สามีเปิดใจเล่านาทีบุกรังรักของอดีตคู่หมั้นและพระลูกบุญธรรม เชื่อเรื่องนี้เป็นการสมยอมของทั้งสองฝ่าย เผยหากเมียมีชู้เป็นคนทั่วไปยังเข้าใจได้ แต่รับไม่ได้ที่มีชู้เป็นพระห่มผ้าเหลือง

 

จากกรณีสามีเปิดคลิปแฉนาทีตามจับชู้ถึงบ้านพักต่างจังหวัด อึ้งพบภรรยาซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองร่วมห้องกับพระหนุ่มที่เพิ่งรับเป็นลูกบุญธรรมในลักษณะเปลือยกาย ก่อนจะเปิดอักษรย่อ ป. อดีตนักการเมืองหญิงวัย 45 ปี เคยลงสมัคร ส.ส. สังกัดพรรคหนึ่งแต่สอบตก และเจ้าอาวาสหนุ่ม ห. วัย 24 ปี

 

ล่าสุดวันนี้ 11 เมษายน 2567 ทางด้านของนายติ (นามสมมุติ) ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเล่าว่า พื้นฐาน นาง ป. อดีตคู่หมั้นของตนนั้นมีความเชื่อในเรื่องของการดูดวงเป็นอย่างมาก บางครั้งบางคราวมีการชวนตนไปด้วย ซึ่งตนก็แค่ไปเป็นเพื่อนเฉย ๆ และไม่ได้อนุญาตให้หมอดูมาตรวจดวงชะตาอะไรของตัวเอง แต่ นาง ป. อดีตคู่หมั้นตนก็ยังคงนำเรื่องส่วนตัวของตนไปให้หมอดูทำนายทายทักอยู่เป็นประจำ นอกจากจะมีการพูดคุยกับหมอดูแล้ว อดีตคู่หมั้นของตนยังมีการนำดวงชะตาไปพูดคุยกับพระสงฆ์อีกด้วย หนึ่งในนั้นก็มีพระมหา ห. ซึ่งมีการไปเจอกันในงานทอดกฐินที่วัดแห่งหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อน แต่สิ่งที่มันแปลกคือ นาง ป. จะคุยกับพระมหา ห. ค่อนข้างนานกว่าปกติ แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเขาคุยเรื่องอะไรกันบ้างเนื่องจากตนไม่ได้เข้าไปฟังระหว่างมีการดูดวง นอกจากนี้เมื่อ นาง ป. กลับมาที่บ้านก็ยังคงมีการพูดคุยผ่านโทรศัพท์กับพระมหา ห. นานหลายชั่วโมง ซึ่งตนเข้าใจว่าในช่วงนั้น นาง ป. ประสบปัญหาหลายอย่างจึงคิดว่าเธอคงกำลังปรึกษาและหาทางออกโดยใช้ธรรมะเข้าสู้

 

และแล้วช่วงจังหวะหนึ่ง ทางด้าน นาง ป. ก็ได้บอกกับตนว่ามีการไปดูดวงมา หมอดูแนะนำว่าให้รับพระมหา ห. เป็นลูกบุญธรรมแล้วชีวิตจะดีขึ้น ทำให้ นาง ป. บอกให้นายติช่วยรับพระมหา ห. เป็นลูกบุญธรรม เนื่องจาก นาง ป. นั้นมีลูกอยู่แล้ว ซึ่งนายตินั้นยังไม่มีลูกและคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรจึงตัดสินใจรับพระมหา ห. เป็นลูกบุญธรรมต่อหน้าองค์พระที่พระธาตุดอยสะเก็ด ซึ่งหลายครั้งพระมหา ห. ก็เคยมาที่บ้านตนอยู่บ่อยครั้ง ลักษณะที่มาก็คือจะมาทำพิธี มาสวดมนต์ มาทำกิจกรรมทางศาสนาที่บ้าน และหากวันไหนไม่ได้กลับไปที่วัดก็จะมีการค้างอาศัยอยู่ที่บ้านบ้าง

 

ต่มาพักหลังช่วงที่ตนย้ายมาอยู่กรุงเทพ ส่วนนาง ป. ก็อยู่บ้านพักที่ต่างจังหวัด นายติยอมรับว่ารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง เริ่มติดต่อคู่หมั้นได้ยากขึ้น ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านที่รู้จักก็ได้ให้ข้อมูลมาว่า ช่วงกลางค่ำกลางคืนเห็น นาง ป. แวะเวียนไปที่วัด แล้วก็พาพระมหา ห. เข้าไปคุยกันต่อในรถยนต์แบบสองต่อสอง ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะพระมหา ห. ถึงขั้นไปหาคู่หมั้นของตนถึงที่บ้านในเวลากลางค่ำกลางคืน เพื่อนบ้านที่พบเห็นก็รู้สึกว่าเป็นที่ไม่ปกติจึงได้มีการแจ้งข้อมูลมาหานายติอยู่เป็นระยะ ท้ายที่สุดนายติจึงตัดสินที่จะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสุโขทัยเพื่อไปหาคู่หมั้นและต้องการจะพิสูจน์ให้เห็นกับตาตัวเองว่าสิ่งที่เพื่อนบ้านบอกนั้นเป็นความจริงหรือไม่ เมื่อกลับไปถึงบ้านตนก็ตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเอาไว้และก็เป็นอย่างที่เห็นตามในคลิป ทั้งสองคนกำลังนอนเปลือยอยู่ด้วยกันบนเตียงนอน และเมื่อทั้งคู่เห็นว่าตนกำลังบันทึกคลิปวิดีโออยู่ นาง ป. ก็รีบใส่เสื้อผ้าและพยายามเข้ามาแย่งมือถือพร้อมกับปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่ภาพที่เห็นตรงหน้ามันบอกความจริงทุกอย่างแล้ว ตนได้คำตอบหมดแล้วจึงตัดสินใจขับรถออกจากบริเวณนั้นในทันที ซึ่งในตอนนั้นยอมรับว่ารู้สึกโมโหมาก แต่ตนพยายามที่จะควบคุมอารมณ์ให้ได้มากที่สุดและไม่ทำร้ายใคร ซึ่งตนเชื่อว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเองคงไม่มีใครทนไหวแน่นอน จนมาถึงวันนี้ตนยังแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เพราะที่ผ่านมาตนนั้นกราบไหว้และเคารพนับถือพระมหา ห. อีกทั้งคู่หมั้นก็มีการเข้าวัดทำบุญร่วมกันตลอดจึงไม่นึกว่าจะกล้าทำบาปขนาดนี้

 

ส่วนประเด็นที่มีหมอดูทายทักว่าพระมหา ห. นั้นเป็นสามีในอดีตชาติของ นาง ป. ซึ่งเหตุนี้จะเป็นส่วนหนึ่งให้ นาง ป. หลงผิดหรือคล้อยตามคำทำนายหรือไม่นั้น ตนก็พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำว่าถูกพระหลอกหรือไม่ เพราะบางทีพระเป็นที่พึ่งทางใจของทุกคนในพระพุทธศาสนา แต่อดีตคู่หมั้นของตนเขาไปเชื่อในสิ่งที่อดีตพระคนนี้พูด ซึ่งอาจมีการค่อยๆ ใส่ข้อมูลความเชื่อเข้าไป แต่ลึก ๆ ตนก็มองว่าทั้งสองคนสมยอมกัน เพราะเรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ซึ่งในวันนี้ที่ตนได้ตัดสินใจตีแผ่เรื่องราวของตัวเองผ่านสื่อ ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะมุ่งร้ายหรือแฉใคร วันที่เกิดเหตุตนต้องอดทนอดกลั้นกับภาพที่เห็นและไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดความรุนแรง ตนมองว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทย แน่นอนว่าการคบชู้หรือการมีมือที่สามนั้นเป็นเรื่องปกติที่หลายคนต้องพบเจอ แต่เหตุการณ์นี้มันต่างออกไปเนื่องจากชู้ของคู่หมั้นตนนั้นเป็นพระที่ห่มผ้าเหลืองอยู่ สิ่งแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทุกวันนี้ตนยังรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนี้เชื่อว่าตัวเองก็ยังคงมีความหวังดีต่ออดีตคู่หมั้นอยู่ แต่ความรักความห่วงใยที่เคยมีมันก็ต้องลดน้อยถอยลง และหายไป

 

เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงผู้หญิงหรือไม่ นายติตอบว่า “ไม่มี ไม่รู้จะฝากอะไรจริงๆ เพราะไม่รู้จะเอาคำไหนมาพูดดีในสิ่งที่มันเกิดขึ้นที่สองคนทำไว้”และไม่คิดว่า นาง ป. จะรู้สึกอยากขอโทษตน เพราะตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง นาง ป. ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกผิดต่อตนเลย ส่วนในเรื่องของคดีความ ตนก็เตรียมที่จะปรึกษาทนายความว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะในช่วงที่มีการจัดงานหมั้นก็มีการวางสินสอดไว้จำนวนหนึ่ง หากปรึกษาทนายแล้วสามารถเรียกกลับคืนได้ตนก็จะทำ

  

คลิปเสียงลับ สาวนักการเมืองโวย สาวคนกลางเอาเรื่องไปแฉ

ทีมข่าวได้คลิปเสียงการสนทนาระหว่าง สาว ป. (นักการเมือง) มีการพูดกับ หลวงพี่ โดยมีการต่อประชุม 3 สาย (อีกคนเป็นผู้หญิง) ใจความว่า ป.พูดว่ามีสิทธิ์อะไรที่เอาเรื่องส่วนตัวไปคุย มันหมิ่นประมาท มีการคุยว่ามีหลักฐานอะไรที่ ป.ได้กับหลวงพี่

สาวในคลิปมีการบอกว่า หลวงพี่ยอมรับเองว่าได้กัน ด้านสาว ป.บอกเรื่องจริง ไม่จริงไม่รู้ แต่เรื่องนี้ไม่จบแน่

ต่อมาเสียงผู้ชายบอกว่า ทำไมสาวคนกลางต้องเอาเรื่องไปพูดต่อ พระยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ยอมรับ แต่ถูกจี้ถาม สาว ป. เลยบอกมันติดคุกนะ หมิ่นประมาท และมีการต่อสายคุยกับผู้การแล้ว

จับเมียคาเตียงนอนกับมหา "ห" เปลือยกาย แจง "มาแค่อาบน้ำ น้ำไม่ไหล"