เมื่อเวลา 07.35 น. วันที่ 10 พ.ค. 2567 พนักงานสอบสวน สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุรถกระบะ ถอยทับร่างหญิงวัยชราเสียชีวิตที่บ้าน หมู่ 5 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.เชียงดาว และรถกู้ชีพ พบบนถนนทางลาดชันหน้าบ้านหลังหนึ่ง มีรถกระบะจอดอยู่ ใต้ท้องรถมีร่างผู้เสียชีวิตจึงนำร่างออกมา ทราบชื่อ ป้าเหรียญ อายุ 66 ปี

เบื้องต้นทราบว่า คนขับรถเป็นลูกชายของป้าเหรียญ ทราบชื่อ นายสุพัฒน์ อายุ 46 ปี ได้ขับรถกลับจากทำธุระนอกบ้าน เมื่อมาถึงหน้าบ้านซึ่งอยู่บนเนินได้จอดรถแต่ลืมใส่เบรกมือ แล้วเดินลงไปเพื่อเปิดประตูบ้าน ปรากฏว่ารถได้ไหลถอยหลังเนื่องจากเป็นถนนลาดชัน เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับป้าเหรียญ ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรง มีไม้ 2 ขาพยุงร่างเดินกลับจากจ่ายตลาด รถลูกชายไหลลงมา พยายามประคองแล้ว แต่ด้วยความเร็วและความตกใจ ขณะที่ป้าเหรียญยืนอยู่ริมถนนฝั่งซ้าย เห็นรถไหลมาจึงรีบเดินข้ามไปฝั่งขวาเพื่อหลบรถ แต่ฝั่งลูกชายกลับสังเกตเห็นแม่ยืนฝั่งซ้ายในตอนแรก เพื่อไม่ให้ชนจึงเบี่ยงหลบมาฝั่งขวา ดันประจวบเหมาะกันพอดีรถไหลทับร่างป้าเหรียญผู้เป็นแม่เข้าเต็ม ๆ ก่อนพาร่างลากไถลลงมาเกือบ 2 เมตร ป้าเหรียญจึงถูกรถถอยทับเสียชีวิตคาใต้ท้องรถ

ทางทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณบ้านถ้ำ หมู่ 5 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว พบว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นทางลาดชัน บ้านของนายสุพัฒน์ตั้งอยู่บนเนินสูง มีรั้วเป็นประตูอะลูมิเนียม ถนนคอนกรีตค่อนข้างแคบ มีพื้นที่ให้รถวิ่งผ่านได้แค่คันเดียว ไม่สามารถวิ่งสวนทางกันได้ ข้างทางทั้งสองข้างเป็นพงหญ้า ติดกับรั้วบ้านเพื่อนบ้านใกล้เคียง โดยบริเวณจุดรถไถลพบร่องรอยเป็นทางลากยาว เสารั้วข้างทางโค่นล้ม และพบร่องรอยชนกำแพงบ้าน

ทั้งนี้ทางทีมข่าวได้สอบถามไปยังนายคำรณ อินต๊ะ ผู้ใหญ่บ้านบ้านถ้ำ เผยกับทางทีมข่าวว่า ตนได้รับแจ้งว่ามีรถไถลถอยทับร่างคนเสียชีวิต จึงรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและลงพื้นที่ในเวลาต่อมา เมื่อสอบถามไปยังนายสุพัฒน์ คนขับรถ เปิดเผยกับตนว่า ขณะนั้นกำลังจอดรถและลืมใส่เบรกมือ ลงไปเปิดประตูรั้วบ้าน ซึ่งขณะกำลังเปิดประตูรถกระบะที่จอดอยู่ดันไหลลงทางลาดชัน นายสุพัฒน์จึงรีบกระโดดขึ้นรถเพื่อที่จะประคองรถไว้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับขณะที่นางเหรียญ ผู้เป็นแม่ กำลังเดินทางกลับจากจ่ายตลาด โดยปกตินางเหรียญนั้นเดินไม่ค่อยแข็งแรง ต้องมีไม้เท้า 4 ขา คอยพยุงตลอด

ซึ่งขณะนั้นรถไถลไปทางซ้ายของถนน ฝั่งเดียวกันกับที่นางเหรียญยืนอยู่ นายสุพัฒน์สังเกตุเห็นแล้วว่านางเหรียญยืนอยู่ฝั่งนั้น จึงบังคับรถเพื่อให้ไถลไปฝั่งขวาแทน แต่ฝั่งนางเหรียญกลับรีบเดินมาฝั่งขวาเพื่อหลบรถ จึงทำให้ประจวบเหมาะกัน รถกระบะของลูกชายไถลลงทับร่างของนางเหรียญเข้าเต็มลำตัว ก่อนจะรถจะไถลลากร่างไปชนกับขอบกำแพงบ้านของเพื่อนบ้าน ทำให้นางเหรียญเสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นพบว่าสภาพร่างมีเลือดออกเล็กน้อย อาจจะเกิดจากอวัยวะภายในบอบช้ำ หรือเลือดคั่งจึงทำให้เป็นเหตุของการเสียชีวิต

ทางด้านลูกชายอยู่ในสภาวะช็อก มือสั่นตัวสั่น ทำอะไรไม่ถูก ตนจึงทำได้แค่เพียงปลอบใจ ส่วนทางด้านคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด คงต้องรอให้สภาพจิตใจของนายสุพัฒน์ดีขึ้นกว่านี้ และผ่านการจัดงานศพของนางเหรียญผู้เป็นแม่ไปก่อน