ทนายตั้มยื่นคัดค้าน "พ.ต.อ." มีรายชื่อร่วมเป็นคณะทำงาน ก.ร.ตร. เหตุเป็นปฏิปักษ์กับตน เคยมีคดีไบโอเมทริกซ์-รถสายตรวจอัจฉริยะ

วันที่ 26 เม.ย. 2567 เวลา 11.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เดินทางมาที่สำนักงานจเรตำรวจ ยื่นหนังสือคัดค้านการแต่งตั้ง "พ.ต.อ." นายหนึ่ง ซึ่งมีรายชื่อเป็นหนึ่งใน 29 คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ เนื่องจากนายตำรวจคนดังกล่าวเคยมีความขัดแย้งและดำเนินคดีหลายข้อหากับตัวเอง ในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โครงการไบโอเมทริกซ์ และโครงการรถสายตรวจอัจฉริยะ จึงสร้างความไม่พอใจให้กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในขณะนั้น จนเป็นเรื่องทำให้ตัวเองถูกฟ้องร้อง ในปี 2562 จึงกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจนายดังกล่าว จึงขอให้จเรตำรวจมีคำสั่งเปลี่ยนตัวนายตำรวจคนดังกล่าวออกจากการเป็นข้าราชการตำรวจช่วยเหลือและสนับสนุนในการไต่สวนของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสม เข้ามาทำหน้าที่แทน

นอกจากการยื่นคัดค้านนายตำรวจคนดังกล่าวออกจากคณะกรรมการการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจแล้ว ทนายตั้มเปิดเผยถึงความคืบหน้าการไต่สวนเอาผิดทางวินัยกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ว่า ทางคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจได้เชิญสายลับมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมแล้วเมื่อวานนี้ จึงยังมั่นใจว่า ทางคณะกรรมการคนที่เหลือจะสอบสวนอย่างเป็นธรรม และในช่วงเช้าของวันนี้สายลับของทนายตั้มยังได้เดินทางไปพบคณะกรรมตรวจข้อเท็จจริงที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้น โดยมีรายงานว่า มีตำรวจคอมมานโด จำนวน 2 นาย ได้เดินทางเข้าพบด้วยเช่นกัน

ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ (25 เม.ย. 67) ทนายตั้ม ได้ไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ในคดีที่ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และภรรยา ฐานร่วมกันฟอกเงิน โดยเป็นการเข้าให้ปากคำครั้งที่ 3 นั้น ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร อีกทั้งยังตั้งข้อสงสัยว่า เพราะเหตุใดคดีที่ตัวเองแจ้งความเอาผิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จึงต้องให้พนักงานสอบสวนชุดใหม่มาทำคดี จึงเชื่อว่าพยายามที่จะถ่วงเวลาในการทำสำนวน