จากกรณีพบศพ ผอ.ระพิน ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณเทศบาลเมือง (ทม.) กำแพงเพชร เปลือยกายผูกคอเสียชีวิตบนต้นมะยมหน้าบ้าน ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โดยใช้กางเกงผูกคอ ต่อมาญาติและภรรยายังสงสัยในหลายประเด็นของการเสียชีวิตและจนถึงตอนนี้ ตำรวจยังไม่สรุปคดีว่า ผอ. ผูกคอตายด้วยตัวเอง หรือเป็นการฆ่าจัดฉากกันแน่
ความคืบหน้าล่าสุด(11 เม.ย. 2567) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่นิติเวช โรงพยาบาลกำแพงเพชร นางรัตติกร ภรรยาของ ผอ.ระพิน ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาติดต่อขอย้ายศพของสามีไปเก็บรักษาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จ.ปทุมธานี โดยจะขอนำศพของสามีไปเก็บรักษาชั่วคราวระหว่างรอผลตรวจชันสูตรอย่างละเอียดจากตำรวจ เนื่องจากเธอยังเชื่อมั่นว่าสามีไม่ได้คิดสั้นแขวนคอตายเอง และมองเป็นการจัดฉากฆ่ามากกว่า หากเผาศพของสามีไปก่อน อาจจะนำศพกลับมาตรวจใหม่อีกไม่ได้แล้ว จึงจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ก่อน
จากนั้น นางรัตติกรได้เข้าไปในห้องดับจิต ใช้เวลาติดต่อทำเรื่องนำศพของ ผอ.ระพิน ออกประมาณ 15 นาที จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำศพของของ ผอ.ระพิน นำขึ้นรถกู้ภัยเพื่อเดินทางไป จ.ปทุมธานีทันที ระหว่างที่นำศพของ ผอ.ระพิน ขึ้นรถ นางรัตติกร ยังได้นำบอนที่เตรียมมาตีบริเวณปากของ ผอ.ระพิน ตามความเชื่อของคนโบราณที่จะช่วยให้ดวงวิญญาณของ ผอ.ระพิน ช่วยเปิดปาก คันปาก บอกความจริงที่เกิดขึ้น และเพื่อให้คนร้ายยอมเปิดปากพูดความจริงออกมา
รวมถึงเธอยังได้เข้าไปกอดร่างของสามีและจุดธูปบอกสามี ขอให้สามีช่วยดลจิตดลใจให้ตำรวจและนักข่าวหาหลักฐานคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็ว เช่นเดียวกับคุณหมอฟิน ลูกชายของ ผอ.ระพิน ที่เข้ามาจุดธูปไหว้ศพของพ่อตัวเองด้วย
ต่อมาทีมข่าวได้สอบถาม นางรัตติกร ภรรยาของ ผอ.ระพิน ถึงจุดประสงค์ที่ต้องเก็บรักษาศพไว้ก่อน โดยเธอบอกว่า จนถึงตอนนี้ครอบครัวยังไม่มีความต้องการที่จะเผาศพของสามี เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด ยังต้องรอผลตรวจชันสูตรอย่างละเอียดจากแพทย์ และรอผลสรุปจากตำรวจก่อน ว่าแท้จริงแล้วสามีตนเองนั้นเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดกันแน่ เป็นการจัดฉากถูกฆ่าให้ตายและนำศพมาแขวนไว้ หรือ ฆ่าตัวตายเอง
นางรัตติกร ยังมีข้อสงสัยอีกหลายอย่างที่มองว่าสามีของตนเองไม่น่าจะแขวนคอเสียชีวิตเอง ทั้งสภาพศพ ที่มือเท้าเปื้อนดิน รวมถึงรองเท้าแตะของสามีได้หายไปในวันเกิดเหตุ ซึ่งปกติสามีของตัวเองเวลาจะขับรถจะต้องเปลี่ยนจากรองเท้าผ้าใบ รองเท้าหนัง เป็นรองเท้าแตะ รวมถึงลักษณะการที่สามีนำผ้าขี้ริ้วมาแขวนคอตัวเอง มันผิดปกติไปซะทุกอย่าง ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการพิสูจน์ให้ชัดเจน
และตนเองอยากวิงวอนขอเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว เนื่องจากผ่านไปหลายวันแล้ว แต่ตำรวจกลับไม่เคยรายงานความคืบหน้าทางคดีอะไรให้ตนเองทราบเลย ทั้งที่ครอบครัวตนเองเป็นผู้เสียหายยังค้างคาใจในหลายประเด็น ซึ่งตนเองอยากฝากไปถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยลงมาติดตามคดีนี้ให้หน่อย
ส่วนนางสาวฝน หญิงสาวคนสนิทกับสามี ตนเองก็อยากให้เจ้าตัวออกมาพูดหรือชี้แจงเช่นกันว่าในก่อนคืนเกิดเหตุสามีของตนเองไปหานางสาวฝน แล้วเข้าไปอยู่ด้วยกันไปทำอะไรกันในห้องพัก ซึ่งนางสาวฝนไม่เคยออกมาชี้แจงใด ๆ
ทั้งนี้ นางสาวฝนต้องการจะฟ้องสื่ออ้างว่าตัวเองเสียหายจากการที่สื่อนำเสนอ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เนื่องจากเป็นสิทธิของนางสาวฝน แต่ตัวเองก็อยากถามกลับนางสาวฝนว่า หากนางสาวฝนเป็นผู้เสียหาย แล้วครอบครัวของตนเองไม่ใช่ผู้เสียหายเหรอ ครอบครัวของตนเองเสียหายมากกว่านางสาวฝนมาก และหากนาวสาวฝนบอกว่าตัวเองเสียหาย แล้วเขาทำแบบนั้นทำไม มาอยู่ด้วยกันกับ ผอ. ทำไม เขาต้องรู้ดีว่า ผอ. มีครอบครัวอยู่แล้ว แล้วเขาทำทำไม
ซึ่งหากนางสาวฝนเป็นผู้บริสุทธิ์จริง ก็อยากให้ออกมาพูดความจริงกับผู้สื่อข่าว ออกมาแก้ต่างให้ตัวเองไปเลย สื่อก็มีหน้าที่ของเขาในการช่วยตรวจสอบหาความจริง ตนเองไม่เคยปรักปรำใคร ซึ่งตนเองไม่อยากจะไปมีปัญหากับนางสาวฝนถึงขั้นฟ้องชู้ หรือ เอาผิดเรื่องพฤติกรรม วินัยข้าราชการ ไม่อยากให้ไปถึงขั้นนั้น
จึงอยากขอให้นางสาวฝนช่วยออกมาพูดหน่อย เพราะตนเองเป็นผู้เสียหายก็อยากรู้เหมือนกันว่า เกิดอะไรขึ้นกับสามี ไม่ใช่เอาแน่นิ่งเงียบ บอกว่า ตัวเองไม่ผิดแต่ตัวเองเสียหาย ส่วนเรื่องที่ตนเองจำเป็นต้องนำบอนมาตีปากสามี เป็นความเชื่อของคนโบราณ ซึ่งก็อยากให้สามีช่วยดลจิตโดนใจให้คนร้ายที่ทำร้ายสามีคันปาก และยอมเปิดปากพูดความจริงออกมา