กรณีญาติคาใจ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ “เสี่ยต้น” นักธุรกิจ ซึ่งเดินทางไปที่บ้านต่างจังหวัดในจังหวัดมหาสารคาม ก่อนที่จะเสียชีวิตปริศนาอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน จากนั้นพบว่าศพได้มีการเผาไปแล้ว แต่ญาติยังคงนำกระดูกและรูปตั้งหน้าศพมาร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากยังคงสงสัยเกี่ยวกับการตาย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

 

ทีมข่าวยังลงพื้นที่ย้อนไปยังจุด ที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพวินาทีรัวยิง 5 นัด ที่กลุ่มมือปืนขับรถมอเตอร์ไซค์สีขาวซ้อน2 โดยมีมือยิงใส่เสื้อสีดำนั่งซ้อนท้าย ประกบรถของเสี่ยต้น ก่อนที่จะมีการก่อเหตุยิง จังหวะที่รถเสียต้นกำลังมุ่งหน้าขึ้นทางด่วน กลับไปยังบ้านย่านพัฒนาการ

 

ซึ่งจุดยิงนั้นเป็นทางเบี่ยงระหว่างขึ้นทางด่วน กลับวิ่งเรียบถนนเลียบด่วน ฝั่งมุ่งหน้า พระราม 9 และจุดดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าและบริษัทเอกชน ซึ่งไม่มีบ้านเรือนประชาชนตั้งอยู่ , โดยทีมข่าวพยามตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่กรุงเทพ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเก็บกวาดทำความสะอาดถนน โดยให้ข้อมูลกับทีมทีมข่าวระบุว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย. ช่วงที่มีการเข้ามากวาดพื้นถนน ไม่พบความผิดปกติและไม่พบปลอกกระสุนปืน จึงเข้าใจว่าชนิดปืนที่มีการก่อเหตุนั้นเป็นปืนลูกโม่หรือไม่ เพราะเนื่องจากไม่มีการขัดปลอกตกอยู่บนถนนช่วงจุดที่ภาพจากกล้องวงจรปิดภาพ

 

จากนั้น มีภาพกล้องวงจรปิดจับภาพในคืนวันที่ 8 เม.ย. เวลา 23.34 น. จับภาพรถตู้สีดำของเสี่ยต้นขับชิดขวาเพื่อขึ้นทางด่วน และจะเห็นรถมอเตอร์ไซค์ขับประกบฝั่งซ้ายของรถลักษณะตีคู่ ก่อนที่กล้องวงจรปิดจะได้ยินเสียงปืนรัว5นัด ซึ่งนัดแรกจะเป็นการยิงติดกัน จากนั้นรถของเสี่ยต้นจะชิดขวาขึ้นทาง และรถมอเตอร์ไซค์ที่เกิดเหตุยิงชิดซ้ายเพื่อวิ่งออกถนนเรียบทางด่วน เพราะจากมอเตอร์ไซค์ไม่สามารถขึ้นทางด่วนได้ จึงมีภาพเคลื่อนไหว จากกล้องวงจรปิดจับภาพและเสียงเอาไว้

 

และก่อนที่กลุ่มก่อเหตุจะ มาดักรอยิงรถเสี่ยต้น แถวถนนเลียบด่วน มีภาพจากกล้องวงจรปิดปรากฏว่าเดินทางไปที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการไปเติมน้ำมันเตรียมการก่อนที่จะมาก่อเหตุดักยิง โดยมีภาพนิ่งจับภาพ มือปืน ใส่เสื้อสีดำ และคนขับ ใส่เสื้อไรเดอร์สีส้ม เอาไว้ได้ มาพร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์สีขาวดำ

 

วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวช่องแปดจึงได้เดินทางไปที่ปั๊มน้ำมัน ย่านนวมินทร์ ลักษณะเซลฟ์เซอร์วิส เป็นการบริการเติมน้ำมันด้วยตัวเอง ซึ่งจากโลเคชั่นและลักษณะภายในปั๊มตรงตามภาพที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด โดยกลุ่มมือปืนได้ไปเติมที่ตู้น้ำมันหมายเลข 7 ติดกับตู้ที่มีพนักงานเก็บเงินนั่งอยู่ โดยลักษณะของการใช้บริการของปั๊มน้ำมันประเภท เซลฟ์เซอร์วิส จะมีการนำเงินไปจ่ายให้กับพนักงาน พร้อมกับบอกจำนวนเงินที่เติมและประเภทน้ำมัน จากนั้นก็จะไปเติมน้ำมันเอง ที่ตู้นั้นๆ

 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายเขียว (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่เก็บเงินที่ปั๊มน้ำมัน เผยว่า จากลักษณะของลูกค้าซึ่งระบุว่าเป็นชายใส่เสื้อไรเดอร์สีส้มและชายใส่เสื้อสีดำ มีการขับรถมอเตอร์ไซค์สีขาวเข้ามาจอดเพื่อเติมน้ำมันนั้น ยอมรับว่าพนักงานไม่ได้มีการสังเกตว่าใครเป็นใคร เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าจะมาจ่ายชำระเงินและบอกชนิดน้ำมันเพียง เท่านั้น และจะเติมน้ำมันเซอร์วิสด้วยตัวเอง โดยพนักงานจึงไม่ได้สังเกตว่าใครเป็นใคร

 

แต่หลังจากที่ทราบว่าเกิดเหตุช่วงประมาณวันที่ 8 เมษายน พบว่ามีชุดสืบสวนได้มีการแกะรอยตามมือปืน ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนเดือนที่แล้ว ซึ่งก็เข้าใจว่าชุดสืบสวนทราบเบาะแสตั้งแต่เดือนที่แล้ว จนกระทั่งเริ่มปรากฏเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง เมื่อวานนี้ก็มีตำรวจอีกชุดเดินทางเข้ามาตรวจสอบที่ปั๊ม แต่เป็นเพียงแค่การยืนยันสถานที่ ไม่สามารถดูกล้องย้อนหลังได้เพราะเนื่องจากกล้องบันทึกได้เพียง 1 เดือน จึงทำให้ตำรวจชุดที่ย้อนกลับมาเมื่อวานไม่ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด

 

และจากรูปพรรณสัณฐานของบุคคลที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด ตนเองก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นใคร เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ในละแวกแถวนี้มีทั้งคนที่อยู่ประจำ และหมุนเวียนเข้ามาเช่าที่อยู่อาศัย เนื่องจากเป็นย่านที่ทำงานและที่พักส่วนใหญ่ จึงทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้

 

และระหว่างลงพื้นที่ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นางสาวดาววดี (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่ทำความสะอาด สังกัด กทม. ประจำอยู่เขตพื้นที่ ใต้ทางด่วนและเลียบทางด่วนพิเศษ ใกล้ที่เกิดเหตุ ที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับวินาทียิงเอาไว้ได้

 

ด้านนางสาวดาววดี เผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองไม่เคยทราบว่ามีเหตุยิงกันก่อนหน้านี้ทางขึ้นทางด่วน ตรงข้ามกับร้านโรงเหล้าแสงจันทร์ ซึ่งตนเองก็มาทราบหลังจากที่เป็นข่าวแล้วว่ามีเหตุการณ์ยิงกัน และในช่วง 8-10 เมษายน ตนเองไม่ได้รับรายงานจากคู่กะเวรเช้า ว่ามีการพบบอกกระสุนปืนหรือสิ่งผิดปกติหลังยิงกันหรือไม่ เพราะเนื่องจากเป็นคนละคู่กะกัน

 

แต่ตนเองมีกันกวาดใบไม้ริมถนน และทางเท้า ซึ่งอยู่ตรงจุดที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดปรากฏว่ามีการยิงกัน โดยตนเองกวาดปลอกกระสุนปืนเก็บได้ 1 ปลอก ลักษณะสีเงิน ซึ่งตอนแรกตนเองก็ไม่ได้เอะใจ เพราะตนเองก็ไม่รู้ว่าปลอกลักษณะดังกล่าวเป็นเป็นอะไร จนกระทั่งมาดูข่าวจึงรู้ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องเหตุยิงกัน และปลอกกระสุนดังกล่าวตนเองก็ได้มีการเทรวมกับใบไม้ลงไปในถุง เมื่อประมาณ 2 วันก่อน ซึ่งปัจจุบันรถเก็บขยะได้มีการเก็บถุงดำดังกล่าวเอาไปทิ้งแล้ว แต่ทั้งนี้ตนเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเองเจอนั้นจะเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ เพราะมันอยู่ในช่วงคาบเกี่ยว และใกล้จุดยิงกันมากที่สุด

เปิดภาพ 2 มือปืน ดักซุ่มรอเสี่ยต้น ประกบยิง 5 นัด ช่อง 8 พบปลอกกระสุน