เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 20 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายสนั่น อายุ 61 ปี ว่าตนเองได้อยู่กินเป็นสามี ภรรยากับ นางนันทวัน อายุ 53 ปี มากว่า 3 ปี โดยได้จดทะเบียนสมรส มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน โดยได้ประกอบอาชีพ เก็บของเก่าขายมาตลอด โดยตนเองและภรรยา เป็นคนทีชอบเลี้ยงสัตว์ เช่นหมา กว่า 20 ตัว แมว 10 ตัว อยู่ในบ้าน มานานหลายปี
โดยทางพระอธิการระไวย์ มหาวิริโย เจ้าอาวาสวัดหนองกระทุ่ม หมู่ 10 ต.เขากวางทอง ซึ่งทราบข่าวว่าที่บ้านตนเองเลี้ยง หมา แมว จำนวนมาก ช่วงเย็นก็ให้ตนเองไปเก็บข้าว ที่เหลือจากพระฉันเพลแล้ว มาให้หมา กับแมว มานานหลายปี โดยในช่วงเย็นเวลาประมาณ 18.30น. ทางนางนันทวัน ภรรยา ของตนเองจะไปเก็บกับข้าว ที่เหลือ โดยจะล้างถ้วยชามไว้เก็บอย่างเก่า จนมาช่วงหลังตนเองนั้นได้ผิดสังเกต กับภรรยา ว่าทำไม่ช่วงหลัง ๆ นั้นกลับบ้าน 2 ทุ่ม จนมืดค่ำ ซึ่งระยะทางจากวัดก็ประมาณ 2 กิโลเมตร และใช้ จยย.ก็ไม่จะนานแบบนี้
จนตนเองสงสัย และระแคะระคายมาบ้าง ในระหว่างทีนอนกัน ได้มีโทรศัพท์ของภรรยาดังขึ้นมา ตนเองเห็นเบอร์ขึ้นชื่อว่าพระทองคำ จึงขอดูโทรศัพท์ แต่ภรรยา นั้นไม่ยอมให้ดู จึงเถียงกัน หลังจากนั้นจึงแย้งกัน ทำให้ภรรยาตนเองโมโห และได้กัดที่ไหล่ตนเอง ซึ่งช่วงหลังมาพฤติกรรมของนางนันทวัน ภรรยาเปลี่ยนไปมาก
หลังจากนั้นตนเองก็นอนกอดภรรยาว่า ก่อนที่จะหนีตนเองในคืนนั้น ตนเองก็บอกภรรยา ว่า ตนเองนั้นรักเธอมากนะ และรักมากด้วย และเธอรักอาจารย์ทองคำรึเปล่า ภรรยาก็ตอบว่าไม่ได้รักเขา เขามีเมียแล้ว
พอมาวันที่ 9 พ.ค.67 ช่วง 6 โมงเช้า นางนันทวัน ภรรยาได้ขับ จยย.แบบพ่วงข้าง ออกจากบ้านไป ตนเองก็ไม่ทราบว่าไปไหน แล้วก็ไม่กลับมาเลย ตนเองก็ไปถามหลาน ทราบว่าเอามะขามไปทิ้งไว้ที่บ้านลูกเขยที่ตลาดทุ่งนา แล้วก็จอด จยย.ไว้ที่นั่นเลย หลังจากนั้นตนเองก็ออกตามก็ไม่เจอ
หลังจากนั้นตนเองจึงเดินทางไปที่วัดหนองกระทุ่ม เพื่อสอบถามเจ้าอาวาส จนทราบมาว่า พระทองคำ นั้นได้ถูกเจ้าอาวาสไล่ออกจากวัดไปแล้ว ตั้งวันที 9 พ.ค.67 ช่วงเช้า โดยได้หายไปพร้อมกับภรรยาตนเอง
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดหนองกระทุ่ม เพื่อขอพบกับอธิการระไวย์ มหาวิริโย เจ้าอาวาสวัดหนองกระทุ่ม สอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยได้เปิดเผย พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวไปยังสถานที่ ที่ทั้ง 2 ยืน พิงกำแพงปูน อาตมา ได้รับพระทองคำ อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 26 หมู่ 18 ต. เข้าวัดตั้งแต่ปี 2563 โดยก่อหน้านั้นเมือ 5 ปีที่แล้ว อาตมาเป็นคนให้นายสนั่น มาเก็บกับข้าว และล้างถ้วยชาม ประมาณ 10 ใบ ทีใสกับข้าวไว้ ที่วัดในช่วงเย็น นำไปเลี้ยงหมาแมว ที่บ้านเอง และก่อนหน้านั้นอาตมาเป็นคนดูมาดูตลอด หลังจากนั้นอาตมา เห็นว่าพระทองคำ มีกุฏิอยู่ใกล้ ๆ และลงมาดูทุกครั้งที่นางนันทวัน มาเก็บข้าว อาตมาจึงปล่อย
หลังจากนั้นตนเองพอทราบข่าวระแคะระคายมาบ้างเกี่ยวกับพระทองคำ กับนางนันทวัน ในวันที 8 พ.ค.67 ช่วงเย็นโพล้เพล้ จึงพยายามแอบดู แต่ทั้ง 2 จะไว้ตัวทันมาตลอด แต่ครั้งนี้ เวลาประมาณ ใกล้จะ 1ทุ่ม เริ่มจะมืด อาตมาแอบซุ่มโป่ง ย่องไปด้านหลังโรงครัว และ ในระหว่างนั้น ซึ่งภายในเป็นครัวมีกำแพงปูนขวางอยู่ ซึ่งเป็นสถานที่บังตาอย่างดี ในระหว่างนั้น ตนเองเห็นนางนันทวัน ยืนพิงกำแพงปูน โดยมีพระทองคำยืนอยู่ตรงหน้า ดูแล้วใกล้ชิดกันจนเกินไป อาตมาก็สงเสียงตวาดไป ว่าทำอะไรกัน ทำให้ทั้ง 2 ตกใจ รีบผละออกจากกัน
หลังจากนั้นอาตมาก็ว่าพระทองคำ ว่ามาทำอะไรแบบนี้ แต่พระทองคำนั้นไม่เถียง แต่นางนันทวัน อ้างว่าฉันไม่มีอะไรกัน โดยให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าคุยกันเรื่องสตางค์ ทำไม่มาคุยอะไรกันในนี้ ทำไม่คุยกันข้างนอก หลังจากนั้นตนเองให้ทั้งไปสาบานกับพระว่ามีอะไรกันรึเปล่า แต่ทั้ง 2 ไม่ยอมไป ตนเองจึงให้พระทองคำ ออกจากวัดหนองกระทุ่มไป เพื่อไม่ให้วัดเสื่อมเสีย ในวันที่ 9 พ.ค.67 ช่วงเช้า โดยได้หายไปพร้อมกับนางนันทวัน ซึ่งอาตมาโทรไปถามน้องสาวของพระทองคำทราบว่าทั้ง 2 ไปอยู่ด้วยกันแล้ว แต่ไม่ทราบว่าที่ไหน
ด้านนายสนั่น เปิดเผย ต่อว่า ตนเองอยากให้ภรรยากลับมาเคลียหนีสินกว่า 5 แสนบาท ที่เป็นหนีร่วมกันมา พร้อมกับพระทองคำด้วย และในส่วนเรื่องหมา แมว กว่า 30 ชีวิต ที่เลี่ยงไว้ ใคร่อยากจะรับไปเลี้ยง ให้ติดต่อมา ตนยินดีให้นำไปเลี้ยง ซึ่งทุกวันนี้ลูกสาวตนเองต้องต้มข้าวให้หมาแมว วันละ 1 หม้อ ซึ่งตนเองนั้นพยายามโทรติดต่อกับนางนันทวัน ภรรยา แต่โทรไปติดแต่ถูกตัดสายทิ้งตลอด