จากกรณีคดีพบศพ ผอ.ระพิน ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณเทศบาลเมืองกำแพงเพชร อยู่ในสภาพเปลือยกายใช้กางเกงผูกคอตนเองกับกิ่งมะยม ซึ่งทางครอบครัวติดใจลักษณะการตาย และต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เจอหลักฐานพลิกคดีที่คาดว่าการตายของ ผอ. เป็นการจัดฉากฆาตกรรม หลังพบพิรุธหลายอย่าง นั้น

ล่าสุด (9 เม.ย. 2567) มีรายงานว่า หนึ่งในเพื่อนของกลุ่ม ผอ.ระพิน คนตาย ซึ่งอยู่ในกลุ่มทหารเรือ และฝ่ายปกครอง ที่มีการสร้างกลุ่มขึ้นมา สำหรับนัดหมายหมายรวมตัวกันและกินเลี้ยงประจำเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการนัดหมายไปเจอกันที่ร้านอาหารในคืนวันเกิดเหตุ ทั้งร้านอาหารริมน้ำและร้านข้าวต้ม โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “ชมรมทหารเรือกำแพงเพชร” ซึ่งมีสมาชิก 57 คน

โดยเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวได้มีการส่งแชตข้อความ ที่มีการนัดหมายรวมตัวกันมาให้ทีมข่าวเพิ่มเติม โดยมีข้อความทำนองว่า “ขอเชิญร่วมดื่มสังสรรค์กัน เพื่อร่วมแสดงความยินดีให้กับเพื่อนที่เข้ามาประจำในพื้นที่กำแพงเพชร” รวมถึงได้มีการส่งภาพในคืนวันเกิดเหตุเพิ่มเติมให้ทีมข่าว โดยจะเห็นบรรยากาศตั้งแต่ร้านริมน้ำร้านแรก ตัวของ ผอ. ระพิน มีการสวมใส่เสื้อสีเหลืองอมเขียว ลายดอก นั่งอยู่ในวงล้อมของกลุ่มเพื่อน และมีการยิ้มอย่างมีความสุข ซึ่งไม่ได้มีท่าทีเคร่งเครียด หรือใบหน้าเศร้าหมอง

อีกทั้งยังได้มีการมอบของที่ระลึกที่ไปซื้อมาจากร้านของที่ระลึกในเมืองกำแพงเพชรกำแพง เป็นหลวงพ่อเศรษฐี ที่เจ้าตัวมีการไปซื้อมาจากร้านของที่ระลึกจำนวน 4 ชิ้น โดยมีการนำมามอบให้กับรุ่นน้องที่เข้ามาประจำในจังหวัดกำแพงเพชร

และในบรรดากลุ่มเพื่อนของ ผอ. คนตาย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไม่ปักใจเชื่อตามข้อมูลที่ปรากฏว่ามีการเขียนจดหมาย หรือข้อความตัดพ้อเอาไว้ในห้องทำงาน ซึ่งเป็นลักษณะคำกลอนเตือนใจ ไม่ใช่บทความตัดพ้อ และยังคงยืนยันตามภาพที่ส่งให้ทีมข่าวเพิ่มเติมว่า วันเกิดเหตุ ผอ. ยิ้มและมีความสุขกับเพื่อน ไม่มีแนวโน้มว่าจะฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน

ขณะที่เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) ทีมข่าวได้การทดสอบบินโดรน เพื่อดูภาพมุมสูงจากจุดบ้านของ ผอ. ไปแถวละแวกลานดินหลัง อบจ. ลานดินจุดแรกที่ลูกและคนในครอบครัวให้ข้อมูลกับทีมข่าวช่อง 8 ว่าสัญญาณ GPS ของสมาร์ตวอตช์ไปโผล่ โดยมีการขับเลยบ้านออกไป ซึ่งจากการบินโดนจะเห็นภาพมุมสูง กว่าจะไปถึงบริเวณลานดินดังกล่าวจะมีบ้านคนสวนข้าวโพด ซึ่งจะห่างออกจากบ้าน ผอ. ประมาณ 300 เมตร

และจากการบินภาพมุมสูงจะเห็นฝั่งขวา ซึ่งเป็นหลังคาสีขาว บริเวณดังกล่าวเป็นส่วนงานโยธาของอบจ. โดยติดกับรั้วของหลังคาดังกล่าวเป็นเขตของพื้นที่ อบจ. จะลักษณะเห็นเป็นลานดินที่พึ่งมีการไถพรวนเพาะปลูก โดยจุดนั้นเป็นจุดที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานไปเก็บดินเป็นจุดที่ 2

และหากมีการสำรวจจากภาพมุมสูงบ้านของ ผอ. จะเห็นบ้านของ ผอ. หลังคาสีแดง และมีโรงรถอยู่ฝั่งซ้ายของบ้าน ด้านหน้าจะเป็นต้นมะยม ส่วนรอบบ้านจะเป็นลักษณะสวน เพราะเจ้าตัวมีการซื้อที่มีการเพาะปลูกกระท้อน มะม่วง และพืชชนิดอื่นรอบบ้านเพื่อทำลักษณะบ้านสวน จึงไม่ได้มีรั้วรอบขอบชิด แต่ส่วนด้านหลังจะมีส่วนข้าว ซึ่งมีขนำตั้งอยู่แต่เป็นขนำของชาวบ้านที่ใช้สำหรับเวลามาสวนไม่ได้อยู่อาศัย และหลังบ้านของ ผอ. จะมีลักษณะเป็นคลองเล็ก ๆ ซึ่งไม่สามารถที่จะเดินทะลุมาได้ เพราะเนื่องจากจะต้องมีการข้ามคลอง ฉะนั้นจากภาพมุมสูงหากคนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุ จึงต้องผ่านถนนด้านหน้าบ้านเท่านั้น เพราะเนื่องจากมีทางเข้าออกทางเดียว ฝั่งซ้ายและขวาเป็นสวน บางช่วงรกทึบ

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ทางตำรวจตั้งข้อสงสัยว่า หลังจาก ผอ. ขับออกจากลานดิน เป็นไปได้หรือไม่ที่ ผอ. จะแวะไปหาใครหรือไม่ ซึ่งทางตำรวจตั้งปมว่า ผอ. อาจจะแวะไปหานางสาวฝน หญิงคนสนิทก็เป็นได้ แต่จากหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ทีมข่าวช่อง 8 เจอนั้นพบว่า ผอ. ไม่ได้ขับรถออกจากลานดินเพื่อแวะไปหานางสาวฝน โดยในภาพวงจรปิดจะเห็นว่า รถของ ผอ. ขับออกจากลานดิน แล้วขับผ่านบริเวณด้านหน้าของหอพักนางสาวฝนไปเลย แล้วก็ขับกลับเข้าบ้านของตัวเอง ก่อนจะกลายเป็นศพดังกล่าว

สำหรับกรณีที่ศพ ผอ.ระพิน แขวนคอเสียชีวิตพบว่า ที่ปลายอวัยวะเพศมีเลือดคั่ง โดยประเด็นนี้ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ “หมอหมู” อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เผยว่า กรณีนี้หากตัวดูไม่พบว่ามีบาดแผลใด ๆ ที่บริเวณอวัยวะเพศก็อาจจะเป็นไปได้จาก 2 กรณี คือ

1. เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตจากการแขวนคอ ท่ายืนที่ขาลอยจากพื้น จึงทำให้มีการตกลงสู่เบื้องต่ำ ทำให้เลือดหลังตายลงมาที่ขา ต้นขา และเท้า รวมถึงอวัยวะเพศ ซึ่งการคั่งของเลือดที่เกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ เนื่องจากอวัยวะเพศเป็นเนื้อเยื่ออ่อนก็อาจทำให้เลือดซึมผ่านออกมาได้ทั้งที่ไม่มีบาดแผลหรือแม้กระทั่งมีบาดแผลถลอกเพียงเล็กน้อยบริเวณอวัยวะเพศ

2. อาจมาจากที่มดไปกัดบริเวณอวัยวะเพศหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยในกรณีนี้ก็อาจทำให้มีเลือดไหลซึมออกมาได้เช่นกัน โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการผ่าชันสูตรศพ

ขณะที่ นางสาวเปมิกา อาสากู้ภัยชุดแรกที่เข้าไปถึงที่เกิดเหตุ ก่อนตำรวจร้อยเวรและแพทย์เวร รวมทั้งญาติจะเดินทางมาถึง เผยว่า ในวันที่พบศพหลังจากได้รับแจ้งเหตุเวลา 09.00 น. เศษ ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ ซึ่งในตอนนั้นกู้ภัยไปถึงก็ได้มีการกันพื้นที่ตามระเบียบและการทำงาน เพื่อไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเริ่มมีเพื่อนร่วมงานที่ทำงานอยู่ในเทศบาลเทศบาลเมือง รวมทั้ง อบจ. เข้ามาดูที่เกิดเหตุแล้วเห็นสภาพศพ พูดตรงกันว่าอย่าให้ใครเข้าไปยุ่งกับศพ เพราะอาจจะเป็นเรื่องของการฆาตกรรมหรือถูกทำร้ายหรือไม่ เนื่องจากศพตายแปลก จนกระทั่งครอบครัวคือลูกและภรรยามาถึง ก็ยังติดใจการตาย ซึ่งไม่มีใครเชื่อว่าคนตายผูกคอตาย ทุกคนลงความเห็น ร่วมกันหลังจากที่เห็นศพ ว่ายังไงก็เป็นเหตุการณ์ถูกทำร้ายหรือฆาตกรรม

และระหว่างช่วงที่รอตำรวจ รวมถึงแพทย์เวร และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาในที่เกิดเหตุ เป็นช่วงที่ชาวบ้านรวมถึง เจ้าหน้าที่ อบต. อบจ. และรวมถึงเพื่อนร่วมงานมาถึงที่เกิดเหตุเพิ่ม แต่ร่างของ ผอ. ยังอยู่บนต้นมะยม และมีเส้นกั้นแนวเอาไว้ ซึ่งก็มีคนพูดแทรกขึ้นมาทำนองว่า “ทำไมไม่รีบเก็บศพ มันคือเหตุการณ์ผูกคอตาย” แต่ตนเองไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูด เพราะเข้าใจว่าตอนนั้นคนมาเยอะ แต่ได้ยินเสียงค่อนข้างชัดมาจากในกลุ่มที่มามายืนดู

สำหรับร่างของ ผอ. ในฐานะที่ตนเองเป็นกู้ภัยมาหลายปี และเคยเก็บศพเกี่ยวกับคนผูกคอตาย เข้าใจว่าลักษณะลิ้นจุกปากมีความเป็นไปได้ว่าผูกคอตาย แต่สิ่งที่ทำให้ยังคงคาใจในหลายอย่าง คือ บริเวณอวัยวะเพศ ที่มีลักษณะเลือดไหลออกมา เข้าใจว่าคนตายแล้วทวารทั้ง 5 อาจมีการเปิดเลือดหรือของข้างในอาจจะทะลักออกมา แต่ก็พบเจอได้น้อยมาก ส่วนใหญ่เลือดจะออกที่มุมปากหรือจมูกเล็กน้อยไม่ได้ไหลเป็นน้ำเหมือนกับร่างของ ผอ. และตอนที่ไปถึงมีเลือดไหลบริเวณอวัยวะเพศ ลักษณะเป็นเหมือนลิ่มเลือด ไหลออกมาประมาณ 3 นิ้ว ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงเวลา 9 นาฬิกาเศษ แต่ร่างของ ผอ. ยังถูกแขวนไว้บนต้นมะยม จึงทำให้เลือดยังไหลอยู่ และเมื่อญาติมาถึงช่วงเกือบเที่ยง แพทย์เวรก็มาหลังจากนั้นจึงทำให้เลือดไหลออกมาต่อเนื่อง จากประมาณ 3 นิ้ว กลับเพิ่มขึ้นเกือบ 10 นิ้ว ลักษณะเป็นเส้นตามที่เห็น และยังมีการไหลออกมาที่ขาหนีบ แต่ก็ไม่ชี้ชัดว่าไหลออกมาได้อย่างไร เพราะเป็นเรื่องของการพิสูจน์ในการชันสูตรศพของแพทย์

และร่างของ ผอ. ยังพบว่ามีลักษณะดินหรือโคลนติดอยู่ที่เท้าทั้ง 2 ข้าง บริเวณแผ่นหลังก็มีลักษณะคล้ายฝุ่นหรือดินติดเหมือนกัน แต่ด้านหลังเข้าใจว่าเหงื่ออาจจะขับออก จึงทำให้ดินหรือฝุ่นที่ติดด้านหลัง ไหลหยดออกไปบางส่วน และดินที่ติดอยู่ที่เท้า เมื่อเทียบกับลักษณะรอบบ้าน เข้าใจว่าอาจจะเกิดจากดินโคลนหรือดินแถวละแวกห้องน้ำหรือไม่ เพราะเนื่องจากจุดดังกล่าวมีกองอุจจาระ

กรณีการถูกตั้งคำถามว่า บริเวณหลังห้องน้ำซึ่งพบกองอุจจาระ ที่คาดว่าอาจเป็นของ ผอ. เมื่อมีการตรวจสอบกับร่างของ ผอ. ที่อยู่บนต้นไม้ เบื้องต้นไม่มีรอยอุจจาระติดอยู่ที่ขา หรือไหล่ออกมาที่ก้น แต่ไม่แน่ใจว่าการชันสูตรของแพทย์จะพบเพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากในฐานะกู้ภัยจะเป็นการสังเกตโดยรวม ไม่สามารถที่จะไปพลิกหรือเปิดดูได้ ทำหน้าที่เก็บศพหลังจากที่แพทย์เวรตรวจแล้วเท่านั้น