จึงออกมาตามกลิ่น ก็พบว่า มีศพคนตายซุกอยู่ในป่าข้างถนน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว จึงนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจอย่างละเอียด ที่ รพ.แพร่ เนื่องจากสภาพศพ เบื้องต้นพบว่าถูกทุบด้วยของแข็ง และถูกนำร่างมาทิ้งข้างทาง เพื่ออำพรางคดี เพราะที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้

 

วันนี้ ช่วงเวลาประมาณ 13:30 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปที่บ้านพักผู้เสียชีวิตอีกครั้งเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติมโดยมีการเก็บคราบดินบริเวณโรงจอดรถซึ่งอยู่ข้างบ้านพัก เพื่อนำไปตรวจสอบกับดินที่เจอขณะอยู่ที่ศพ รวมทั้งจะมีการตรวจร่องรอยดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิตที่ปรากฏบนรถกระบะสีบรอนซ์ทองที่เก็บไปตรวจสอบด้วยเช่นกัน แต่ในส่วนประเด็นสังหารยังไม่ตัดประเด็นได้ทิ้ง โดยยังคงพุ่งเป้าที่หลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นปมชู้สาว ปมขัดแย้งคนในครอบครัว และปมขัดแย้งกับคนใกล้ชิด

 

เนื่องจากมีพิรุธในช่วงเกิดเหตุ โดยยังไม่มีพยานแวดล้อมที่ยืนยันได้ว่าผู้เสียชีวิตออกจากบ้านพักก่อนที่จะหายตัวไปในช่วงเวลากี่โมงและมีคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่บริเวณบ้านพักผู้เสียชีวิตหรือไม่ แต่ปรากฏว่าในช่วงก่อนผู้เสียชีวิตจะหายตัวออกจากบ้านพัก เพื่อนบ้านไม่ปรากฏเสียงหมาเห่า ดังนั้นจึงเป็นข้อสันนิษฐานว่าฆาตกรน่าจะเป็นคนที่รู้จักกับผู้เสียชีวิตจึงสามารถเข้าออกบ้านได้ เนื่องจากสุนัขที่ผู้เสียชีวิตเลี้ยงไว้มีหลายตัวและมีนิสัยค่อนข้างดุมาก

 

ทางด้านนายฉัตรมงคล หรือ น้องพี อายุ 17 ปี หลานนายโชคชนะ ผู้ตาย ที่นำมาเลี้ยงดู เล่าว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมานั้นตนได้ยินเสียงลุงออกจากบ้านตั้งแต่ 6 โมงเช้า ตนออกจากบ้านไปก็ไม่พบ และตนกลับเข้าบ้านมาตอนเย็นประมาณ 4 โมงก็ไม่พบ ตนจึงลองตามหารอบๆ บ้านก็ไม่พบ โทรหาไม่มีคนรับสาย โทรหาภรรยาของลุงก็ไม่รู้ แม่ตนก็ไม่มีใครพบ ไปหาที่งานศพก็ไม่เจอ จากการสอบถามชาวบ้านเห็นว่ามาช่วยกางเต็นท์ที่งานศพ หลังจากนั้นก็ไม่มีคนเห็น ตนอยู่บ้านกับลุงสองคน สำหรับลุงมีปัญหากับใครไหม ตนคิดว่าไม่มีเพราะเวลาแกมีปัญหาแกมักจะมาเล่าให้ฟัง ในส่วนของลูกชายนั้นไม่ค่อยมาหาเค้าอยู่แล้ว เคยมีเมื่อนานมาแล้วที่มาของเงินประมาณ 2 ปี หลังจากนั้นเค้าก็ไม่มาที่บ้านอีก เจอกันบ้างตามร้านค้าแถวบ้าน ตอนตนกลับมาที่บ้านทุกอย่างปกติหมด มีเพียงรถจักรยานยนต์ที่ล้มอยู่ใกล้ป่ากล้วยใกล้บ้าน ในส่วนรถยนต์นั้นคนขับคือตนและลุง กุญแจจะเสียบไว้ที่รถตลอด ตนขับครั้งสุดท้ายคือวันที่ 26 ส่วนกระสอบที่พบในที่เกิดเหตุนั้นไม่ใช่กระสอบในบ้าน กระสอบในบ้านแบบนั้นมีแค่ 1 อันที่อยู่ในกรงสุนัข ซึ่งมันก็ยังอยู่เหมือนเดิม กระสอบในบ้านส่วนใหญ่เป็นกระสอบฟางกระสอบอาหารสัตว์ อีกส่วนหนึ่งที่ตนสงสัยคือคนที่ติดยาเสพติดแถวนั้น คนไปเสพยาจะผ่านตลอดกลัวว่าเขาไปเห็นอะไรเข้าหรือเปล่า แล้วเขามาตาม

 

ด้านนางประนอม อายุ 58 ปี เป็นภรรยาของผู้เสียชีวิตบอกว่า ตนเองทราบจากหลานชายอายุ 17 ปีที่ทางครอบครัวเลี้ยงหลานชายให้มีสถานะเป็นลูกเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กเล็ก ปกติแล้วตนจะไปทำงานที่ต่างจังหวัด นานๆครั้งถึงจะได้กลับมาที่บ้าน ทำให้สามีของตนอยู่กับหลานชายเพียงสองคนในบ้านพักหลังนี้เท่านั้น ซึ่งหลานชายจะมีห้องนอนอยู่ด้านล่างสามีมีห้องนอนอยู่ชั้นสอง วันที่สามีหายตัวไปคือวันที่ 27 พฤษภาคม ช่วงเช้าหลานชายกำลังเตรียมไปโรงเรียนแล้วก็เจอกับสามีตนที่กำลังเตรียมไปงานศพของคนในหมู่บ้าน สามีบอกหลานชายเพียงว่ามีคนจ้างทำเฮือนน้อยในงานศพจึงจะรีบไปงานศพแล้วออกจากบ้านพักไปโดยขี่รถจักรยานยนต์ไป จากนั้นหลานชายก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปโรงเรียนเช่นเดียวกัน

 

ต่อมานางประนอมได้พาทีมข่าวดูจุดที่รถจักรยานยนต์ของสามีล้มลงหน้าบ้านพัก ซึ่งจุดที่ล้มอยู่บริเวณสวนที่ปลูกต้นกล้วยห่างจากประตูรั้วบ้านประมาณ 7 เมตรเท่านั้น โดยบอกว่า ภายหลังที่หลานชายกลับมาจากเรียนหนังสือในช่วงเวลา 16.00 น. ของวันที่ 27 พฤษภาคม ปรากฏว่า หลานชายกลับมาที่บ้านพักเห็นบริเวณประตูรั้วผิดปกติคือประตูรั้วเปิดแง้มไว้ แต่อยู่ในลักษณะเชือกยังผูกอยู่ ก็ตกใจเพราะปกติสามีของตนจะปิดประตูรั้วสนิทเพื่อกันสุนัขที่เลี้ยงไว้ซึ่งมีนิสัยดุออกจากบ้านแล้วไปกัดคนอื่น พอเข้าไปในบ้านพักก็ไม่พบสามีของตน จึงไปบอกญาติซึ่งอยู่บ้านในละแวกเดียวกัน ญาติก็บอกว่าสามีตนเองคงไปกินเหล้าเดี๋ยวก็กลับมา

 

จนกระทั่งช่วงเย็นมาเห็นรถจักรยานยนต์ของสามีตนเองล้มลงหน้าบ้านพัก ก็เลยไปแจ้งผู้นำชุมชนและชาวบ้านช่วยกันออกตามหาเพราะถือเป็นเหตุการณ์ผิดปกติ หลังเกิดเหตุทางตำรวจยังไม่ได้เก็บรถจักรยานยนต์สีแดงของสามีที่ล้มลงหน้าบ้านไปตรวจสอบแต่ด้วยกั้นเชือกไว้ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปจับทำไม่ได้รับอนุญาต

 

ยืนยันว่าสามีไม่เคยเล่าเรื่องปัญหาให้ตนฟัง โดยเจ้าตัวทำงานเลี้ยงวัวสามตัวอยู่ที่บ้าน กับทำโรงงานเกี่ยวกับเฮือนน้อย ซึ่งเฮือนน้อยเป็นการปฏิบัติตามธรรมเนียมของภาคเหนือในพิธีจัดงานศพที่เอาไว้ส่งดวงวิญญาณแก่ผู้ล่วงลับ ยืนยันว่าสามีไม่เคยมีความขัดแย้งเรื่องธุรกิจส่วนตัวหรือแม้กระทั่งขัดแย้งเรื่องส่วนตัวของคนอื่นส่วนเรื่องชู้สาวก็ไม่มีเพราะเลิกรากับเมียเก่าไปนานแล้ว ก่อนที่จะมาอยู่กินกับตนได้ประมาณ 20 กว่าปี ซึ่งสามีตนกับเมียเก่าก็ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งหรือ โดยเฉพาะลูกชายแท้ๆที่เกิดจาก สามีตนกับเมียเก่าที่อายุประมาณ 30 กว่าปีก็ไม่ค่อยมาที่บ้านหลังนี้ ตกใจมากที่สามีเสียชีวิตโดยถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม เพราะแต่ละวันสามีก็จะขลุกอยู่ที่บ้านเลี้ยงวัวบางครั้งมีธุระถึงจะออกไปที่อื่น

 

ทางด้านนายตูมตาม ลูกชายผู้ตาย ได้เดินทางเข้ามาที่ สภ.หนองม่วงไข่พร้อมภรรยา ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา เพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ พร้อมเปิดเผยว่า วอนขอให้เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมเพราะตัวเองตกเป็นผู้ต้องสงสัย ลูกจะฆ่าพ่อได้ยังไง ไม่เจอกับพ่อมานานแล้วประมาณครึ่งปีได้ เพราะพ่อแม่แยกทางกัน ตนไปทำงานโรงงานไม้กับแม่ไม่เจอพ่อเลย ไม่ได้ติดต่อกันเลย ทราบว่าพ่อหายไปเพราะมีคนแจ้งไป ไม่ได้มาหากันจนมาทราบเรื่อง วันที่ได้รับแจ้งว่าพ่อหายไปตนเองทำงานอยู่ในโรงงานไม้กับแม่

 

ด้านนายชูรัตน์ อายุ 59 ปี กำนัน ต.น้ำรัด บอกว่า ในวันที่ 27 พฤษภาคม ก่อนที่นายโชคชนะจะหายตัวไป ทราบเพียงว่าตอนเช้าเจ้าตัวไปช่วยงานศพที่บ้านญาติ จากนั้นวันเดียวกันในช่วงบ่าย เห็นรถที่นายโชคชนะชอบขับคือรถกระบะสีบรอนซ์ทอง ขับผ่านหน้าบ้านพักตนสองรอบ และมีเหตุการณ์ผิดปกติที่สังเกตได้ คือปกตินายโชคชนะขับรถกระบะผ่านหน้าบ้านพักตนจะมีการลดกระจกลงแล้วบีบแตรก่อนพยักหน้าทักทายตนทุกครั้ง แต่ในครั้งนี้ก่อนที่เจ้าตัวจะหายตัวไปขับรถผ่านหน้าบ้านตนแล้วไม่มีการลดกระจกรวมถึงบีบแตรเพื่อทักตน

 

ขณะนั้นรถกระบะของนายโชคชนะติดฟิล์มทึบ จึงไม่สามารถมองเห็นในรถได้ว่าใครนั่งมาบ้าง รวมทั้งนายโชคชนะเป็นคนขับหรือไม่ ในส่วนประเด็นที่ทีมข่าวถามตนว่าตนเห็นเลือดหยดที่พื้นถนนหลังจากรถกระบะของนายโชคชนะผ่านบ้านพักตนหรือไม่ ยืนยันว่าไม่มีรอยเลือดหยดอยู่ที่พื้นถนน และไม่ได้สนใจว่ารถนายโชคชนะขับไปทางใด แล้วได้ขับที่บ้านเจ้าตัวหรือไม่ ก็ตกใจตอนที่ทราบจากหลานชายนายโชคชนะว่าเจ้าตัวหายไปจากบ้านพักช่วงเย็นวันที่ 27 พฤษภาคม

 

หากพูดถึงนิสัยส่วนตัวของนายโชคชนะ เป็นคนที่ชอบพูดจาไม่จริงจังลักษณะพูดเล่นๆบ่อยครั้ง แต่เป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลืองานชุมชนและงานบ้าน ไม่มีศัตรูที่ไหน ในส่วนประเด็นลูกชายแท้ๆของเจ้าตัว ที่เป็นลูกของนายโชคชนะและเมียเก่า มีพฤติกรรมติดยาเสพติดแล้วแต่ก่อนก็ชอบขอเงินพ่อ แต่ระยะหลังลูกชายไม่ได้มาขอเงินนายโชคชนะนานแล้ว

 

ในส่วนเรื่องพฤติกรรมความเจ้าชู้ของนายโชคชนะก็พอมีบ้าง ชอบส่งรูปผู้หญิงมาให้ตนดูในไลน์ แต่ตนคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจ้าตัวถูกฆาตกรรม ซึ่งนายโชคชนะก็ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับเมียคนปัจจุบันและเมียเก่าก่อนหน้านี้

ไขปมมรณะ สังหารโหดทุบหัวยัดกระสอบ ขนศพทิ้งป่าอำพราง