เมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 14 เมษายน2567 ที่มูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นายกร (นามสมมุติ) พี่ชายน.ส.ส้ม (นามสมมติ) น้องสาว อายุ 38 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า น้องสาวถูกนายสุรชัย หรือ เบิร์ด อายุ 34 ปี อดีตแฟนหนุ่มที่เลิกกันไป 2 เดือนก่อน ใช้น้ำกรดราดตั้งแต่ศีรษะลงมาทั่วร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลที่ศีรษะ ลำคอ หน้าอก แผ่นหลัง ตามลำตัวและแขน ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องปลอดเชื้อโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ผู้ก่อเหตุยังลอยนวล จึงเกรงว่าน้องสาวกับครอบครัวจะไม่ปลอดภัย

 

จากภาพวงจรปิด จะเห็นได้ว่า นายเบิร์ดพยายามวิ่งเข้าหา นงสาวส้ม เพื่อทำร้าย นางวามส้มจึงวิ่งหนีรอบตัวรถ แต่สุดท้ายโดนนายเบิร์ดจับ กระชากหัวจากด้านหลัง แล้วนำน้ำกรดราดใส่

 

ภาพต่อมาจะเห็นว่า นางสาวส้มถูกสาดน้ำกรดแล้ว ร้องกรี๊ดด้วยความเจ็บปวดรีบเดินไปขอความช่วยเหลือ

 

ต่อมานางสาวส้มวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจาก รปภ.หน้าหมู่บ้าน

 

เบื้องต้นทราบว่าฝั่งนายเบิร์ดติดการพนันอย่างหนัก นางสาวส้มจึงบอกเลิก ได้ประมาณ 2เดือนกว่า ฝั่งนายเบิร์ดพยายามง้อขอคืนดี แต่ไม่เป็นผล วันเกิดเหตุคาดว่านายเบิร์ดน่าจะแอบติดตามไปโดยที่นางสาวส้มไม่รู้ตัว และน่าจะลืมล็อกรถขณะเข้าไปในร้านอาหาร ทำให้นายสุรชัย สุขประเสริฐหรือเบิร์ดแอบเข้าไปหลบซ่อนตัวในรถอยู่ที่เบาะหลังได้

 

ล่าสุดทางทีมข่าวช่องแปดลงพื้นที่สอบถาม นายกร (นามสมมติ) ผู้เป็นพี่ชาย กล่าวว่า น้องสาวคบหากับนายสุรชัย หรือ เบิร์ด มาประมาณ 2 ปี แรกๆ นายเบิร์ดก็เป็นคนดี ระยะหลังเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินซึ่งคาดว่าน่าจะติดการพนัน มักจะหาเรื่องทะเลาะกับน้องสาวเป็นประจำ ช่วงเดือน ก.พ.67 น้องสาวจึงได้บอกเลิก ผู้ก่อเหตุก็ยังพยายามตามง้อขอคืนดี ต่อมาตนเห็นข่าวที่นายเบิร์ดไปก่อเหตุขโมยของวัดจนถูกแจ้งความดำเนินคดีเป็นข่าวโด่งดัง ตนจึงบอกน้องสาวให้ระวังตัว น้องสาวก็ต้องหนีไปหลบตามบ้านเพื่อนบ่อยครั้ง

 

กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 9 เม.ย.67 ระหว่างที่น้องสาวขับรถออกไปกินข้าวกับเพื่อน นายเบิร์ด ได้แอบติดตามไปโดยที่น้องสาวไม่รู้ตัว และคาดว่าน้องสาวน่าจะลืมล็อกรถขณะเข้าไปในร้านอาหาร ทำให้นายเบิร์ดแอบเข้าไปหลบซ่อนตัวในรถอยู่ที่เบาะหลัง จนเวลาประมาณ 3 ทุ่ม น้องสาวได้ขับรถไปส่งเพื่อนที่หอพักเสร็จแล้วกำลังจะขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางจู่ๆ นายเบิร์ด ก็โผล่ขึ้นจากเบาะหลังและบังคับให้น้องสาวขับรถมุ่งหน้าไปทางซอยคลองพุทรา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อไปถึงบริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง น้องสาวจึงได้จอดรถและลงมาจากรถ โดยนายเบิร์ดได้ถือแกลลอนลงจากรถเดินตามมาด้วย แต่น้องสาวไม่รู้ว่าในแกลลอนคืออะไร

 

จากนั้นนายเบิร์ดก็พยายามง้อขอคืนดีแต่น้องสาวไม่ยอมและพยายามจะล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋าเพื่อโทรหาเพื่อนให้มาช่วย จังหวะนั้นน้องสาวไม่ทันระวังตัวเบิร์ดได้กระชากผมน้องสาวจากด้านหลัง ก่อนจะเทน้ำกรดที่อยู่ในแกลลอนราดที่ศีรษะลงมาตามลำตัว น้องสาวกรีดร้องด้วยความปวดแสบปวดร้อน และวิ่งเข้าไปหา รปภ.หมู่บ้าน และชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนที่พลเมืองดีจะแจ้งกู้ภัยมารับตัวน้องสาวส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้นนายเบิร์ดได้อาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งหลบหนีไป ซึ่งขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้เป็นหลักฐาน แพทย์ที่ให้การรักษาระบุว่า น้องสาวถูกน้ำกรดผิวหนังเสียหายลึกอยู่ในระดับ 3 และต้องประสานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลอื่นมาช่วยดูอาการก่อนจะประเมินการรักษา น้องสาวตอนนี้จิตใจย่ำแย่เมื่อเห็นสภาพตัวเองเหมือนตกนรกทั้งเป็น

 

แต่หลังจากมูลนิธิได้ให้การช่วยเหลือก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น น้องสาวดูสดใสมากขึ้น ขอบคุณมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีเร่งนำตัวนายดำมารับโทษตามกฎหมาย

 

ทางทีมข่าวลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุ พบนายอนันต์ อายุ 40 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เผยว่า ขณะนั้นตนอยู่บริเวณหน้าร้าน ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันข้างรถที่จอดอยู่ แล้ววิ่งไล่กันอยู่บริเวณนั้น หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถัดไปจากบ้านของตัวเองประมาณ 10 เมตร ตนจึงยืนสังเกตการณ์ดู แต่คิดว่าไม่น่ามีอะไร จนกระทั่งผู้หญิงกรีดร้องเสียงดังลั่น เสียงดังมาก จนตนต้องเรียกให้แฟนออกมาดู จากนั้นจึงรีบวิ่งออกไปดู เดินสวนกับผู้ก่อเหตุ ตะโกนบอกตนว่า “ไปดูเขาดิ เขาเป็นอะไรไม่รู้” ด้วยท่าทางรีบร้อน วิ่งออกไปหน้าปากทางหมู่บ้าน ตนจึงรีบไปดูผู้บาดเจ็บ พบว่าถูกน้ำกรดสาด เปื่อยหมดแล้ว เสื้อตัวนอกที่ใส่มาก็เปื่อยหมด ตนได้แต่หาวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อทำการช่วยเหลือ ก่อนจะเรียกเจ้าหน้าที่มาทำการช่วยเหลือต่อไป

ผัวโหดแผนเหี้ยม ซุกในรถดักสาดน้ำกรดใส่เมียเก่าโคม่า