เมื่อเวลา 21.00 น. (4 พ.ค.67) พ.ต.ต.ปัญญาพล ศรีเมฆ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ บ้านหลังหนึ่ง ต.บ้านหม้อ อ.เมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี จึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี เพื่อรับทราบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี ตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนสองชั้น พบนางวิรัลพัชร อายุ 68 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อดัง ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ยืนรอให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถามทราบว่าตนเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่หลังจากที่ไปอยู่บ้านพักที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ ประมาณปลายเดือนเมษายน และเพิ่งกลับวันนี้ ส่วนที่ผ่านมามีลูกสาว คือ นางสาวอัญชลี อายุ 47 ปี และลูกเขย อยู่แต่ลูกสาวและลูกลูกเขยคือ นายมานพ อายุ 41 ปี อยู่ที่บ้านเกิดเหตุ แต่ลูกสาวและลูกเขย เดินทางไปต่างประเทศเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา และเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ก่อนที่ตนจะให้ลูกไปรับมาจากเชียงใหม่ และเดินทางมาถึงบ้านที่เพชรบุรี ในวันนี้ และเมื่อตนกลับมามาถึงบ้านพักและเดินเข้าห้องที่อยู่ชั้นบนของตัวบ้าน ที่ปกติประตูห้องนอนจะไม่ได้ล็อกกุญแจ โดยจะมีแม่บ้านเดินเข้าออกเพื่อทำความสะอาดในห้อง โดยตนสังเกตเห็นลิ้นชักตู้ที่อยู่นอกห้องนอนมีลูกกุญแจที่เป็นลูกกุญแจใหม่ไม่ใช่ลูกเก่าที่ตนใช้คล้องลิ้นชักไว้เดิม ตนจึงได้ทุบกุญแจลิ้นชักออกดูและพบว่าเงินสดที่อยู่ในลิ้นชักจำนวน 5 แสนบาทใส่ในถุงกระดาษของธนาคารถูกขโมยไป แต่คนร้ายเอาถุงกระดาษใส่เงินวางใส่ไว้ในลิ้นชัก และทองคำ ประมาณกว่า 30 บาท ที่อยู่ในถุงผ้า คนร้ายเอาแต่ทองไปทั้งหมดทิ้งกระเป๋าใส่ทองไว้ให้ดูต่างหน้า ตนจึงรีบเข้าไปในห้องนอนเพื่อหาลูกกุญแจลิ้นชักที่อยู่ในตู้กระจกในห้องนอน แต่หาลูกกุญแจตู้ไม่เจอ และสังเกตเห็นว่าลิ้นชักตู้ภายในห้องนอน มี 2 ลิ้นชัก ถูกเปลี่ยนลูกกุญแจที่ใช้สำหรับล็อกทั้งสองลิ้นชัก ตนจึงไปเรียกลูกสาวให้มาดูว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นและพบว่าที่ลิ้นชักมีร่องรอยการถูกงัดและมีร่องรอยคล้ายกับของมีคมฟัน ส่วนลูกกุญแจถูกเปลี่ยนทั้งสองลูกและล็อกปิดสนิท ซึ่งภายในลิ้นชักมีทรัพย์สินเป็นเงินสด 1 ล้านบาท ที่ใส่อยู่ในซองของธนาคาร แหวนเพชรประมาณ 20 วง มูลค่าวงละกว่า 1 ล้านบาท รวมราคาประมาณ 20 ล้านบาท ทองคำรูปพรรณรวมกว่า 50 บาท มูลค่าประมาณ 2100000 เม็ดหยก 7 เม็ด รวมมูลค่าประมาณ 1890000 บาท สร้อยเพชร 7 เส้น รวมมูลค่าราคาประมาณ 14 ล้านบาท พระเครื่องเลี่ยมทอง ซึ่งรวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยรวมประมาณกว่า 40 ล้านบาท ตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี หลังจากเก็บรายละเอียดและร่องรอยของคนร้ายแล้วได้ทำการตัดลูกกุญแจลิ้นชักทั้งสองลิ้นชักออกเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินมีค่าว่าสูญหายหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าพอเปิดลิ้นชักพบกล่องที่ใส่เครื่องเพชร เครื่องทอง วางอยู่ในลิ้นชักในลักษณะเดิม แต่ในกล่องทรัพย์สินมีค่าสูญหายทั้งหมด มีเพียงบางส่วนที่มีค่าน้อย คนร้ายจะไม่เอาไปรวมถึงแบงค์สะสมบางส่วนที่คนร้ายไม่ได้เอาไป ส่วนของมีค่าอื่นๆ ถูกขโมยไปหมด

จากกรณีดังกล่าวในวันนี้ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านของผู้เสียหายที่ ต.บ้านหม้อ อ.เมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี โดยทีมข่าวได้พบกับ นางวิรัลพัชร อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

“ก่อนหน้านี้ตนไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ตั้งแต่ช่วง ปลายปี 2566 และไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้เลยเนื่องจากไปทำธุรกิจอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่งในช่วงเมื่อวาน (4 พ.ค. 67) ตนได้กลับมาที่บ้านหลังนี้ โดยหลังจากนั้นจึงเข้าไปที่ห้องนอนเพื่อที่จะไปเปิดลิ้นชักและจะเปลี่ยนแหวนที่ใส่อยู่ก็ได้พบว่าบริเวณลิ้นชัก ที่ตนได้ใช้แม่กุญแจล็อกไว้ภายในห้องนอนได้มีร่องรอยการงัดแงะ โดยมีร่องรอยการใช้ใบเลื่อยไฟเบอร์ตัดบริเวณจุดที่ล็อกกุญแจและมีลักษณะการแฉลบเข้าโดนบริเวณลิ้นชักที่เป็นไม้ และแม่กุญแจที่ ใช้ล็อกลิ้นชักอยู่นั้นไม่ใช่ไม่ใช่แม่กุญแจที่ตนเคยใช้ล็อกไว้ ถูกเปลี่ยน ซึ่งแม่กุญแจที่ตนเคยล็อกไว้แล้วเป็นสีทอง แต่แม่กุญแจที่ตนมาพบเป็นศรีเงินตนจึงเห็นว่ามันผิดปกติ จากนั้นจึงเปิดเข้าไปดูที่ลิ้นชักก็พบว่าสิ่งของที่อยู่ภายในลิ้นชักนั้นถูกรื้อค้นและหายไป จากนั้นตนจึงย้อนกลับไปดูลิ้นชักที่อยู่นอกห้องนอนบริเวณบริเวณห้องโถงชั้นสองซึ่งก็เป็นลิ้นชักลักษณะเดียวกันเมื่อเปิดเข้าไปก็พบว่าเงินสดที่เก็บไว้ร้านทองรูปพรรณก็ได้หายไปเช่นกัน โดยตนคิดว่าช่วงที่ก่อเหตุน่าจะเป็นช่วงก่อนสงกรานต์หรืออาจจะเป็นช่วงสงกรานต์ที่ลูกสาวและลูกเขยของตนไปเที่ยวต่างประเทศ

ทั้งนี้ในห้องไม่มีการรื้อค้น โดยผู้ก่อเหตุเจาะจงที่จะไปเอาของที่อยู่ภายในลิ้นชักเพียงอย่างเดียว ซึ่งลิ้นชักจะมีอยู่สองจุด ก็คือบริเวณห้องโถงภายนอกชั้นสอง และภายในห้องนอนของตน และรอยยงก็มีอยู่แค่ภายในลิ้นชักที่อยู่ภายในห้องนอนของตนเพียงลิ้นชักเดียว เพราะปกติตนจะซ่อนกุญแจ ลิ้นชักที่อยู่ห้องโถงไว้ภายในห้องนอน ส่วนกุญแจลิ้นชักที่อยู่ภายในห้องนอนตนจะใส่ไว้ในลิ้นชักที่อยู่ภายในห้องโถง ซึ่งตนคิดว่าช่วงแรก ผู้ก่อเหตุ น่าจะหากุญแจของลิ้นชักที่อยู่บริเวณโถงไม่เจอ จึงได้ใช้ใบเลื่อยไฟเบอร์ พยายามตัดแม่กุญแจของลิ้นชักที่อยู่ภายในในห้องนอน แต่หลังจากนั้นน่าจะไปหาคุณแจเจอ จึงได้ใช้กุญแจเปิดลิ้นชักที่อยู่ห้องโถงได้และนำกุญแจที่อยู่ภายในลิ้นชักนั้นมาเปิดลิ้นชักที่อยู่ภายในห้องนอน

ซึ่งลิ้นชักที่อยู่ภายในห้องโถงจะเก็บเงินสดจำนวน 500,000 บาท และทองรูปพรรณ ส่วนลิ้นชักที่อยู่ภายในในห้องนอนนั้นจะเก็บเงินสดจำนวน 1,000,000บาท และแหวนพลอย แหวนเพชร และแหวนหยก อีกจำนวนมาก ผู้ก่อเหตุนั้นเอาไปแต่เพียงของมีค่า เข้าโดยทิ้งกล่องใส่แหวน กล่องใส่ทอง ไว้ภายในลิ้นชักดังเดิม แต่ในตอนนี้ตนไม่มั่นใจว่าตนได้เก็บอาวุธปืนไว้ในลิ้นชักหรือไม่ ทั้งนี้ตนจะต้องดูที่ตู้นิรภัยของธนาคารก่อน ว่าตนได้เก็บไว้ที่นั่นหรือเปล่า รวมทั้งของมีค่าอื่นๆด้วยจึงจะสามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ถูก

ซึ่งในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เร่งดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ โดยในตอนนี้หลังจากที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วตนก็ความมั่นใจว่าผู้ที่ก่อเหตุต้องเป็นคนที่อยู่ภายในบ้าน ซึ่งบ้านของตนนั้นได้เปิดเป็นสปา แต่อยู่คนละส่วนกับตัวบ้าน ซึ่งที่สปานั้นจะมีพนักงานอยู่ 17 คน โดยในตอนนี้ก็มีคนที่ต้องสงสัยอยู่เพียงบางคนเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการดำเนินการ ก็เป็นสาเหตุที่ตนสงสัยว่าเป็นคนในก็เพราะว่า กล้องวงจรปิดของตนนั้นเสียไม่สามารถใช้งานได้มานานแล้ว ซึ่งถ้าหากว่าเป็นคนนอกหรือคนอื่นนั้นก็จะต้องกลัวกล้องวงจรปิดและจะต้องทำกับกล้องวงจรปิดสักอย่าง แต่จากเหตุการณ์นี้กล้องวงจรปิดไม่ได้ถูกทำอะไรเลยและอยู่อย่างปกติ และคนที่รู้ว่ากล้องวงจรปิดเสียนั้นก็เป็นคนในเพียงเท่านั้น อีกทั้งการรื้อค้นภายในห้องนอนของตนหรือบริเวณชั้นสองก็ไม่มีการรื้อค้น และคนร้ายได้เจาะจงไปที่ทรัพย์สินที่อยู่ภายในลิ้นชักเพียงอย่างเดียว แสดงว่าผู้ก่อเหตุนั้นจะต้องรู้ว่าทรัพย์สินได้เก็บไว้ภายในลิ้นชักที่มีแม่กุญแจล็อกอยู่ จึงทำให้ตนมั่นใจว่าต้องเป็นบุคคลภายในอย่างแน่นอน

ซึ่งถ้าหากเป็นคนง่ายอย่างที่ตนคาดไว้ตนก็อยากจะบอกว่า ตนนั้นดูแลลูกน้องเป็นอย่างดีและเลี้ยงดูอย่างดี แม้กระทั่งลูกน้องเป็นหนี้จากภายนอกตนก็เป็นคนจัดการให้หมด และมาหักจากเงินเดือนโดยหักเงินเดือนเพียงเล็กน้อยเพราะไม่อยากให้ลูกน้องต้องไปจ่ายดอกที่อื่น อีกครั้งเมื่อเวลาเจ็บป่วยตนก็ดูแลเป็นอย่างดีและตนได้ปลูกฝังลูกไว้ว่าต้องดูแลลูกน้องให้เป็นอย่างดีต้องให้เขาอยู่อย่างสุขสบาย ดังนั้นถ้าหากมาทำกับตนอย่างนี้ตนก็จะให้ดำเนินคดีให้เต็มที่โดยไม่ต้องมาขอกัน”

จากนั้นทางด้าน นางวิรัลพัชร (ผู้เสียหาย) ได้พาผู้สื่อข่าวขึ้นไปบริเวณด้านบนชั้นสองของบ้าน เพื่อดูร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยขึ้นไปบริเวณบนบ้านก็ได้พบกับห้องโถงจากนั้นจึงได้พบกับลิ้นชักบริเวณห้องโถง โดยจะเป็นลิ้นชักที่อยู่ติดกันเป็นคู่ บริเวณตู้กระจก และบริเวณบริเวณลิ้นชักก็จะมีช่องสำหรับใส่แม่กุญแจทั้งสองลิ้นชัก ในส่วนลิ้นชักบริเวณห้องโถงนี้ไม่มีร่องรอยการงัดแงะ ซึ่งผู้เสียหายคิดว่าบริเวณลิ้นชักแห่งนี้ผู้ก่อเหตุน่าจะไปพบกุญแจที่อยู่ภายในห้องนอนและนำมาเปิดลิ้นชักทั้งสองลิ้นชักที่อยู่บริเวณบริเวณห้องโถงได้ โดยลิ้นชักที่บริเวณห้องโถงนี้ด้านนายจะมีเงินสดอยู่จำนวน 500,000 บาท และทองรูปพรรณ น้ำหนักโดยประมาณ 40 บาท โดยทางด้านผู้เสียหายได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าที่นำทองมาไว้ที่ลิ้นชักแห่งนี้ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้นำ ไปใส่ในงานแต่งงานและไม่ได้นำไปเก็บที่ตู้นิรภัยของธนาคาร ในส่วนเงินสดนั้นได้เบิกมาในช่วงโควิด เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายซึ่งในตอนนั้นตนยังไม่ได้ใช้การโอนจ่ายทางแอพพลิเคชั่น ในส่วนของทองคำนั้นจะเป็นลักษณะทองรูปพรรณเก่า ซึ่งเป็นสร้อยคอลงยา และมีความตัน ซึ่งสร้อยเส้นหนึ่งก็หนักกว่า 10 บาทแล้ว ทั้งนี้ยังมีสร้อยข้อมือที่หนักอีกเส้นละ 5 บาทจำนวนสองเส้น โดยในตู้นี้จะมีทองรูปพรรณลักษณะเป็นชุดดังกล่าวจำนวนสามชุด

จากนั้นผู้เสียหายจึงพาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูภายในห้องนอน ซึ่งภายในห้องนอนก็จะพบกับลิ้นชักลักษณะเดียวกัน แต่ลิ้นชักภายในในห้องนอนนั้นจะมีร่องรอยการถูกใบเลื่อยไฟเบอร์ โดนบริเวณลิ้นชักซึ่งเป็นลักษณะร่องรอยการเข้าเนื้อไม้ โดยผู้เสียหายคาดว่าบริเวณนี้ผู้ก่อเหตุน่าจะเอาใบเลื่อยไฟเบอร์มาตัดกุญแจและเกิดการแฉลบเข้าเนื้อไม้ที่เป็นส่วนของลิ้นชัก ซึ่งบริเวณบริเวณลิ้นชักแห่งนี้ผู้เสียหายได้เก็บเงินสดจำนวน กว่าหนึ่งล้านบาท และยังมีแหวนเพชร แหวนพลอย และแหวนหยก ที่สูญหายจากตรงนี้ไปกว่า 20 วง ซึ่งบางวงมีมูลค่ากว่า 1,000,000 โดยผู้เสียหายยังเล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ภายในห้องนอนและบริเวณบริเวณห้องโถงชั้นสองไม่มีร่องรอยการรื้อค้นสิ่งของอื่น โดยผู้ก่อเหตุน่าจะเจาะจงมาเอาสิ่งของที่อยู่ภายในลิ้นชักโดยตรง ซึ่งสาเหตุที่ตนไม่เก็บของไว้อย่างตู้นิรภัยของธนาคารก็เนื่องจากว่า เวลาตนกลับมาที่บ้านหลังนี้ในบางครั้งตนอาจจะต้องออกไปร่วมงานต่างๆ ตนจึงเก็บไว้ที่บริเวณบริเวณลิ้นชักภายในบ้าน เพื่อที่จะสะดวกต่อการหยิบใช้งาน ถ้าหากไปเก็บไว้ที่ตู้นิรภัยของธนาคารก็ต้องเสียเวลาไปเปิดตู้นิรภัย ซึ่งในบางครั้งตนกลับมาที่บ้านหลังนี้ตรงกับวันหยุดทางธนาคารก็ไม่เปิดทำการจึงไม่สามารถไปเบิกของที่เก็บไว้ในตู้นิรภัยได้

หลังจากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินสำรวจบริเวณภายนอกบ้านของบ้านที่เกิดเหตุก็พบว่าบริเวณโดยรอบบ้านได้มีการล้อมลวดหนามที่เป็นลักษณะม้วนวงกลมบนหลังคา และบริเวณข้างบ้านซึ่งเป็นบ้านของเพื่อนบ้านก็ได้มีการล้อมลวดไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าสาเหตุหลักน่าจะมาจากการป้องกันซึ่งอยู่ตรงข้ามตรงข้ามกับบ้านเพราะบริเวณจุดตรงข้ามบ้านนั้นเป็นวัดเขาบันไดอิฐ ซึ่งมีลิงเป็นจำนวนมาก อีกทั้งน่าจะนำไปป้องกันการถูกขโมยบ้านเพื่อโจรกรรม ซึ่งมองได้ว่าถ้าหากผู้ก่อเหตุจะมีการปีนเข้ามามาจากภายนอกบ้านจะเป็นเรื่องที่ยากมาก ซึ่งผู้เสียหายก็คาดการณ์ไว้ว่า น่าจะเป็นคนใน ที่เป็นผู้ก่อเหตุมากที่สุด

ทางด้านข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจในตอนนี้ได้มีการเรียกผู้ที่อยู่ภายในบ้านเข้าไปสอบปากคำทั้งหมดแล้ว โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ได้เข้ามาเก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุและเรียกคนที่อยู่ภายในบ้านเข้าไปตรวจดีเอ็นเอทั้งหมด เพื่อเทียบกับหลักฐานที่เก็บได้บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งทางผู้เสียหายก็ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรัดการทำงานเป็นอย่างดี เพื่อที่จะหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้อย่างเร็วที่สุด

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ปรียา อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นแม่บ้านของบ้านหลังดังกล่าว โดยได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

“โดยปกติแล้วตนจะเข้ามาทำความสะอาดบ้านหลังนี้เป็นประจำ ทุกวัน แต่ถ้าหากเจ้านายไม่อยู่อยู่บ้านตนก็จะขึ้นมาทำความสะอาดบริเวณด้านบน โดยก่อนหน้านี้เจ้านายจะอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่โดยไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้เลย โดยบ้านหลังนี้จะอยู่แต่เพียง ลูกสาวของเจ้านายและลูกเขยของเจ้านาย ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ลูกสาวและลูกเขยของเจ้านายได้ไปเที่ยวต่างประเทศ จึงไม่มีใครอยู่บ้านหลังนี้เลยในช่วงนั้นตนได้เข้ามาให้อาหารแมวแมวเพียงอย่างเดียว และไม่ได้ขึ้นมาทำความสะอาดบริเวณด้านบนเนื่องจากไม่มีใครอยู่บ้าน

โดยช่วงนั้นตนได้สังเกตเห็นความผิดปกติก็คือ ช่วงเวลาที่ต้นเข้ามาให้อาหารแมวในช่วงเย็นตนจะเปิดไฟไว้ ตลอดทั้งคืนจนเช้า แต่บางวันที่ตนเข้ามาในช่วงเช้าตนก็พบว่าไฟบริเวณชั้นล่างถูกปิด โดยตนได้สอบถามจากหลายคนแล้วก็ไม่ได้มีใครเป็นคนปิดไฟ และอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องผิดปกติก็คือมีอยู่ครั้งหนึ่งแมวที่เจ้านายได้เลี้ยงไว้ถูกขังอยู่ในห้องน้ำจนจนจนมาพบในช่วงเช้าซึ่งโดยปกติแล้วถ้าแมวเข้าไปในห้องน้ำก็จะไม่สามารถปิดประตูเองได้ และยังมีบางครั้งที่แมวหลุดออกไปด้านนอกซึ่งถ้าเป็นปกติแมวจะไม่สามารถหลุดออกไปได้จะต้องมีคนเปิดประตูจึงจะสามารถออกไปได้

และนอกจากตนแล้วก็ยังมีคนที่สามารถเข้ามาภายในบ้านหลังนี้ได้ก็คือพนักงานที่สปาอีกสามคนซึ่งซึ่งจะเป็นคนที่เจ้านายได้ไว้วางใจและสามารถเข้ามาภายในบ้านหลังนี้ได้ แต่ตนก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นใคร เพราะตนไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง ทั้งนี้ตนเองก็ยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยของเหตุการณ์นี้ ซึ่งตนก็ความบริสุทธิ์ใจที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ การให้ข้อมูลต่างๆ”