จากกรณีเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 เวลา 04.30 น. ร.ต.อ.วสันต์ แสงโทโพธิ์ รองสารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรวังสะพุง ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายกันที่บริเวณจัดงานคอนเสิร์ตภายในโรงเรียนเทศบาลเมืองวังสะพุง บ้านบุ่งไสล่ ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย

 

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือนายบุญเกื้อ อายุ 54 ปี เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทับกี่ ต.อิปุ่ม อ.ด่านซ้าย จ.เลย

 

สภาพเปียกชุ่มไปด้วยเลือด มีบาดแผลที่บริเวณท้องและลำคอ เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลวังสะพุง เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยพบอาวุธมีดเปื้อนเลือดตกอยู่บริเวณใกล้กัน

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นลานกว้าง ด้านหลังโรงเรียน โดยในพื้นที่ยังคงพบกองเลือดของผู้ตายอยู่เป็นจำนวนมาก โดยห่างจากจุดที่พบกองเลือดจะเป็นป่าละเมาะอยู่ ที่ผู้ตายเดินเข้าไปปัสสาวะก่อนจะถูฏทำร้ายจนเสียชีวิต

 

โดยทีมข่าวช่อง 8 ยังได้สังเกตเห็นสร้อยของผู้ตาย จำนวน 2 เส้น เส้นละ 1 บาท รวมเป็น 2 บาท ซึ่งตกอยู่ใกล้ๆจุดเกิดเหตุ

เมื่อย้อนกลับไปดูภาพเก่าๆของผู้ตาย ก็จะพบว่าผู้ตายมักจะใส่สร้อยทองอยู่ที่คอบ่อยครั้ง

 

สอบถามนายอาทิตย์ อายุ 33 ปี ที่เห็นเหตุการณ์ อยู่ในสภาพที่เมา เล่าว่า เห็นชายสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่ท้ายรถบรรทุกคณะคอนเสิร์ต จึงเข้าไปห้าม เห็นชายคนตัวโตถืออาวุธมีดจะแทงผู้ตาย จึงเข้าไปห้าม จากนั้นตนเองก็เดินออกมา และไม่เห็นเหตุการณ์อะไรอีกเลย จนท.นำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.วังสะพุง

 

ขณะเดียวกันนางนิกุล 48 ปี ภรรยา ผอ.รพ.สต.ตำบล อีปุ่ม อ.ด่านซ้าย จ.เลย ทราบข่าวเดินทางจาก อ.ด่านซ้ายมาที่เกิดเหตุ พร้อมลูกชายและญาติพี่น้อง เล่าว่า สามีเป็น ผอ.รพ.สต. ตำบลอีปุ่ม อ.ด่านซ้าย ชอบดูหมอลำ เมื่อทราบว่าคณะหมอลำใจเกินร้อยมาแสดงที่ อ.วังสะพุง จึงชวนเพื่อนมาด้วย 3 คน และใส่สร้อยคอทองคำมา เพื่อนผู้ตายที่มาด้วยกัน เล่าว่า ผู้ตายกำลังไปยืนปัสสาวะอยู่ แต่ตอนที่เกิดเหตุไม่เห็นเหตุการณ์ แต่เห็นผู้ตายล้มลงเข้าใจว่าเป็นลมจึงเข้าดู แต่กลับพบว่าผู้ตายถูกแทงจนเสียชีวิต

เบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนเผยกับทีมข่าวว่า จากการสอบปากคำนางบัวงา ให้การว่า ตัวเองเดินทางมาเที่ยวงานหมอลำพร้อมกับนายบุญเกื้อ คนตาย จริง เนื่องจากตัวเองรู้จักและสนิทกับคนตายมานานแล้ว ส่วนก่อนเกิดเหตุ ตัวเองได้เดินไปปัสสาวะพร้อมกับคนตาย ที่ป่าละเมาะตรงบริเวณที่มีรถบรรทุกอุปกรณ์งานคอนเสิร์ตจอดอยู่ ซึ่งตัวเองได้ไปปัสสาวะที่หน้ารถบรรทุกคันที่ 2 ส่วนคนตายไปปัสสาวะอยู่บริเวณท้ายรถคันเดียวกันจากนั้นเมื่อปัสสาวะเสร็จตัวเองได้เดินกลับมาที่หน้าเวทีก่อน แล้วผ่านไปประมาณ 3 นาที ก็พบว่า นายบุญเกื้อ ถูกแทงเสียชีวิต

 

นางบัวงา ยืนยันว่าขณะเกิดเหตุ ตัวเองไม่เห็นเหตุการณ์ พร้อมกับยืนยันด้วยว่า ที่ผ่านมาไม่มีเคยมีเรื่องโกรธเคืองกับคนตาย ซึ่งคนตายเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยเห็นมีปัญหากับใคร แล้วภายในงานคอยเสิร์ตวันนั้นก็ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกันกับใครด้วย

 

ขณะที่นางสาวมนทะนา อายุ 16 ปี ลูกสาวของนางบัวงา ให้การว่า ตัวเองมาดูคอนเสิร์ตด้วยกันกับแม่ และนายบุญเกื้อ คนตาย ซึ่งก่อนเกิดเหตุตัวเองนอนหลับอยู่ในหน้าเวทีหมอ พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ก็เกิดเหตุขึ้นแล้ว จึงไม่เห็นเหตุการณ์ที่มีการทำร้ายกันจนเสียชีวิต

 

โดยภายหลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้น ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงของพยานทั้ง 3 คน เพื่อนำไปตรวจเปรียบเทียบกับวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ

 

นอกจากนี้ตำรวจยังได้เชิญน้องเขย ของนายบุญเกื้อ คนตาย มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย โดยน้องเขย ระบุ ได้นำโทรศัพท์มือถือของคนตายมามอบให้กับตำรวจ เพื่อใช้ในการสืบสวนหาเบาะแสคนร้าย ซึ่งน้องเขย บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว อ้างว่าตัวเองไม่ทราบรายละเอียดใดๆ เพียงแต่นำหลักฐานมามอบให้เท่านั้น ทั้งยังบอกด้วยว่าไม่รู้จักกับชาวลาว 3 คน ที่เดินทางไปดูคอนเสิร์ตพร้อมกับคนตายเมื่อคืนนี้ ส่วนเมื่อถามถึงลักษณะนิสัยของคนตาย ก็ยอมรับว่า เป็นคนสนุกสนานเฮฮา

สยองฆ่าแทงคอ ผอ. กลางงานคอนเสิร์ต พบสร้อยขาด! เค้นเพื่อน ล่า 2 คนร้าย!