จากกรณีพบศพ ผอ.ระพิน ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณเทศบาลเมือง (ทม.) กำแพงเพชร เปลือยกายผูกคอเสียชีวิตบนต้นมะยมหน้าบ้าน ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โดยใช้กางเกงผูกคอ ต่อมาญาติและภรรยายังสงสัยในหลายประเด็นของการเสียชีวิตและจนถึงตอนนี้ ตำรวจยังไม่สรุปคดีว่า ผอ. ผูกคอตายด้วยตัวเอง หรือ เป็นการฆ่าจัดฉากกันแน่ ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับ ชุดสืบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร รวม 3 คันรถ เจ้าหน้าที่กว่า 10 นาย ได้เดินทางลงพื้นที่ด่วนมาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม หลังพบคราบอสุจิปริศนา บริเวณเสื้อตัวที่ ผอ.ระพิน ใช้ผูกบริเวณขาของ ผอ. นั้น




ล่าสุด (12 เม.ย. 2567) ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ คุณรัตติกร ภรรยาของ ผอ.ระพิน อีกครั้ง โดยในวันนี้เธอได้ตั้งข้อสงสัยใหม่ที่เชื่อว่าสามีคงไม่คิดสั้นฆ่าตัวตายเองแน่นอน โดยเธอได้ส่งข้อความสนทนาทางไลน์กลุ่มของครอบครัวให้ทีมข่าวดู พร้อมบอกว่า ช่วงวันที่ 1 เมษายน ก่อนที่ ผอ. จะเสียชีวิต ตนเองและลูกชาย ช่วงเช้าทุกคนยังได้พูดคุยวางแผนว่าจะลางานกันไปเที่ยวในวันที่ 5 เมษายน อยู่เลย โดยลูกชายตอนแรกได้วางแผนจะไปพาสามีไปเที่ยว ทำบุญที่ถ้ำนาคา จ.บึงกาฬ โดยส่งข้อความหา ผอ. ว่า ลางานได้ใช่ไหม ?




ซึ่งในแชตจะเห็น ผอ.ระพิน ยังตอบกลับลูกชายว่า "วันที่ 5 ตอนเช้าพ่อมีประชุมเลื่อนขั้นพนักงานเสร็จแล้วกลับได้ไหม เสร็จไม่น่าจะเกินเที่ยงแล้วจะออกจากกำแพงเลย" ซึ่งสามีก็มีกำหนดงานชัดเจน จะไปฆ่าตัวตายได้ยังไง หากฆ่าตัวตาย ลูกน้องจะเดือดร้อนทันที


นอกจากนี้ ในวันที่ 3 เมษายน ลูกชายยังได้บอกให้สามี ถ่ายรูปหน้าตรงและด้านข้างมาให้หน่อย โดย ลูกชายซึ่งเป็นหมอศัลยกรรม จะนำรูปของพ่อเป็นหุ่น เพื่อไปเรียนทำ HIFU กระชับหน้า ผอ.ระพิน ก็ยังส่งรูปหน้า ผอ. จำนวน 3 รูปส่งให้ลูกชายปกติ ให้ความร่วมมือทุกอย่าง รวมถึงยังส่งอัตราการเต้นของหัวใจขณะเดินออกกำลังกายทั้งวัน ส่งมาให้กับลูกชายช่วงเย็นอีกด้วย ซึ่งดูปกติทุกอย่าง




ประกอบกับสามี มีความตั้งใจจะสอบเลื่อนขั้นเป็นรองปลัดเทศบาล ซึ่งก่อนสามีจะสมัครสามีเป็นคนชอบดูข่าว ดูมวย แต่เมื่อสมัครสอบแล้ว สามีได้เปลี่ยนเป็นคนละคน ไม่เปิดทีวี อ่านแต่หนังสือ เพื่อเตรียมสอบเต็มที่ สามีมีความตั้งใจมาก ตนเองเห็นสามี เตรียมสอบอ่านหนังสือเกือบสองเดือนเต็ม ในทุกเช้าสามีจะตื่นนอนขึ้นมาอ่านหนังสือเตรียมสอบ ก่อนนอนก็ต้องอ่านหนังสือ เป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ซึ่งคนจะคิดฆ่าตัวตายนั้นจะอ่านหนังสือให้เหนื่อยไปทำไม ซึ่งหลักฐานทั้งหมดทำให้ตนเองเชื่อว่าสามีไม่น่าจะคิดสั้นแขวนคอตาย




ส่วนเรื่องที่ GPS ของสามีไปตกอยู่ที่ลานดิน ตนเองได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า สามีได้ปิดเครื่องโทรศัพท์ตั้งแต่อยู่ร้านข้าวต้ม ซึ่งเป็นร้านข้าวต้มร้านที่ 2 ที่สามีไปนั่งกิน ซึ่งระหว่างนั่งกินสามีได้ปิดโทรศัพท์ตลอดเวลา และมาเปิดโทรศัพท์อีกทีคืออยู่ที่บ้านแล้วก็อาจทำให้ GPS สวิง เกิดความคลาดเคลื่อนได้ ตนเองฟังดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไรนัก เพราะหาก GPS สวิงจริง แล้วทำไมบริเวณล้อรถกระบะของสามีกลับมีดอกของต้นสัก ติดอยู่ที่ล้อรถ ทั้งที่โรงจอดรถหรือเส้นทางเข้าบ้านของสามีไม่มีต้นสักเลยสักต้น ซึ่งตนเองมั่นใจว่า สามีต้องขับรถไปทำอะไรบางอย่างแถวลานดินแน่นอน GPS ไม่ได้สวิง


และตนเองเชื่อว่าบุคคลที่น่าจะรู้เรื่องดีที่สุดคือ นางสาวฝน สาวคนสนิทของสามี เพราะสามีได้เดินทางไปหาก่อนจะเสียชีวิตอยู่ด้วยกันเกือบทั้งคืนจากหลักฐานกล้องวงจรปิด ซึ่งตนเองอยากให้นางสาวฝนออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่า คืนก่อนเกิดเหตุที่อยู่ด้วยกัน อยู่ด้วยกันกับสามีอย่างไร ทำอะไรกันบ้าง รวมไปถึง ที่นางสาวฝนอ้างว่า มีการพูดคุยโทรศัพท์กับสามี ช่วงเวลาประมาณหนึ่งทุ่มเศษ ของวันที่ 3 เมษายน บอกสามีว่าไม่ต้องมาหาที่ห้อง เพราะจะเดินทางไปเลี้ยงหลาน และจะพักค้างคืนที่บ้านของน้องสาว แต่ทำไมรถของนางสาวฝน เวลาตีหนึ่งเศษ ถึงขับรถกลับมาบ้านในยามวิกาล ทำไมไม่นอนค้างคืนที่นั่น ซึ่งยังเป็นข้อสงสัยคาใจอยู่ถึงตอนนี้




นอกจากนี้ตนเองยังไม่ค่อยเชื่อคำอ้างของนางสาวฝน ที่นางสาวฝนอ้างว่า ตัวเองเป็นแค่เพื่อนทำงานที่สนิทกันเท่านั้น เนื่องจากตอนที่ตนเองเห็นประวัติการโทร. ในเครื่องสามี นางสาวฝนได้รับสาย และร้องไห้โฮออกมา ทั้งที่อ้างว่า เป็นคนสนิทในที่ทำงานเท่านั้น


และประวัติการโทรศัพท์ระหว่างสามีกับนางสาวฝน ก่อนสามีเสียชีวิตมีการโทรศัพท์หากันหลายสาย นางสาวฝนอ้างว่า โทรปรึกษาเรื่องงาน แต่ระยะเวลาการโทรแต่ละสายนั้นค่อนข้างสั้น 1-2 นาที ซึ่งตนเองมองว่า การพูดคุย ปรึกษาเรื่องงาน ทำไมคุยกันเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งลักษณะงานของนางสาวฝนเกี่ยวกับเรื่องวิเคราะห์นโยบายต่างๆ เป็นงานที่ต้องใช้เวลาในการอธิบายเล่าเรื่อง ต้องพูดคุยกันมากกว่านั้น และจะโทรหากันทำไมหลายสายขนาดนั้น


และวันนี้ตนเองอยากให้นางสาวฝนได้ออกมาชี้แจงได้แล้ว อย่าหลบอยู่เลย อย่างน้อยก็เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานของตำรวจและนักข่าวในการค้นหาความจริง ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ควรออกมาแก้ต่างให้ตัวเอง ไม่ใช่หลบอยู่แบบนั้น




ขณะเดียวกันวันนี้ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ซึ่งวันนี้ตำรวจชุดสืบสวนยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้คลี่คลายคดีนี้ โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งกลุ่ม ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่ขับรถกระบะขับผ่านลานดินใกล้จุดที่ ผอ.เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในไทม์ไลน์เวลาเดียวกันกับ ผอ.ระพิน กลับบ้าน


โดยกระบะคันดังกล่าวถูกระบุเป็นผู้ต้องสงสัยอีก 1 คัน ตามภาพกล้องวงจรปิดที่ปรากฏในข่าว ซึ่งล่าสุด พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ได้สั่งชุดสืบสวนติดตามตัวคนขับรถกระบะต้องสงสัยมาได้อีก 1 ชุดแล้ว




จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องสงสัยที่ขับรถกระบะดังกล่าว เป็นเพียงนักดนตรีกลางคืนที่หลังจากเลิกงานได้ขับรถกลับบ้าน โดยชุดสืบสวนได้ไล่ภาพจากกล้องวงจรปิด ตามที่ปรากฏดังกล่าวพบว่า กระบะดังกล่าวได้ขับผ่านลานดินจุดเกิดเหตุจริง แต่ได้ขับผ่านโดยปกติ และไม่ได้มีไทม์ไลน์ที่มีพิรุธแต่อย่างใด


โดยระหว่างทางได้มีการแวะจอดพักและลงไปซื้อของที่ที่ร้านสะดวกซื้อตามปกติ ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน โดยพารุ่นพี่ไปส่งบ้านและได้ขี่รถกลับบ้านตามปกติ ซึ่งหลังจากตามตัวมาสอบปากคำแล้วไม่พบพิรุธใด และได้ปล่อยตัวกลับไปเรียบร้อยแล้ว

 

เตรียมเปิดข้อมูลมือถือ ผอ. จับพิรุธคุยกับใครก่อนตาย!