เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านห้วยป่าม่วง หมู่ที่ 8 ต.โนนปูน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งว่ามีคนพบหัวกะโหลก และโครงกระดูกมนุษย์ หลายชิ้นภายในลำห้วยแฮด ติดกับโครงการบำรุงรักษาฝายน้ำล้นห้วยแฮด

 

เมื่อไปถึงได้พบกับ นายจอม อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่พบหัวกะโหลก ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 6 พ.ค. 67 ตนพร้อมกับลูกชาย และชาวบ้านส่วนหนึ่งได้พากันไปทอดแหจับปลาภายในลำห้วยดังกล่าว เนื่องจากช่วงนี้แล้ง น้ำในลำห้วยแห้งขอด ระดับน้ำลดลงมาเหลือแค่หัวเข่า ทำให้ปลาหนีแล้งเกยตื้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อลูกชายตน ได้ทอดแหล่งน้ำแล้วก็ได้ลงไปจับปลา ขณะกำลังดึงแหขึ้นมามือก็ไปจับโดนอะไรไม่รู้ ลักษณะกลมๆติดขึ้นมาด้วย ตอนแรกนึกว่าเป็นลูกมะพร้าว แต่พอเอาขึ้นมาดูดีๆ กลับกลายเป็นหัวกะโหลกมนุษย์ จึงรู้สึกตกใจมาก และรีบนำขึ้นมาจากน้ำ ก่อนจะรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยตรวจสอบ

 

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พ.ต.อ.รัชยุทธ ศักดิ์ระพี ผกก.ไพรบึง ซึ่งได้เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์พบโครงกะโหลกและกระดูกมนุษย์ ปริศนาในลำห้วยนั้น ทางตำรวจได้มีการประสานไปยังหน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน จุดอำเภอพยุห์ ให้มาช่วยงมหาชิ้นส่วนกระดูกเพิ่มเติม ซึ่งได้ชิ้นส่วนกระดูกกว่า 20 ชิ้น มีทั้งหัวกะโหลก กระดูกซี่โครง กระดูกแขน กระดูกขา และอื่นๆ

 

ทั้งนี้จากการตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนต่างๆเบื้องต้นแล้ว พบว่าเป็นโครงกระดูกมนุษย์ จริง และน่าจะเสียชีวิต มาแล้วหลายปี และยังไม่ทราบเพศ ไม่ทราบอายุ ตอนนี้ได้ค้นประวัติการแจ้งหายแล้ว พบว่ามีการแจ้งหายในพื้นที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุอยู่ 1 ราย ซึ่งตอนนี้ได้ประสานไปยังผู้ที่แจ้งหายแล้ว ถ้าคิดว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกของญาติตนก็ให้มาตรวจ DNA กับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะได้นำไปส่งตรวจพิสูจน์ยืนยันหาอัตลักษณ์บุคลที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งถ้าเป็นกระดูกของคนที่แจ้งหาย และถ้าตรวจพิสูจน์แล้วว่า เป็นญาติผู้แจ้งความหายหลายปีก่อนจริง ก็จะได้ส่งชิ้นส่วนกระดูกให้ญาติเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป