จากกรณีการพบศพ นายชิษณุพงศ์ หนูนา อายุ 23 ปี ที่เสียชีวิตภายในหนองน้ำ พื้นที่ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ด้วยความคืบหน้าในวันนี้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ. บ้านเป็ด ได้ลงพื้นที่มายัง บริษัทขนส่งมวลชนจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดที่ นายชิษณุพงศ์ ได้มาลงรถเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 ก่อนที่จะพบอีกทีในวันที่ 13 เมษายน 2567 ในสภาพที่เป็นศพลอยน้ำ โดยความคืบหน้าในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รอพนักงานขับรถรถตู้ ที่ นายชิษณุพงศ์ ได้โดยสารมาจากจังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อที่จะสอบปากคำเพิ่มเติม โดยหลังจากนั้นทีมข่าวจึงได้พบกับ นายประสาท อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นพนักงานขับรถรถตู้คันดังกล่าวโดยได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

“ในวันนั้นที่ผู้ตายได้ขึ้นรถต้นมาจากอำนาจเจริญเป็นวันที่ 9 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 10 โมง 10 นาที โดยได้แจ้งกับตนว่าไปลงที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งตนก็เก็บค่าโดยสารตามปกติ จากนั้นผู้ตายได้ขึ้นรถของตนและเข้าไปนั่งเบาะแถวหลังสุด โดยนั่งเพียงคนเดียวและขึ้นรถมาเพียงคนเดียว ซึ่งจากการสังเกตตนก็ไม่ได้เห็นท่าทีผิดสังเกตอะไร หลังจากนั้นตนก็ขับรถมาตามปกติโดยไม่ได้สนใจกับชายคนดังกล่าว

จากนั้นเมื่อถึงที่ บขส. ขอนแก่น ชายคนดังกล่าวได้ลงรถไปตามปกติ ซึ่งลักษณะการแต่งตัวของเขาก็จะใส่เสื้อยืดหรือกางเกงห้าส่วน และสะพายกระเป๋าเป้สีดำ โดยในวันนั้นตนก็ไม่ได้สังเกตอะไรมากนัก เนื่องจากชายคนดังกล่าวก็ไม่ ได้ดูมีท่าทางผิดปกติอะไร ซึ่งช่วงแรกตนคิดว่ามีรถจักรยานยนต์มารับชายคนดังกล่าว บริเวณหลังรถของตน แต่เมื่อตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้วก็ปรากฏว่าไม่ใช่ ชายคนดังกล่าวที่เป็นผู้ตายนั้นได้เดินเข้าไปยังบริเวณใน บขส. ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่ได้มองว่าเค้าเดินไปตามเส้นทางไหนต่อ

ทีมข่าวได้หลักฐานชิ้นใหม่มาเพิ่มเติม หลังจากที่นายชิษณุพงศ์ลงจากรถตู้ ปรากฏว่ากล้องหน้ารถของรถตู้อีกคันสามารถจับภาพนายชิษณุพงศ์ได้ในเวลา 14.31 น. เวลาดังกล่าวนี้จะเห็นนายชิษณุพงศ์เดินเลาะไปที่ซอยข้าง บขส. หลังจากนั้นจะเห็นผู้เสียชีวิตไปยืนรออยู่ที่ถนนสักพักหนึ่ง ระหว่างที่นายชิษณุพงศ์ ยืนอยู่ริมถนนในภาพจะเห็นรถกระบะตอนครึ่งสีขาวขับมาและไปยูเทิร์นก่อนที่จะจอดริมถนนฝั่งตรงข้าม ผ่านไปไม่ถึง 1 นาที จะเห็นนายชิษณุพงศ์ข้ามถนนไปบริเวณด้านหน้าของรถกระบะ ซึ่งภาพวงจรปิดมุมนี้จะเป็นภาพระยะไกล เราจึงไม่แน่ใจว่าจังหวะนี้ผู้เสียชีวิตได้มีการไปพูดคุยอะไรกับคนขับรถกระบะหรือไม่ เนื่องจากกล้องตัวนี้เป็นกล้องหน้ารถตู้ หลังจากเวลานี้คนขับรถตู้ได้ดับเครื่องยนต์ ทำให้ภาพไม่สามารถบันทึกช่วงเวลาหลังจากนี้เอาไว้ได้

ต่อมาเวลา 14.46 น. คนขับรถตู้ได้สตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อที่จะขับรถออกไปเติมแก๊ส ทำให้ภาพกล้องหน้ารถกลับมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งเวลาดังกล่าวเราจะเห็นได้ว่ารถกระบะคันสีขาวยังคงจอดอยู่แต่เราไม่เห็นผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณนี้แล้ว

เวลา 16.16 น. หลังจากรถตู้ไปเติมแก๊สและกลับมาจอดที่เดิม รถตู้เตรียมจะเดินทางไปส่งผู้โดยสารต่อ ภาพกล้องหน้ารถก็จะเห็นได้ว่า เวลานี้รถกระบะคันสีขาวยังอยู่ที่เดิม ซึ่งเวลาดังกล่าวนี้สามารถจับภาพคนขับรถกระบะใส่เสื้อสีขาวกำลังเปิดประตูรถ เพื่อขึ้นไปบนรถกระบะ หลังจากนั้นกล้องวงจรปิดตัวนี้ก็ไม่สามารถที่จะจับเบาะแสในพื้นที่ได้เพิ่มเติม แต่เราไม่ได้ฟันธงว่ารถกระบะคันสีขาวคือรถต้องสงสัย หรืออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้หรือไม่

กล้องวงจรปิดอีกมุมเวลา 14:51 น. เราเห็นผู้เสียชีวิตเดินอยู่ที่ถนนฝั่งตรงข้ามลักษณะคือเดินก้มหน้า เดินไปช้าๆไม่ได้เร่งรีบอะไร ซึ่งเส้นทางที่ผู้เสียชีวิตเดินไป จะมุ่งหน้าไปยังถนนเส้นเลี่ยงเมืองขอนแก่นสาย 230 และนี่คือภาพกล้องวงจรปิดตัวสุดท้ายที่เราตามหาเบาะแสได้ในวันนี้

จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยัง บ้านหนองบัวดีหมี ตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายต้น (นามสมมติ) อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ให้เบาะแส โดยได้เห็นชายลักษณะคล้ายคล้ายกับ นายชิษณุพงศ์ (ผู้เสียชีวิต) โดยได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

“ในช่วงเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 14.00 น. ตนได้นั่งตัดเหล็กบริเวณหน้าบ้าน ระหว่างนั้นได้มีชายคนหนึ่ง เดินมาขอความช่วยเหลือจากตนเพื่อให้พาไปที่ สภ.ท่าพระ แต่ในตอนนั้นตนก็รู้สึกไม่ไว้ใจและกลัวว่าจะเป็นพวกที่ติดยาเสพติด จึงได้ปฏิเสธ และได้ชี้บอกทางที่จะไปยัง สภ. ท่าพระ

โดยลักษณะของชายคนดังกล่าวสวมเสื้อยืดกางเกงประมาณหน้าแข้ง แต่ไม่ใส่รองเท้า โดยในขณะนั้นตนก็ไม่ได้มองหน้าอย่างชัดเจน จึงไม่ไม่ทราบแน่ชัดว่าจะใช่คนเดียวกับที่พบศพบริเวณหนองน้ำหรือไม่ แต่ลักษณะในวันนั้นก็ดูปกติดี ไม่มีร่องรอยบาดแผล หรือการโดนทำร้ายแต่อย่างใด ซึ่งลักษณะก็ไม่ได้ดูว่ามีความหวาดกลัว แต่สิ่งที่ผิดปกติก็คือชายคนดังกล่าวไม่ใส่รองเท้า หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้เดินมุ่งหน้าไปยังทางที่จะไป สภ. ท่าพระ ตามที่ตนนั้นได้ชี้บอกทาง

ทั้งนี้จุดสังเกตที่ตนคาดว่าจะเกี่ยวข้องกับชายคนที่พบศพบริเวณหนองน้ำนั่นก็คือ การเช็กอินของผู้ที่เสียชีวิตซึ่งมาเช็คอินอยู่ที่บริเวณใกล้เคียงกับบ้านของตน ถึงคาดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกันกับคนที่มาถามทางไปยัง สภ.ท่าพระ