วันที่ 7 พ.ค.67 ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ยงยุทธ ไผ่ล้อมวรกุล รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.หนองหงส์ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้ามาตรวจสอบ บ้านหลังหนึ่ง บ้านหนองกราด หมู่ที่ 5 ต.สระแก้ว อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์
หลังจากเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 6 พ.ค.นายชัชพงษ์ หรือโอ๊ต อายุ32 ปี ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนแก๊ป จ่อยิงนายมานิตย์ หรือแหล่ อายุ 47 ปี (ได้รับบาดเจ็บ)บริเวณขมับซ้ายศีรษะโดนกระสุนปืนและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบถามนายเกียรติศักดิ์ แทนไธสง อายุ 40ปี บ้านเลขที่ 65 ม.5 บ้านหนองกราด ต.สระแก้ว อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เจ้าของบ้าน (เสื้อสีฟ้า) และเจ้าของคอกวัวในที่เกิดเหตุ เล่าว่า พวกตนนั่งดื่มสุราด้วยกัน 4 คน หนึ่งในนี้มีนายโอ๊ต มือปืนนั่งอยู่ด้วย หลังจากดื่มเหล้ากันเมาได้ที่ตนซึ่งเมาหนักกว่าเพื่อนจึงนอนหลับที่เปลยวน กระทั่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้น สะดุ้งตื่นขึ้นมาเห็นนายแหล่ มีเลือดนองพื้นแคร่ แต่ไม่รู้ว่าใครยิง
นายสมพงษ์ อายุ 53 ปี หนึ่งในสี่ที่ร่วมวงเหล้า บอกว่าพวกตนมาช่วยเจ้าของบ้านคอกวัว จึงหากับแกล้มมากินกันตามประสาคนบ้านนอก
หลังเมาได้ที่นายโอ๊ต มือปืนได้ทวงถามค่าเนื้อหมู (ชาวบ้านทางอีสานนิยมทำกันคือเอาวัวหรือหมู มาตั้งราคาแล้วทำการชำแหละแบ่งเท่าๆกัน ขึ้นอยู่ว่าจะตั้งกี่พูดๆละกี่บาท ส่วนใหญ่จะตกพูดกันในช่วงเทศกาลสำคัญ) กับนายแหล่ผู้ตาย แต่กลับถูกนายแหล่ด่าสวน ซึ่งปกติการตกพูดจะจ่ายเงินกันภายใน 7 วัน แต่ครั้งนี้ตกพูดตั้งแต่สงกรานต์ ทำให้นายโอ๊ตไม่พอใจ คาดว่าน่าจะเป็นชนวนเหตุสำคัญทำให้นายโอ๊ตมาก่อเหตุดังกล่าว
ขณะที่นายโอ๊ต มือปืน ได้ออกมาสารภาพว่า ตนเลี้ยงหมูไว้ที่บ้าน ตอนช่วงสงกรานต์ตกลงกับเพื่อนว่าจะตกพูดหมูตัวนี้ในราคา 4000 บาท แบ่งเป็น 8 พูดๆ ละ 500 บาท ทุกคนจ่ายมาหมดแล้ว เหลือแต่นายแหล่เพียงคนเดียว ที่ทวงเท่าไหร่ไม่ยอมจ่าย ยอมรับว่าแค้นจึงกลับไปเอาปืนที่บ้านมาจ่อยิงดังกล่าว
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่วัดหนองหงษ์ ตำบลสระแก้ว อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นายมานิตย์ อายุ 47 ปี โดยที่บรรยากาศนั้นเป็นไปอย่างเงียบสงบมีเพียงแค่คนในครอบครัวและเพื่อนสนิทไม่กี่คนที่ได้เข้าร่วมแสดงความเสียใจ จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางถนอม มูลมา อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นแม่ของผู้เสียชีวิตที่ยังอยู่ในอาการตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เปิดเผยว่า นายชัชพงศ์ (ผู้ก่อเหตุ) ก็เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับลูกชายของตน ซึ่งนายชัชพงศ์เองก็เคยมาที่บ้านของตนอยู่บ่อยครั้ง แต่ตนนั้นไม่ค่อยชอบนิสัยของนายชัชพงศ์สักเท่าไหร่ เพราะเขาเป็นคนอารมณ์ร้ายและติดเหล้า เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาเคยสาบายว่าจะเลิกเหล้าแต่เลิกไปได้แค่ 3 สัปดาห์ก็กลับมาติดเหล้าอีกครั้ง ส่วนปัญหาเรื่องการติดหนี้ค่าหมู ตนก็ทราบมาว่านายมานิตย์ได้ค้างค่าหมูนายชัชพงศ์ 500 บาท ซึ่งนายชัชพงศ์ ก็เคยมาทวงเงินถึงที่บ้านอยู่ประมาณ 2 ครั้ง แต่นายมานิตย์ลูกชายของตนก็ได้บอกไปว่ากำลังหาเงินอยู่ ส่วนเหตุการณ์เมื่อวานนี้ นายมานิตย์ก็ได้ออกจากบ้านไปตั้งแต่หัววันและก็ไม่กลับมาที่บ้านอีกเลย จนกระทั่งช่วงค่ำก็ได้มีคนมาแจ้งข่าวร้ายว่าลูกชายของตนถูกยิง ตนจึงรีบเดินทางไปโรงพยาบาลทันทีและพบว่าลูกชายได้เสียชีวิตลงแล้ว ในตอนแรกตนไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำและเกิดปัญหาอะไรขึ้น แต่มาวันนี้ตนก็ทราบแล้วว่านายชัชพงศ์นั้นเป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่าลูกชายของตนด้วยปัญหาหนี้สิน 500 บาท ตนก็ไม่นึกว่าเงินแค่นี้จะทำให้ถึงกับต้องฆ่าต้องแกงกันเลย ตอนนี้ตนยังไม่มีโอกาสได้เจอหน้านายชัชพงศ์ (คนก่อเหตุ) ถ้าหากได้เจอก็อยากจะถามว่าทำไมต้องทำแบบนี้ เพราะลูกชายตนก็กำลังหาเงินให้อยู่ สุดท้ายก็อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายชัชพงศ์อย่างถึงที่สุด